Justice ตอนที่4
[---]ผู้กองภัทรออกจากห้องรับแขกไปไม่ถึงนาที แววตาเกรี้ยวโกรธของเจ้าของบ้านก็ดุดันขึ้นบนสีหน้าเรียบนิ่ง สิ่งใดที่คิดจะทำจำต้องยั้ง หาไม่เช่นนั้นเรื่องนิดหน่อยอาจบานปลาย
[---] ใจเย็นไว้ๆ จะจัดการกับเจ้าหล่อนง่ายเพียงแค่คิดเท่านั้น แต่ปัญหาที่ตามมานี่สิ จะได้ไม่คุ้มเสียนะณิกานต์ เธอเปลี่ยนใจวิ่งตามไปในทันทีแม้ว่าอารมณ์โกรธยังคงเดือดเป็นพลุแตก
[---]“เดี๋ยวก่อนสิคะ” เธอตามมายืนขวางหน้าหล่อนไว้ได้ทัน
[---]“ฉันจะกลับแล้วล่ะคุณณิกานต์ ไหนคุณว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง ฉันก็ไม่อยู่กวนแล้วไง”
[---]สีหน้าที่บ่งบอกว่ากำชัยชนะเหนือกว่านั้น เธอไม่ชอบเลยแม้แต่นิด เพราะความเป็นจริงนั้นน่ะเหรอ เธอชนะหล่อนได้ไม่ยากนักหรอก ไม่ว่าจะด้วยวิธีซื่อตรง หรือไม่ซื่อตรงก็ตาม
[---]“คุณอยากถามอะไรก็ถามมา ฉันจะตอบให้ แต่ฉันคงไม่พร้อมออกไปให้ปากคำที่อื่น....ชื่อเสียงฉันจะเป็นยังไง ไหนจะเสียเวลาไปอีก เห็นใจกันหน่อยสิ” น้ำเสียงเธอเปลี่ยนเป็นการอ้อนวอน แม้ว่ามันจะไม่ได้มาจากจิตใต้สำนึก ทว่าเธอก็แสดงมันออกมาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
[---]‘ที่แท้ก็กลัวจะเป็นข่าวดัง เห็นจ่ายเงินช่วยเหลือนู่นนี่ คงเอาหน้าซะมากกว่า พวกไฮโซก็งี้ แถมทำตัวลับๆ ล่อๆ ตอบอะไรก็บ่งบอกพิรุธ’ ณิกานต์รับรู้ถึงความคิดในบางช่วงของฐิติภัทร
[---]“นั่นเป็นเรื่องที่คุณต้องจัดการ มันไม่เกี่ยวกับฉัน ขอตัวนะ” ฐิติภัทรเบี่ยงตัวหลบคนที่ยืนขวาง
[---]“ก็ได้ๆ ฉันขอโทษที่ต้อนรับคุณไม่ดี แต่ขอร้องล่ะ อยากรู้อะไรก็ถามฉันที่นี่เถอะ” เธอเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูเหมือนยอมจำนนต่อเหตุการณ์ หากแววตากลับไปนิ่งสนิท แล้วถอยหลังสองก้าวเพื่อขวางทางอีกคนไว้
[---]“ไม่ดีกว่า เวลาฉันก็มีค่า แทนที่จะไปช่วยคนได้อีกตั้งเยอะ”
[---]“ได้โปรดเถอะ” พยามอีกครั้งกับการร้องขอ มือบางเอื้อมจะแต่ส่วนข้อมือที่เลยพ้นเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาว แต่ถูกอีกคนเบี่ยงหลบไปด้านหลังราวกับรู้ว่าเธอพยามจะทำอะไร
[---]“กรุณาหลีกทางด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเรียกกำลังเสริม” หล่อนกล่าวเพราะรู้ดีถึงความไม่ชอบมาพากลของเจ้าของบ้าน และนั่นก็ยิ่งทำให้อารมณ์โกรธของอีกคนพุ่งพล่านขึ้นในทันที
[---]“คิดเหรอ ว่าเข้ามาแล้วจะออกไปได้ง่ายๆ” เร็วเท่าความคิดเธอกระโจนเข้าใส่ตำรวจสาว แต่ใจหนึ่งก็ยังลังเล ผลลัพธ์มันคงออกมาไม่ดีแน่ถ้าปล่อยให้อารมณ์ร้ายๆ ของเธอนำพา
[---]“เฮ้ย” เสียงร้องตกใจแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดว่าอีกคนจะต้องโมโหถึงขนาดนี้ ทั้งยังแปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อยว่าสภาพร่างกายในตอนนี้จะสามารถหลบหลีกหล่อนได้ทัน เตรียมวิ่งหนีออกจากบ้านหลังนี้ทันที
[---]แต่กลับถูกดึงให้ล้มลงตามเจ้าของบ้านอารมณ์ร้าย ไม่รู้เจ้าหล่อนไปเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ ยื้อยุดเธออยู่นาน ท่วงท่าแคล่วคล่องน่าตกใจนั้นไม่เหมือนคนไม่สบายเลยสักนิด แต่มันเหมือนคนที่แข็งแรงเกินกว่าร่างกายบอบบางนั่นจะอำนวย คิดว่าคงไม่ใช่ไฮโซธรรมดาทั่วไปอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ จากการเคลื่อนไหวพลิ้วไหวไม่ขาดตก เหมือนชำนาญการต่อสู้ภาคสนามไม่ต่างจากเธอที่ฝึกแรมปีมาเป็นอย่างดี เอาแล้วไง น้อยครั้งนักจะเจอตัวแม่เช่นนี้
................................
[---]เธอพยามล็อกแขนขาให้ผู้มาเยือนไม่สามารถขยับหนีไปได้ ช่างเหนื่อยกับตัวเองเหลือเกิน ทำไมไม่จัดการหล่อนให้จบๆ ไปสักที ง่ายออกที่จะกลบหลักฐาน ไม่ต้องมานั่งออมแรงเพื่อให้ดูเหมือนว่าเธอเหนื่อยกับความพยามที่จะตรึงหล่อนไว้กับพื้น
[---]แคว้ก! เสียงเสื้อยืดตัวบางขาดเป็นทางยาวด้วยการด้วยการดิ้นรนของอาคันตุกะขี้สงสัย ผิวขาวผ่องโชว์หราโผล่พ้นรอยฉีกของเสื้อผ้า ผู้มาเยือนยังถิ่นหยุดชะงักไปเล็กน้อยด้วยแววตาประหลาดเกินขาดเดา แต่ก็ยังพยามดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน
[---]เป็นอย่างนี้นี่เอง ณิกานต์คิดในใจ ในเมื่อหยุดไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล หยุดไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยเสน่ห์สินะ แม้จะไม่ต้องการให้หล่อนติดกับเธอด้วยเสน่ห์ก็ตาม แต่ถ้าจะเป็นวิธีเดียวจริงๆ ที่สามารถหยุดฐิติภัทรได้โดยรักษาชีวิตหล่อนเอาไว้ เธอก็คงต้องทำ มิเช่นนั้นอีกทางเลือกที่โหดร้ายคงเป็นความตายที่เธอจะหยิบยื่นให้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง
[---]“อ๊าา ๆ” เสียงร้องกระเส่าหลุดออกจากปากผู้อ่อนเยาว์โดยที่สมองได้ไตร่ตรองไว้แล้วเป็นขั้นตอน เมื่อมือของแขกผู้มาเยือนรัดหน้าอกเธอไว้
[---]“....” อะไรเนี่ย! หล่อนตกใจรีบลดระดับมือลงไม่ให้โดนอกอิ่มน่าสัมผัส
[---]“อืม ตรงนั้นแหละภัทร ต่ำอีกนิดสิคะ” น้ำเสียงแหบพร่า เอ่ยหลอกล่อ ฟังแล้ววาบหวิวงงงวย
[---]เส้นผมอ่อนนุ่มของหล่อนแผ่สยายคลอเคลียกับต้นคอคนโอบรัด กลิ่นหอมจางๆ สร้างความรัญจวนในอารมณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว ให้ตายสิอารมณ์จะมากระเจิงตอนนี้ไม่ได้นะฐิติภัทร ต้องจัดการหล่อน ต้องจัดการหล่อนท่องไว้ๆ
[---]“ภัทร ปล่อยฉันสิคะ หายใจไม่ออกนะรู้มั๊ย” การกระซิบเบาๆ ยิ่งเป็นการกระตุ้นความฟุ้งซ่านเล็กๆ
[---]“....” อึ้งสิคะ คงรู้เรื่องเธอมาบ้างแล้วไม่งั้นคงไม่รู้ถึงชื่อเล่น อุ้ย แล้วเราจะเผลอไปดมผมคนหน้าเด็กทำไมกัน
[---]ได้ผลเพราะอ้อมแขนที่รัดเธอไว้คลายออกอย่างว่าง่าย ตอนนี้แหละ ณิกานต์พลิกตัวหงายขึ้นคร่อมคนสับสนอย่างง่ายดาย หล่อนไม่แม้แต่จะขัดขืนด้วยซ้ำ
[---]“น่ารักอย่างนี้สิคะ ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย” ณิกานต์ยิ้มอวดฟันขาวราวผู้กำชัยชนะ ช่างน่าขันนักที่เธอแพ้ให้กับคนๆ นี้อย่างง่ายดาย
[---]ต้องมีเหตุผลมากกว่านั้นที่เจ้าของบ้านแสนสวยหยุดเธอไม่ให้ออกจากบ้าน ซ้ำยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์จนเธอเองต้องเป็นฝ่ายเฉมองไปทางอื่น มิเช่นนั้นจะเสียสมาธิเอาได้ง่ายๆ
[---]“ฉันจะจับคุณให้ได้” เธอเอ่ยเสียงต่ำ ทว่าว่ามันเบาหวิวจนแทบควานหาน้ำเสียงตัวเองไม่เจอ การกระทำทั้งหมดนี่อาจไม่ทำให้พบหลักฐานเชื่อมโยง แต่ลางสังหรณ์บอกว่าหล่อนนี่แหละตัวการ
[---]“จะจับตรงไหนเหรอคะ ฮึ!?....ตอนนี้ฉันจับคุณอยู่น๊า” ไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าลงมาซุกคอเธอเล่นอีก
[---]อยากกรี๊ดดังๆ สามตลบ มันเกิดอะไรขึ้นทำไมร่างกายเธอเชื่อฟังผู้หญิงคนนี้อย่างน่าละอาย แววตาเจ้าเล่ห์ช่างเย้ายวนเหลือเกิน จะทำยังไงดีล่ะทีนี้
[---]“....” ไม่นะ ขืนทำแบบนี้เดี๋ยวก็ได้จับกันตรงนี้หรอก ใบหน้างุนงงสะบัดหลบความหวาดผวาหวิววาบ
[---]“ทำร้ายเจ้าหน้าที่” ข้อหานี่อาจฟังขึ้น เริ่มจะหาเสียงตัวเองเจอมาหน่อยๆ แล้ว
[---]“อืม คุณก็ชอบไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ฉันก็ไม่ได้จับคุณแน่นขนาดนั้นซะหน่อย” ณิกานต์ยิ้มเยือกเย็นก่อนจะโน้มตัวลงไปใกล้จนเธอเห็นถึงความสุกสว่างภายในดวงตาสีน้ำตาลนั่น
[---]อ่าวจริงของหล่อน จะดันตัวออกก็แสนง่าย แต่ร่างกายนี่สิ ไฉนไม่ขยับตาม พอเริ่มรู้สึกตามที่หล่อนพูดมา เธอรีบผลักหล่อนออกทันที แต่คนดื้อด้านไม่ยอมง่ายๆ นั่งทับขาเธอไว้ไม่ให้ลุกขึ้นได้
[---]“นี่ผู้กอง มันอะไรนักหนาถึงอยากจะจับฉัน ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ” ลองถามหยังเชิงดูก่อน
[---]“ฉันรู้นะว่าคุณต้องเกี่ยวข้องกับหลายคดีที่คนร้ายหายตัวไปอย่างไร้ล่องลอย” แล้วจะไปบอกเธอทำไมกัน ปากหนอปาก หรือเธอจะคุมสติไม่อยู่แล้วฐิติภัทร
[---]“หึหึ คนร้ายหายตัว....ก็ดีแล้วนี่คะ คุณจะมาเดือดร้อนทำไมกัน คนเลวๆ หายตัวไปเสียเวลาตามหา สู้เอาเวลาไปนั่งหาเหยื่อที่ถูกลักพาตัวดีกว่ามั๊ย” ผู้หญิงแสนสวยเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
[---]หล่อนกำลังจี้ใจดำว่าเธอต้องการช่วยเหลือคนดี หรือต้องการช่วยเหลือคนร้ายกันแน่
[---]“....” เอ่อ มันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ยังไงก็ต้องให้กฎหมายจัดการ แล้วเธอก็อ้าปากจะพูด
[---]“กฎต่างๆ มันก็สร้างขึ้นมาจากคนทั้งนั้นแหละผู้กอง และถ้ากฎพวกนั้นมันช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ไม่ได้ ก็สมควรที่กฎใหม่จะถูกตั้งขึ้นไม่ใช่เหรอคะ” นั่นไง แบบนี้แหละ แม่นี่ถึงตั้งศาลเตี้ยจัดการคนร้ายซะเอง เห็นทีผู้หญิงคนนี้อาจมีเพื่อนร่วมขบวนการอยู่ด้วยแน่ๆ
[---]“คุณเลยจัดการเก็บคนชั่วซะเอง” เธอส่ายหน้าระอา
[---]“อ่า คุณอยากรู้ว่าฉันเกี่ยวข้องงั้นสิ” ณิกานต์โน้มตัวให้ใกล้ใบหน้าที่จ้องจะจับผิด เฉียดฉิวริมฝีปากเข้ากับใบหน้าชวนฉงน
[---]“คุณเกี่ยวแน่นอน” คนใจสั่นอยู่แล้วฝืนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พยามควบคุมตัวเองสุดฤทธิ์
[---]“ไม่เกี่ยวค่ะ ใครจะไปอยากยุ่งกับคนพวกนั้น...ยุ่งกับคุณยังดีกว่าอีก”
[---]โอ้ว....ฝันไปใช่ไหมเนี่ย หล่อนจูบเธอ หล่อนจูบเธอ หล่อนจูบเธอ หัวใจเต้นโครมครามราวจะหลุดออกจากตัวให้ได้ แล้วปากเจ้ากรรมก็ดันประกบตอบอีก ฉันต้องบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ
[---]อ่า สู้สึกดีเหลือเกิน เป็นช่วงเวลาของความสุข สุขทั้งหมดทั้งมวลเมื่อลืมสติไว้เบื้องหลัง แล้วเปลือกตาก็ค่อยๆ หนักอึ้งจนปิดสนิทไป
................................