Justice ตอนที่5



[---]ฐิติภัทรค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ภาพที่เห็นตรงหน้าเบลอพร่าไปหมด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอพยามเรียบเรียงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อครู่ อย่างกับจะจำได้คับคล้ายคับคลาว่าเธอจูบเจ้าของบ้านไปไม่นานนี่เอง กลิ่นความหอมฟุ้งตรึงใจของหล่อนยังคงกระจายแผ่ไปทั่วสมองเธออยู่เลย

[---]“คุณตื่นแล้วเหรอ” ใบหน้าอ่อนเยาว์ไร้ที่ติก้มลงมองเธอ

[---]“นี่เธอทำอะไรฉัน” ความหงุดหงิดของคนตกใจ ทำให้รีบกระชากตัวหล่อนมาเขย่า เผื่อว่าแรงกระเทือนนั่นจะทำให้คำตอบล่วงหลุดออกมาจากปากได้ง่ายขึ้น

[---]เอ๊ะ เสื้อยืดตัวเมื่อกี้นี้ ก็ไม่ได้ขาด ผมเผ้าของเจ้าหล่อนก็มัดเรียบร้อย ไม่ได้กระจุยกระจายเหมือนครั้งแรกที่เจอไม่มีผิด ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกฟกช้ำตามแขนขาจากการต่อสู้ดุเดือดเมื่อครู่ แล้วนี่มันโซฟาไม้สักที่เธอมานั่งรอผู้หญิงคนนี้

[---]“โอ๊ย เจ็บนะ” สีหน้าหวาดกลัวของหล่อน ทำให้เธอตกใจไม่น้อย สองมือรีบปล่อยตัวเจ้าของบ้านให้เป็นอิสระ 

[---]ไม่ใช่ละมั๊ง ไม่ใช่แบบนี้นี่นา เมื้อกี้ยังออกฤทธิ์เดชอยู่เลย จะมาสำออยอะไรตอนนี้ ไม่เข้าใจเลย

[---]เธอรีบผลักคนตรงหน้าให้ล้มลงกับพื้น เปิดฉากการต่อสู้ที่คิดว่ามันยังติดอยู่ในความมึนงงนั่นอยู่ มือทั้งสองคว้าเสื้อหล่อนมากระชากฉีกออกดังเมื่อครู่ มองดูเรือนร่างขาวผ่อง แบบนี้เลยที่เห็นเมื่อกี้ มือบางพยามปัดป้อง แต่ไม่เป็นผล เธอคว้าดึงผมหล่อนให้หลุดลุ่ย ยื่นหน้าที่มีแต่ความสงสับให้เข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น กลิ่นหอมแบบนี้เลย 

[---]“....” อะไรกัน สีหน้าหวาดกลัวกับเนื้อตัวที่สั่นเทิ้มนั่น มันไม่ใช่แบบนี้นี่ หล่อนร้องไห้ด้วย ทำไมมันกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้

[---]“อย่าทำแบบนี้” เสียงสะอื้นไห้จนเธอเองเป็นฝ่ายสงสารจับใจ รีบถอยห่างออกจากร่างสวย ฉันทำอะไรลงไป มันเรื่องจริงนะ เรื่องจริงทั้งหมด แต่ทำไม....

[---]“ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ว่าแล้วก็รีบคลำดูกระเป๋า ยังคงมีบัตรประชาชนของผู้หญิงคนนี้ และเครื่องบันทึกเสียง 

[---]ใช่! เครื่องบันทึกเสียง มันจะตอบเธอได้หมด แม้ว่ามันอาจจะถูกลบ แต่เมื่อกดเริ่มกดบันทึกอีกครั้งมันจะตั้งให้เป็นหมายเลขต่อจากไฟล์เสียงก่อน

[---]ฐิติภัทรหยิบเครื่องบันทึกออกมากดดูเร็วไว ก็ไม่พบความผิดปกติอันใดเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเครื่องยังบันทึกต่อจากที่เธอประชุมสัมมนาครั้งก่อน มีเพียงความเงียบกับเสียงตึงตังเหมือนอะไรล้ม แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน

[---]“ฉันมานอนที่นี่ได้ยังไง เธอทำอะไร” ถามเสียงดังกับคนที่นั่งมองเธออย่างหวั่นๆ

[---]“คุณเป็นลมไป”

[---]“ไม่จริง เธอโกหก” เธอตรงรี่เข้าไปกระชากแขนหล่อนอีกครั้ง 

[---]“อย่าทำร้ายฉัน” เจ้าของร่างบางไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนอย่างที่มันควรจะเป็น หากแต่พนมมือไหว้ขอความเห็นใจ แล้วเมื่อสักครู่ล่ะ จะว่ามันเป็นฝันเหรอ ฝันที่สมจริงขนาดนั้นเนี่ยนะ

[---]แต่ถ้ามันเป็นฝันจริงๆ ล่ะ ตายแล้ว นี่เราบุกเข้ามาในบ้านเค้า พยามจะทำร้ายเจ้าของบ้านหรือเนี่ย โอยๆ ผิดเต็มประตูเลย คิดได้ดังนั้นก็รีบปล่อยมือทันที ส่วนคนสวยน่ะเหรอ พยามจะถอยหนีออกจากผู้กองอารมณ์ร้าย แล้ววิ่งไปหลบส่วนอื่นของบ้าน แต่มือไวก็คว้าข้อมือบางไว้ได้ทันอีกครั้ง

[---]“คุยกันก่อน” เธอดึงอีกคนให้นั่งลงตาม

[---]“....” ไร้เสียงตอบกลับ แต่เป็นแววตาจ้องกลับเหมือนลูกกวางกำลังจะถูกสิงโตป่ากิน

[---]“ฉันหลับไปนานมั๊ย”

[---]“....” เงียบ

[---]“ตอบมาสิ เธอวางยาฉันใช่มั๊ย”

[---]ไม่ทันที่จะได้คาดคั้นเอาความก็มีเด็กสาวอีกคนโผล่โพร่งออกมาจากมุมหนึ่งของบ้าน 

[---]หญิงสาววัยใสที่น่าจะเรียกได้ว่ารุ่นราวคราวเดียวกันกับคนที่นั่งข้างๆ กันตรงนี้ และถ้าเธอไม่ทราบอายุที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ซะก่อน ก็คงจะเดาไปเองว่าหญิงสาวอีกคนคงอายุยังน้อยอยู่ 

[---]ผู้มาใหม่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบเหมือนแม่บ้าน แต่หล่อนยกถาดของว่างเข้ามาในห้อง และทำหน้าตกใจและตะลึงกับภาพที่เห็น.... 

[---]เจ้าของบ้านถูกตำรวจข่มขู่ เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของคนตัวสั่นนั่นเล่า จะอะไรอีกถ้าไม่ใช่การกระทำของผู้มาเยือน

[---]“กานต์” หล่อนอุทาน ทว่าสติยังดีมากเพราะหล่อนรีบวางถาดขนมกับโต๊ะก่อนจะปล่อยมันหล่นพื้น

[---]ฐิติภัทรได้สติก็รีบปล่อยมือออก เห็นณิกานต์รีบลุกขึ้นไปยืนหลบด้านหลังของคนเรียก ส่วนเธอก็ได้แต่มองตาม งามหน้ามั้ยล่ะ มาสร้างความวุ่นวายในบ้านเค้า ทำร้ายเค้ายังไม่พอ ตัวเองเป็นถึงคนรักษากฎหมายอีกต่างหาก 

[---]ทว่าคำถามทั้งหมดทั้งมวลยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด ซ้ำยังมีคนมาขัดจังหวะ 

[---]หน่วยความจำในสมองเธอยืนยันได้แน่ว่าเมื่อครู่ไม่ได้ฝัน มันเป็นเรื่องจริง เรื่องจริงที่ผู้หญิงมีเล่ห์เหลี่ยมคนนี้กุขึ้น หล่อนยังแกล้งทำหน้าตาตื่นตกใจได้สมจริงอีกต่างหาก

[---]“เชิญคุณกลับไปเถอะ ที่นี่คงไม่ต้อนรับคุณอีกเป็นครั้งที่สอง” เด็กสาวแรกรุ่นอีกคนส่งสายตาไม่เป็นมิตรนักมาที่เธอ แววตานั่นช่างดูดุดัน ไม่สมกับความอ่อนเยาว์ของรูปกายภายนอกเลยสักนิด

[---]“ฉันจะมาที่นี่อีกแน่” มาพร้อมหมายค้นยังไงล่ะ

[---]แขกผู้มาเยือนเดินออกมาด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก ระหว่างความสงสัยกับความรู้สึกผิด หรือเธอจะสลบไปจริงๆ แล้วพอฟื้นขึ้นมาก็ทำร้ายหล่อน ไม่เอาน่าเชื่อประสาทสัมผัสของตัวเองหน่อย

....................................

[---]เธอเปิดประตูเดินเข้าที่ทำงานอย่างเร่งด่วน ด้วยต้องการค้นให้รู้ว่าผู้หญิงอีกคนที่นำถาดของว่างเข้ามาเสริฟนั้นเป็นใคร เพราะแววตาหล่อนช่างแข็งกร้าวน่ากลัวไม่ต่างจากณิกานต์ในฝันยามที่เธอสลบ 

[---]แววตานั้นไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด แล้วถ้าหากเธอไม่แว้บไปสังเกตเห็นมือของณิกานต์รั้งชายเสื้อหล่อนไว้ ป่านนี้หล่อนอาจกระโจนเข้าใส่เธอแล้วก็เป็นได้ เพราะนั่นไม่ได้ดูเหมือนการรั้งเสื้อไว้เพราะความหวาดกลัว แต่มันเป็นการเตือนว่าอย่าทำอะไรผลีผลามมากกว่า

[---]“ผู้กองภัทรดูสดชื่นจังเลยนะครับ ไปไหนมาป่าว” หนึ่งในลูกน้องแซวเล่นเมื่อเธอเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่น่าจะเรียกว่าไม่สดชื่นสิ ไหงพวกนี้มาล้อเล่นไม่ดูตาม้าตาเรือเลย

[---]“ไปสืบคดีมา” คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ แล้วรีบเดินเข้าห้องไป เครียดจะแย่อยู่แล้วยังจะมากวนหาว่าเธอดูสดชื่นได้อีก

[---]ฐิติภัทรถอดเสื้อคลุมวางพาดบนเก้าอี้ทำงานแล้วก็นั่งนิ่งหลับตาครู่ใหญ่ สองมือควานหาปากกากับสมุดโน๊ตใต้โต๊ะ จดขยุกขยิก เขียนความคิดบางอย่างเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย

[---]มือเรียวยาวเอื้อมไปเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เอี่ยว แล้วก็ต้องมาตกใจกับเงาสะท้อนจากวัตถุสีเงินทรงกระบอกใส่ปากกากับดินสอตั้งอยู่ใจกลางโต๊ะทำงาน นั่นใครกัน! เธอหยิบมันเข้ามาส่องดูใกล้ๆ ระหว่างพิจารณาใบหน้าที่ดูคุ้นเคย มืออีกข้างก็สัมผัสใบหน้าตัวเองช้าๆ

[---]เธอรีบลุกขึ้นด้วยอารมณ์ใดไม่แน่ชัด กวาดของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋าเป้เดินออกห้องในทันที บอกกับลูกน้องให้สืบค้นดูว่าแม่บ้านหรือผู้อยู่อาศัยคนใหม่ของคุณณิกานต์เป็นใครมาจากไหน แล้วส่งไฟล์เข้าอีเมล์เธอด้วย

....................................

[---]รถกระบะสีดำสนิทจอดนิ่งที่บ้านพัก ฐิติภัทรเดินลิ่วเข้าไปภายในตัวบ้าน หยุดอยู่ตรงกระจกบานขุ่นมัวภายในห้องน้ำ เฮ้ย! ตกใจสิ หน้าเธอดูอ่อนเยาว์ลงมาก มากกว่าความเป็นจริง วินาทีแรกที่เห็นก็ทำเอาเธอใจหาย ซึ่งมันควรจะดีใจมิใช่หรือ

[---]ทว่าความดีใจนั้นกลับแทนที่ด้วยความประหลาดใจมากกว่า

[---]ใบหน้าสดใสไม่เคร่งเครียดอย่างที่มันควรจะเป็น มิน่าพวกลูกน้องถึงแซว เหมือนย้อนอายุไปสักเจ็ดหรือแปดปี

[---]หล่อนต้องทำอะไรบางอย่างกับเธอแน่ๆ ต้องไปเจอให้ได้ แต่จะกลับไปตอนนี้ ยังก่อน เพราะพึ่งจะฉีกเสื้อคนสวยขาด บิดแขนขาวเนียนนั้นจนเขียวช้ำ ขู่ตะคอกให้ตอบคำถาม เอิ่ม อย่าพึ่งไปเจอดีกว่า

[---]ถอนหายใจยาวเหยียดกับเรื่องหาข้ออ้างไปพบหล่อนอีกทีได้ยังไง จะหาหมายค้นไปจริงก็คงนานกว่าจะได้เจอ บางทีคงเก็บหลักฐานเปิดแนบไปแล้ว ทั้งเจ้าหล่อนยังเป็นคนสนับสนุนเงินจำนวนมากให้กับหน่วยงาน คงไม่มีทางได้หมายค้นง่ายๆ

[---]เธอถอดเสื้อผ้าออกเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายเตรียมพร้อม แล้วขึ้นไปยืนบนลู่วิ่ง กดปรับเสต็ปการวิ่งให้เหมือนเมื่อวาน ค่อยๆ เดินเชื่องช้าดังเช่นทุกวันที่ออกกำลังกาย พลันรู้สึกว่าช้าไปรึเปล่านะ มันช้าไปจริงๆ นั่นแหละ จึงเปลี่ยนเสต็ปมาเป็นวิ่งๆ ๆ ให้เร็วขึ้น 

[---]ไม่จริงน่า! หัวเข่าข้างซ้ายของเธอ รอยแผลมันหายสนิท ไม่เจ็บปวดเมื่อต้องออกแรงมากๆ อีกแล้ว.... ณิกานต์ เธอทำได้ยังไง พรุ่งนี้ฉันต้องเจอเธอให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม




....................................