Justice ตอนที่2
[---]“ผู้กองครับ ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม”
จ่าเสริมรายงานด้วยหน้าตาที่บ่งบอกว่าพอเถอะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะตามหา
เพราะดูจากคดีแล้ว ก็คงไม่ต่างกับคดีก่อนๆ ที่คนร้ายได้หายตัวไปทั้งหมด
และมันก็เป็นแววตาที่ทำให้ผู้กองทราบดี จนถึงกับถอดใจ
[---]“งั้นจ่าบอกทีมเราเตรียมกลับฐาน เดี๋ยวฉันขอเดินดูรอบๆ นี้หน่อย”
ฐิติภัทร หรือผู้กองภัทร ยังคงสังเกตไปรอบๆ ที่เกิดเหตุซึ่งเมื่อคืนมีผู้ประสงค์ดี
แจ้งว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ฉุดลากหญิงสาวเข้าไปในดงป่าข้างทาง
แล้วก็ได้ยินเสียงโหยหวนของคนเหล่านั้น
น่าแปลกตรงที่เสียงร้องลั่นกลับไม่ใช่เสียงของหญิงสาว
[---]จะว่าไปแล้วรอยหญ้าที่แหวกออกเหมือนมีคนจำนวนหนึ่งเดินผ่าน
น่าจะมีการทำร้ายร่างกายกันบริเวณนี้ แต่กลับไม่พบสิ่งใดผิดปกติแม้แต่น้อย
[---]จนสายตาเฉียบคมเหลือบไปเห็นบัตรประชาชนของใครคนหนึ่งหล่นอยู่ไม่ไกล
ไม่ใช่หล่นสักเท่าไหร่ มันเรียกได้ว่าเกือบจะฝังอยู่ในดินที่แน่นหนา
มือที่สวมถุงมือบรรจงดึงหลักฐานชิ้นสำคัญใส่ถุงพลาสติกใส
[---]“จ่าๆ ให้ทีมสืบลองขุด ที่บริเวณนี้ดู”
[---]“ครับๆ แต่ผมว่าดินก็ยังแน่น เท่าที่ดูไม่น่ามีการขุดในสองสามสัปดาห์นี้ด้วยซ้ำ”
เขากล่าวตามหลักการ เพราะเห็นว่าดินบริเวณนั้นไม่มีแม้แต่ล่องรอยการขุดเจาะ
[---]“เอาเถอะน่า ลองขุดดูก่อน แล้วส่งคนไปสำรวจรถตู้สีขาวนั่นด้วยนะ”
เธอยังสงสัยเมื่อคำบอกเล่าเห็นกลุ่มชายเหล่านั้นเดินออกมาจากรถตู้
[---]แถบนี้มักจะมีคนโดนทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยๆ
เนื่องจากเป็นที่เปลี่ยวเกือบจะอโคจรก็ว่าได้
ไม่ค่อยมีใครจะสัญจรมายังเส้นทางเหล่านี้เท่าไหร่ ผู้ร้ายก็เลยชุกชุม
[---]ผู้กองภัทรกำมือแน่น เธอโกรธแค้นแทนเหยื่อเหล่านั้นที่ไม่สามารถปกป้องตนเองได้
อีกทั้งการตามสืบหาหลักฐานมัดตัวผู้กระทำความผิดยังคงต้องใช้เวลาและขั้นตอน
เวลาเหล่านั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพลเมืองดีอีกตั้งเท่าไหร่
[---]ตราบใดที่ลมหายใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนนี้ยังมีอยู่
เธอจะไม่ปล่อยให้คนชั่วพวกนี้ลอยนวลอยู่ได้นานนักหรอก
ความถูกต้องจะลงโทษพวกมันเอง
[---]“ผู้กองครับ เจอเศษผ้า หลายชิ้นบริเวณนี้ แต่ไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์”
[---]“เอาเศษผ้าพวกนั้นไปตรวจวิเคราะห์”
[---]คิ้วบางขมวดเจ้าหากันอย่างสงสัย เหมือนกับคดีก่อน....มีผู้หวังดีแจ้งเบาะแส
แต่ก็ไม่พบสิ่งอื่นใดนอกจากเศษผ้ายุ่ยๆ หลายชิ้นอยู่ภายใต้ผืนดิน
แม้จะขุดลึกลงไปอีกเท่าใดก็ไม่พบคำตอบ
[---]“จ่า ไม่ต้องขุดแล้ว”
[---]หมายความว่ายังไงกัน ผู้ร้ายน่าจะก่อเหตุบริเวณนี้ แต่ทำไมหลักฐานกลับไม่มี
ซ้ำผู้ก่อเหตุยังหายไปราวกับบุคคลสาบสูญ
แม้กระทั่งเหยื่อเองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร
เพราะไม่มีหลักฐานชิ้นใดโยงถึงเหยื่อได้อีกเช่นกัน
[---]แต่คราวนี้แหละ บัตรประชาชนใบนี้จะต้องบอกเบาะแสของคดีได้บ้างล่ะ
ถ้าเป็นบัตรที่ไม่ได้ปลอมขึ้น เจ้าของบัตรจะต้องเกี่ยวข้องในคดีนี้
จิตใต้สำนึกของเธอมันบอกเช่นนั้น
[---]และการสืบเสาะจากคนแถบนี้คงช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ
[---]“ใช่ครับผู้หญิงคนนี้เลยครับ แต่มีบางอย่าง”
บาร์เทนเดอร์ทำท่าครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
[---]“ทำไมเหรอคะ” ผู้กองภัทรรีบถาม
[---]“เหมือนจะปลอมบัตรเพื่อเข้ามาครับ เพราะหน้าตาไม่น่าจะเกินยี่สิบ”
[---]“แล้วได้เห็นครั้งสุดท้ายประมาณกี่โมงคะ”
[---]บาร์เทนเดอร์ให้รายละเอียดเท่าที่เขาสามารถจำได้
ผู้หญิงคนนั้นมาพร้อมกับรถมินิคูเปอร์สีแดงสด ดูบุคลิกเป็นคนมีฐานะ
อาจเป็นเด็กรวยใจแตกหนีพ่อแม่มาเที่ยว
แต่มาในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ เพื่ออะไร ก็ไม่มีใครทราบ
[---]มีความเป็นไปได้สูงที่บัตรนี่จะเป็นบัตรปลอม
แล้วเจ้าหล่อนล่ะ มีพยานยืนยันว่าเป็นตัวจริง มาเหยียบยังสถานที่นี้จริงๆ
[---]ณ ห้องทำงานสีขาวขุ่นซึ่งประดับประดาไปด้วยภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุมากมาย
ไม่น่าอภิรมย์สักนิดสำหรับคนทั่วไป ภาพเหยื่อบางรายมีเลือดสดๆ ไหลนอง
ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร หนึ่งในรูปภาพมีแขนขามนุษย์ถูกชำแหละ
และถูกทรมานจนขาดใจตาย
[---]คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เธอยอมลงทุนควักงบตัวเอง
เพื่ออำนวยความสะดวกในการสืบเสาะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่คนที่นี่จะแปลกใจ
ฐิติภัทรทุ่มเทกับการไล่ล่าคนร้ายอยู่เสมอ
การของบจากส่วนกลางเป็นเรื่องที่ไม่ทันใจเอาเสียเลย
มันจะง่ายกว่าถ้าเธอสละทรัพย์เสียเอง
[---]นิ้วมือไล่ไปตามตัวเลขที่แป้นพิมพ์ เคาะเลขสิบสามหลักอย่างใจจดใจจ่อ
รอคอยกับบางสิ่งที่คอมพิวเตอร์เร็วแรงนี่กำลังประมวลผล และแล้ว....
[---]‘นี่มันบัตรจริงนี่นา’
[---]‘ณิกานต์ ....38ปี กับใบหน้าอ่อนเยาว์’
[---]ใบหน้านี่ช่างดูคุ้นเคย เหมือนจะเห็นที่ไหนมาก่อน ไม่รอช้า
ชื่อและนามสกุลของเจ้าหล่อนถูกค้นหาในระบบทั่วไปของอินเทอร์เนต
[---]ไฮโซสาว ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลดัง เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับพันล้าน
และผู้สนับสนุนงบประมาณให้กับทางตำรวจสืบสวนสอบสวนเป็นจำนวนหลายสิบล้านต่อปี
[---]‘เป็นไปได้อย่างไรที่บัตรประชาชนของเจ้าหล่อนจะตกหล่นอยู่แถวที่เกิดเหตุ’
[---]ฐิติภัทรรีบอ่านหัวข้อในข่าวเกี่ยวกับหล่อน ใช้สมองประมวลผลอย่างเฉียบขาด
ก็ได้คำจำกัดความเกี่ยวกับคนๆ นี้.... ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม
ชอบช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานรัฐ ไม่ชอบถ่ายรูปกับสื่อเท่าใดนัก
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีถาพถ่ายหล่อนเพียงไม่กี่ภาพบนสังคมออนไลน์
[---]ทำอย่างไรถึงจะเข้าพบบุคคลเช่นนี้ได้
หรือจะรอจนถึงงานขอบคุณผู้สนับสนุนหน่วยงาน ไม่มีทาง มันนานไป
หล่อนอาจส่งตัวแทนมางานเหมือนทุกครั้งก็เป็นได้
[---]คิดสิคิด ฐิติภัทร เธอจะเข้าหาหล่อนได้ทางไหนบ้าง
แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาอย่างแยบยล
ในเมื่อบัตรใบนี้ทำให้ฉันค้นพบหลักฐานที่อาจไม่เกี่ยวโยงเลยก็ได้
แต่มันก็จะทำให้ฉันตอบคำถามที่สงสัยได้อีกเช่นกัน
[---]และแล้วความอยากรู้ก็นำพาสองเท้า
มายืนนิ่งอย่างรอคอยหน้าประตูบ้านโอ่โถงหลังหนึ่ง
[---]“ดิฉันผู้กองฐิติภัทร มาขอพบคุณณิกานต์ค่ะ”
เธอพูดพร้อมแสดงบัตรยืนยันตัวเอง
[---]“ได้นัดไว้รึเปล่าคะ” แม่บ้านท่าทางเอาจริงเอาจังคนหนึ่งถามผู้มาเยือน
[---]“ไม่ได้นัดค่ะ” นั่นเป็นความจริง เธอไม่เคยนัด และไม่เคยพบผู้หญิงคนนี้มาก่อน
[---]“งั้นคงเข้าพบไม่ได้ค่ะ ตอนนี้คุณณิกานต์ก็ไม่ค่อยสบาย
ถ้ายังไงดิฉันบอกคุณณิกานต์ให้นะคะ” แม่บ้านทำท่าเชิญแขกกลับในทันที
คงยากเป็นแน่แท้ ต่อให้ธุระทั่วไปก็ยังยากเลย
คนระดับนี้น้อยเรื่องนักที่จะทำให้เจ้าหล่อนปลีกเวลา
[---]“ถ้าอย่างนั่นพรุ่งนี้เวลาเดิม ฉันจะมาพบใหม่
ฝากบอกคุณณิกานต์ด้วยนะคะว่ามีคนจะเอาบัตรที่คุณณิกานต์ลืมไว้มาคืน”
เพียงเท่านี้เธอก็แน่ใจแล้วว่าในวันรุ่งขึ้นต่อให้ไม่สบายหนักแค่ไหน
หล่อนก็ต้องออกมาพบอยู่ดี
[---]เสี้ยวนึง แม้มันจะเป็นหลักฐานที่ไม่ควรนำออกมาให้เจ้าของได้รู้ตัว
ซึ่งก็คงไม่มีใครยอมรับกันง่ายๆ และมันก็คงจะเป็นแค่หลักฐาน
หากไม่นำมาใช้เกี่ยวโยง หลักฐานชิ้นนี้ก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจใช้มันเพื่อเข้าถึงตัวณิกานต์
และเป็นการลดขั้นตอนการสืบสวนซึ่งต้องผ่านนั่นนี่อีกหลายชั้น
................................
[---]ณ ห้องๆ หนึ่งในบ้านขนาดมหึมา
[---]“ฐิติภัทรเหรอ” ณิกานต์ ทวนคำพูดแม่บ้านซ้ำอย่างสงสัย
[---]เธอร้อนรนมาตั้งแต่วันก่อนที่ดันลืมบัตรประชาชนเอาไว้ในที่เกิดเหตุ
ภาวนาขออย่าให้ใครพบเห็น
เธอจะรีบกลับไปค้นหาทันทีที่ตำรวจพวกนั้นออกไปจากการสืบหลักฐาน
แต่นี่แม่ผู้กองฐิติภัทร หล่อนเป็นใครกัน ถึงกับขุดจนเจอของที่เธอลืมไว้
[---]นึกย้อนไปถึงตอนที่เธอพยามยามจะเปลี่ยนใจเดรัจฉาน
พวกมันดึงเอาบัตรใบนั้นขว้างไปไกลจากที่เกิดเหตุ มันน่าจะไกลพอสิ
อีกอย่างหลักฐานอื่นเธอก็จัดการไม่ให้สาวไส้ถึงเธอได้อย่างแน่นอน
ส่วนบาร์เทนเดอร์ที่มีลูกสองนั่น อาจกล่าวถึงเธอ
แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องพัวพันกับโจรชั่วเหล่านั้นได้
สรุปเธอต้องรอจนวันรุ่งขึ้นถึงจะเจอเจ้าหล่อนสินะ
[---]จิตใจร้อนรนนั้นสั่นคลอนให้บุคคลรอบข้างได้รับรู้
เธอบอกกับแม่บ้านและคนในนั้นว่าไม่เป็นไร
การปิดบังความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งคนพวกนี้ก็ยังเลือกที่จะปิดบังให้เธอ
พวกเขาติดตามเธอมาตลอด ไม่ว่าเรื่องที่เธอทำนั้นจะเรียกได้ว่าผิดสำหรับกฎเกณฑ์
หากแต่ความเป็นความตายได้เฉียดข้องกายพวกเขา และคนที่รัก
มันก็มากพอที่จะตัดสินใจเดินตามณิกานต์ ผู้ที่หยิบยื่นความยุติธรรมคืนให้พวกเขา
เนื่องด้วยความเป็นธรรมที่ลำเอียง
การมีณิกานต์ก็เหมือนมีความถูกต้องให้โลกใบนี้ได้น่าอยู่ขึ้น
[---]ตัวเธอเองขอบคุณกับความไว้เนื้อเชื่อใจ และความนับถือของเหล่าคนในบ้าน
แม้ภายนอกจะดูเหมือนเป็นการจ้างงานคนเหล่านี้ตามปกติ แต่ภายในแล้ว
พวกเขายอมตายเพื่อปกปิดความลับทั้งหมดของเธอและเหล่าผู้ทวงคืน
ดังเช่นในตอนนี้ หาใช่มีแต่เธอคนเดียวที่เป็นกังวลต่อหลักฐาน คนอื่นในที่นี้ก็เช่นกัน
[---]ผู้กองภัทรก้าวลงจากรถกระบะสีดำสนิท ลงสู่บ้านพักที่เธออาศัยอยู่
เพราะมันใกล้กับสถานที่ทำงาน ส่วนบ้านที่แท้จริงนั้นน่ะรึ ถูกปิดร้างไว้เมื่อหลายปีก่อน
[---]ลู่วิ่งออกกำลังถูกเปิดใช้งานจากผู้ที่พึ่งกลับมาถึง
หากแต่ระดับความเร็วนั้นถูกลดลงจนแทบจะดูเหมือนเป็นการเดินเร็วๆ เสียมากกว่า
จนถึงเวลาที่เครื่องบอกเวลาดังขึ้น เธอจึงเริ่มเดินให้ช้าลงจนหยุด
[---]ผมซึ่งถูกมัดให้เรียบถูกสยายออกด้วยมือเจ้าของร่างสูงโปร่ง
เธอปลดเปลื้องผ้าที่เกี่ยวพันร่างกายออกทีละชิ้นลงตะกร้า เดินสะบัดตัวเข้าห้องน้ำ
ปล่อยให้น้ำเย็นๆ ไหลจากฝักบัวกระทบสู่ผิวสีน้ำผึ้งอ่อน มือบางลูบไล้สบู่ไปทั่วร่าง
ก่อนจะหยุดลงตรงขาซ้ายบริเวณที่มีแผลรอยเข็มเย็บเล็กๆ
[---]แม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วสำหรับหลายคน
แต่ตัวเธอเองยังคงรู้สึกผิดที่ไม่สามารถจับคนร้ายในคดีนี้ได้
ทำไมพวกเค้าต้องมาช่วย เธอน่าจะตายลงกับความโศกเศร้า
มันรุมกัดกินหัวใจดวงนี้เสมอมา
[---]จะมีใครรู้บ้างไหมว่าผู้หญิงที่ดูแข็งแกร่งคนนี้มีความทุกข์
สายน้ำเย็นไหลผ่านตัวเธอนั้นเจือปนกับหยาดน้ำใส
มันมาจากดวงตาคู่สวยที่เจ้าของร่างมิได้สนใจจะแต่งแต้มให้โดดเด่นอยางที่ควรจะเป็น
[---]ร่างสูงบางเดินออกจากห้องน้ำอย่างเฉื่อยชา
เช็ดผมที่เปียกให้หมาดอย่างลวกๆ ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแข็งๆ
ถอนหายใจแล้วภาวนาซ้ำๆ ทุกวัน
[---]‘วันพรุ่งนี้ ขออย่าให้ฉันตื่นขึ้นมาอีกเลย’
................................