หนี ตอนที่20



[---]ชญานิลเดินนำไปยังส่วนหลังของบ้าน สั่งให้คนเปิดประตูโรงเรือนออก ทันทีที่เข้าไปก็พบกับดอกไม้นานาชนิดเรียงรายเป็นกลุ่มๆ อยู่ในกระถาง ทุกต้นล้วนแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ผิดหวังกับการจ้างคนสวนมืออาชีพมาจัดการ



[---]แต่บางทีเธอก็อยากสัมผัสกับดอกไม้เหล่านั้นเองบ้าง แต่ละกระถางมีหลายสิ่งให้น่าค้นหา ครั้งหนึ่งชญานิลเคยปลูกมันพร้อมๆ กับมารดา แต่นั่นก็นานมาแล้ว ณ วันนี้เธอไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แค่ออกคำสั่งกับลงเงินเท่านั้น



[---]“ไปเอาดินตรงนั้นมา ฉันจะย้ายกระถาง” เธอส่งถุงมือในกล่องพร้อมช้อนปลูกกับกระบะยื่นให้หล่อน ใช้ยัยนี่แหละ ให้เดินไปตักดิน ไม่ขนเองให้เหนื่อยหรอก กว่าจะเต็มกระถาง



[---]กระถางลายมังกรหยกพันรอบตัว ช่างดูดีและแพงสุดๆ เธอเลือกเองกับมือ สั่งมาส่งไว้ตั้งนาน มีหลายคนอยากย้ายให้แต่เธอปฏิเสธ เพราะอะไรน่ะรึ เพราะว่าต้นนี้เป็นต้นที่เธอปลูกเองน่ะสิ



[---]ดอกกุหลาบแดงสด.... แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยักจะออกสักดอกให้ได้ชื่นชม ช่างต่างกับกระถางอื่นที่ให้คนมาดูแล นี่มือเธอไม่ขึ้นกับการปลูกต้นไม้เลยหรือไร ปุ๋ยก็ใส่ น้ำก็รด จะออกดอกสักอันกู้หน้าเธอบ้างมิได้รึ เห็นต้นอื่นแล้วช่างอายฝีมือการเพาะต้นไม้



[---]ชญานิลบรรจงใส่ดินลงกระถาง เกลี่ยดินให้พอเหมาะ แล้วก็นั่งรอดินอีกถาดที่คนใช้ส่วนตัวยกมาให้ หล่อนชักช้าจริง ถ้าสั่งคนสวนตอนนี้คงทำเสร็จไปนานละ



[---]“เอ้า” อะไรกันเนี่ย เทดินออกข้างๆ ทำไม สั่งให้เทใส่กระถางนะยะ เธอหันขวางมองหน้าคนรับคำสั่ง



[---]“....” ไม่มีอะไรตอบกลับ



[---]ธนิตาหยิบอุปกรณ์บางอย่างที่อยู่แถวนั้น ปัดดินในกระถางนั้นออก แล้ววางแผ่นรองที่ก้นกระถางก่อนจะค่อยๆ เขี่ยดินทับ มีสีหน้าเจ็บปวดบ้างเมื่อนิ้วนั้นยังบวมไม่หาย มันไม่ได้ดูเป็นแผลยิ่งใหญ่ แต่ก็ทำให้เจ้าของมือปวดร้าวได้ล่ะนะ



[---]“เคยทำเหรอ” อดแปลกใจไม่ได้ อย่างแม่นี่น่ะเหรอ ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ดูมือบวมเรียวสวยนั่น ก็ไม่น่าจะทำงานหนักได้นาน แล้วหล่อนจำได้แล้วเหร้อ เย้ย ไม่ใช่ละ



[---]เธอแอบผงะเล็กน้อย อันที่จริงก็ถอยหลบเลยล่ะ พร้อมกับกำช้อนปลูกเอาไว้แน่น เผลอๆ ได้ดิ่งเข้ามาทำร้าย คนแบบนี้เดาใจยากซะด้วย ถ้าสบโอกาสทำร้ายเธอได้ นางคงทำ



[---]“ตรงที่ฉันไปตักดิน มีกระถางอื่นที่รองด้วยแผ่นนี้ไว้น่ะ” หล่อนเอ่ย แล้วก็ค่อยๆ เทดินใส่กระถาง



[---]“อ่อ” อย่างนี้นี่เอง ฉันดันกลัวไปเองสินะ



[---]“คุณ เอ่อ ชอบดอกไม้เหรอ” ธนิตาถามเมื่อตักดินใส่ถาดมารอบที่สาม มีบางอย่างที่เหนือความคาดหมายหล่อนไปเยอะ



[---]“ทำไมเหรอ ฉันไม่เหมาะสมกับดอกไม้หรือไง” ชญานิลเลิกคิ้ว นี่หาเรื่องกันเหรอยะ



[---]“เปล่าหรอก” หล่อนเงียบไป เปลี่ยนเป็นเดินไปตักดินอีกรอบ



[---]ส่วนเธอก็กอดอกรอให้นางกลับมา จะย้ำถามสักหน่อย หมายความว่ายังไง ทำหน้าอย่างนั้นแล้วก็มาถามว่าชอบดอกไม้มั้ย หรือว่าอย่างฉันควรเลี้ยงจระเข้ หรือสิงโตเอาไว้กินคนกันแน่ ใช่ เอาไว้กินซากของหล่อนยังไงล่ะ ชิ



[---]“หยุดเลย แล้วนั่งลง” เธอสั่งทันที่ที่ยัยนี่เดินมาถึง แม้หล่อนจะงงๆ แต่ก็ทำตาม



[---]พึ่งจะรู้ตัวล่ะสิ ว่าไม่ควรพูดกระทบเธอทางอ้อม เดี๋ยวก็สาดด้วยดิน แล้วบังคับให้กินยาฆ่าหญ้าซะเลยนี่ ไม่ต้องมาทำหน้าจ๋อยแบบนั้นนะ มาขอโทษตอนนี้ไม่ทันแล้วย่ะ



[---]“ฉันเป็นยังไง แปลกเหรอเห็นฉันปลูกดอกไม้” ถามพร้อมกับส่งสายตาข่มขู่ นี่ถ้าตอบไม่ถูกใจเตรียมซวยได้เลย



[---]“ก็ไม่น่าจะปลูกดอกไม้พวกนี้” นั่นไง ยอมรับความจริงมาแล้ว ไม่ต้องก้มหลบเลยนะยะ เธอกำดินขึ้นมาก้อนนึง กะจะเอายัดปากนางสักหน่อย....



[---]“แต่คุณก็ดูเป็นคนดี แม้จะพยามทำตัวให้ร้ายก็เถอะ” ธนิตาพูด ไม่น่าจะโกหกกับความหมายและสายตาที่สื่อออกมา



[---]“อ้อ.... จำไม่ได้เหรอ ว่าเจอฉันวันแรกเป็นยังไง” เธอขู่แต่มือก็ทิ้งดินลงในกระถางตั้งแต่คำว่าเป็นคนดีหลุดออกมาจากปากหล่อน



[---]“คุณแค่โมโห ฉันคงทำไม่ดีกับคุณไว้” หล่อนบอกเหมือนไม่ถือสา ทั้งๆ ที่เฉียดอาการสาหัสช้ำในซ้ำสองเพราะเธอ



[---]“แล้วไม่คิดว่าฉันจะทำอีกรึไง” ตอกย้ำนางซะหน่อย



[---]“ไม่หรอก คุณจะไม่ทำแบบนั้น” ธนิตาเอื้อมมือมาจับข้อแขนเหมือนมั่นใจว่าความผิดหล่อนนั้นให้อภัยได้ง่ายๆ



[---]“ทำไมถึงมั่นใจล่ะ” ชญานิลจ้องไปในดวงตาของความมั่นใจนั้น นางกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง ดูซิว่าจะโกหกรึเปล่า เตรียมวัดองศานัยน์ตาได้เลย กระดิกเบี้ยวไปสักหน่อยแสดงว่าหลอก



[---]“เพราะฉันจำอะไรไม่ได้ แล้วที่ผ่านมา ฉันไม่สน ฉันก็คือฉัน” หล่อนพูดเหมือนมั่นใจว่าตัวตนจริงๆ คือที่เธอเห็นอยู่นี่



[---]แล้วมีสิทธิ์อะไรไม่สนยะ ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมสิคะ ทำมาไม่สน คิดว่าจะรอดความผิดที่ก่อไว้กับหลายๆ คนได้รึไง



[---]“อย่าห่วงเลย ทันทีที่เธอจำได้ ฉันคงไม่ใจดี....” แล้วเธอก็เทดินเข้ากระถาง ชี้นิ้วให้หล่อนไปตักมาเพิ่มอีก



[---]แต่ไม่เป็นอย่างนั้น หล่อนยังนั่งอยู่กับที่ ไม่ทำตามคำสั่งเธอแต่อย่างใด หนำซ้ำยังใช้แววตาเดียวกันกับเธออีกเวลาจะแสกนจับผิด



[---]“ฉันเป็นใครเหรอ บอกฉันได้มั้ย” นางเอ่ยถาม แม้น้ำเสียงจะอ้อนวอน แต่มันตรงข้ามกับดวงตาจับผิดนั่นเสียเหลือเกิน คงคิดว่าเธอจะหลอกเอาได้



[---]“ทำไมฉันต้องบอก” นั่นสิ เรื่องอะไรต้องบอก



[---]“ฉันมีครอบครัวมั้ย” ยังถามอีก ขนาดเอ่ยกรายๆ ว่าจะไม่บอกแล้วนะ ตื๊อซะจริง



[---]“อยากรู้จริงๆ มั้ย” เธอชั่งใจอยู่สักพัก



[---]“อยากสิ มากด้วย” เหมือนกับดีใจที่เธอกำลังจะเล่า พร้อมท่าทางเฝ้ารออย่างตั้งอกตั้งใจ



[---]“เห็นกรรไกรตัดกิ่งนั่นมั้ย....ฉันอยากได้นิ้วก้อยเธอ แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง” เธอบอกไปแบบนั้น ทำเอาอีกคนหน้าหวอ อึ้งที่ได้ยิน นางลังเลอยู่สักพัก แล้วเดินไปตักดินต่อ



[---]ฮ่าๆ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าชญานิล หล่อนไม่แน่จริงนี่หว่า อยากรู้แต่ไม่กล้าทำร้ายตัวเอง แหม่ๆ ดูท่าทางตกใจปนผิดหวังนั่นช่างตลกเสียจริง คริคริ



[---]เห็นธนิตาเหลือบมองกรรไกรอยู่หลายที แต่ก็ไม่เฉียดกายไปทางนั้นเลย เธอเลยเดินไปหยิบเสียเอง รอจนดินถมหมดกระถางแล้วเอ่ยเรียบง่าย เหมือนนั่งชมสวนดอกไม้ด้วยกันมานาน



[---]“นั่งลงสิ” ชญานิลตบมือให้ธนิตาทิ้งตัวลงข้างๆ กับเก้าอี้หินสลักสีขาวอมตะไคร่



[---]“....” คงจะตกใจที่เห็นเธอ ปลดสลักกรรไกรตัดกิ่งออกอย่างช้าๆ รอยยิ้มฉาบบนใบหน้าละมุนละไม



[---]“ยื่นมือมา” เธอกล่าวอย่างเป็นมิตร



[---]“....” ลุกขึ้นยืน ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนี แต่ก็ยังคิดว่าจะวิ่งไปทางไหนดีถึงจะรอดพ้น หน้าประตูรึก็มีคนเฝ้า แค่เธอตะโกนเรียก คนก็วิ่งเข้ามาภายในไม่กี่วินาที มันก็เลยเป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดพ้น



[---]“จะให้ฉันสั่งคนมัดเธอ แล้วตัดมันทุกนิ้วเลยมั้ย กลับลงมานั่งที่เดิมแล้วส่งมือมา “ เธอขู่ร้ายกาจ ซึ่งมันก็ได้ผล เหยื่อสุดโชคร้ายนั่งลงที่เดิม น้ำตาเริ่มปริ่มปานเขื่อนใกล้แตก หล่อนกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหล มือสั่นถูกยกขึ้นส่งมาให้



[---]“เธอชอบนิ้วไหนเหรอ” ชญานิลถามอย่างใจเย็น สังเกตอาการตื่นตระหนกช่างน่าหยอกเล่นเสียจริง



[---]หล่อนดูไม่คล้ายธนิตาในโหมดโหดร้ายเลยสักนิด มีแต่สิ่งน่าตื่นตาตื่นใจให้เธอได้พบเห็นตลอด หลายเรื่องยังคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะมีแง่มุมดีๆ กับเค้าด้วย หากว่าความขัดแย้งไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น หล่อนและเธออาจไม่ต้องมาชิงดีชิงเด่นกันก็ได้ แต่มันจะเป็นไปได้มั้ยล่ะ ก็ในเมื่อทุกอย่างผ่านเลยมาจนเกินกว่าจะแก้ไข



[---]“อย่าตัดนิ้วฉันเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ร้องไห้ออกมาจนได้ ปากหล่อนสั่นจนเธอแอบได้ยินเสียงฟันกระทบกัน คงจะกลัวเว่อร์ แค่ถามนิดเดียวเอง



[---]“ฉันถามว่าชอบนิ้วไหน ก็ตอบสิ” เธอตะคอกให้ได้กลัวเข้าไปใหญ่ เห็นอาการผวานั่นน่าดูชมจัง



[---]“ก้อย” คล้ายจงใจเลือกนิ้วที่ไม่สำคัญมากที่สุด เผื่อเธอจะตัดมันออกจริงๆ



[---]“โกหก.... ฉันให้เลือกอีกที ไม่งั้นถือว่าเธอเลือกทุกนิ้ว” คราวนี้ขู่ให้สมจริงกว่าเดิม



[---]“นาง....นิ้วนาง ฮือๆ” กัดฟัน ปากเบ้ ตัวสั่น น้ำตาล้น ราวกับเธอตัดมันไปแล้ว



[---]“งั้นเหรอ” ชญานิลง้างกรรไกรตัดกิ่งออก สอดนิ้วนางหล่อนเข้าไปขวางกับคมของกรรไกร



[---]“อย่า....ฮือๆ ๆ” ธนิตาหลับตาพึมพำเหมือนร้องขอความเห็นใจ กลัวมือจะมีนิ้วไม่ครบห้า



[---]ฮ่าๆ .... ชญานิลหัวเราะเสียงใส แกล้งแม่นี่แล้วสนุกชะมัด ร้องไห้จะเป็นจะตาย แล้วแบบนี้ยังคิดว่าเธอใจดีอยู่อีกรึเปล่าเนี่ย ดูทำเข้า รีบหดมือกลับไปที่เดิม



[---]“กลัวอะไรขนาดนั้น ฮึ” เธอวางกรรไกรที่ยังไม่ได้ใช้ตัดอะไรลงข้างๆ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหลังคนร้องไห้ที่ทำอย่างกับนิ้วได้หลุดไปแล้ว



[---]การขู่นี่มันก็ได้ผลจริงๆ ตอนยิ่งกลัว จิตใจก็ยิ่งอ่อนแอ เห็นแล้วมันอยากแกล้งบอกไม่ถูก หรือเธอจะเพี้ยนไปแล้ว เพราะจริงๆ มันควรจะตัดนิ้วหล่อนไปเลยมากกว่า



[---]“ฮือๆ” ยังร้องอยู่อีก เง้อ....



[---]“หยุดร้องเลยนะ ตลกจะตายไป....หัวเราะเดี๋ยวนี้” เธอสั่งให้หล่อนหยุด พร้อมๆ กับที่มุมปากนั้นพยามจะยิ้มให้เธอพอใจ



[---]“นี่ยิ้มเหรอน่ะ มันต้องแบบนี้ต่างหาก....ยิ้มกว้างๆ” ชญานิลยกมือขึ้นหยิกแก้มทั้งสองให้ยกขึ้นสูงกว่าเดิม เผยรอยยิ้มปั้นแต่งแบบฝืนสุดๆ จนดูตลก....ฮ่าๆ เธอตลกจริงๆ แหละ



[---]“ไม่ตลกเหรอ” เธอปล่อยมือออก พลันเห็นแววตาเศร้าสร้อย หล่อนหมองหม่นลงไปอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงบอกว่าที่เธอทำไป ตลกไม่ออก



[---]“ฉันล้อเล่นหน่อยเดียวเอง ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก” แปลกใจตัวเองที่เอาไหล่ไปดันหล่อนเหมือนกับว่าคุยอยู่กับเพื่อนซึ่งถูกเธอแกล้งอำเล่น



[---]และยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดทำอะไรต่อก็มีแม่บ้านเข้ามาตาม ซึ่งผู้ที่เข้ามาก็เหลือบมองด้วยความตกใจที่เห็นเหยื่อนั่งเสมอเจ้าของบ้าน ไหนยังจะอาการหัวเราะของเธอนั่นอีก



[---]เธอจะมีความสุข มีเสียงหัวเราะบ้างไม่ได้หรือยังไงกันนะ นานๆ ทีจะมีเรื่องคลายเครียดแบบนี้สักครั้ง



[---]สนิทสนมมากเกินไปแล้วมั้ง เง้อ ก็แม่นี่ไม่มีพิษสงอะไรเลยนี่ ตอนนี้หล่อนเหมือนคนทั่วไป ไม่แปลกหรอก ถ้าเธอจะคุยด้วยเหมือนคุยกับคนทั่วไป สรุปฉันไม่แปลกนะคะ ไม่ต้องมองอย่างนั้นเลยยัยแม่บ้าน



[---]“คุณบีชวนคุณหนูทานข้าวค่ะ” แม่บ้านคนเดิมบอกตามนั้น



[---]คุณบีคงอยากจะคืนดีเต็มที่ล่ะสิ บรรยากาศอึมครึมนานๆ แบบนี้ไม่สนุกนักหรอก เธอเลยสั่งให้แม่บ้านพาเหยื่อกลับห้องไป ส่วนเธอก็เปลี่ยนทางเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร




................................