หนี ตอนที่18
[---]กรี๊ดดด.... เสียงบางอย่างลั่นออกมาจากตัวบ้านตั้งแต่ยังไม่ทันลงรถ พอจะเดาได้ว่ามาจากไหน อาการง่วงเพราะการเดินทางมาเป็นเวลานานหายไปทันใด เธอตื่นขึ้นฉับพลัน
[---]ชญานิลเร่งฝีเท้าออกจากรถโดยไว มุ่งตรงไปยังห้องพักสำรองห้องที่สอง เธอคาดเดาไม่ถูกหรอกว่าหล่อนจะเจออะไรไปบ้าง คุณบีเป็นคนดีในสายตาเธอก็จริง แต่ไม่ดีสำหรับธนิตาแน่ๆ บางทีหล่อนอาจจะสูญเสียอวัยวะบางส่วนที่ไม่สำคัญไปแล้วก็ได้ เหอะๆ
[---]“เปิดบ้านเร็วๆ สิ” เธอเร่งเอากับคนที่พยามกดรหัสรักษาความปลอดภัยหน้าประตูเข้าสู่ตัวบ้าน
[---]ต้องเข้ารหัสถึงสามชั้นด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็พิมพ์ยาวเสียจนเอาระเบิดมาพังบ้านเข้าไปจะง่ายกว่า ดูลีลาท่ากดมาดเท่นั่นแล้วยิ่งสร้างความรำคาญเข้าไปอีก ก็ยังงงกับตัวเองว่าต้องรีบร้อนไปทำไม เธอไม่อยากให้ยัยนั่นเจ็บรึก็ไม่ใช่ ใครจะสนว่าหล่อนจะเป็นยังไง แต่จะรีบไปบอกคุณบีต่างหาก ว่าที่ธนิตาจำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่หล่อนเล่นละคร
[---]แต่เป็นเพราะอุบัติเหตุรุนแรงในวันแต่งงาน และมันอาจจะกระเทือนกับสมองไปบ้าง ซ้ำร้ายตอนนี้ยังไม่ทันหายดีให้ได้ทรมานสนุกๆ ถ้าพลั้งมือหนักไป ได้ตายก่อนคั้นความลับกันพอดี
[---]อีกอย่างหมอประจำบ้านก็ไม่อยู่ด้วย เขาไม่ได้มาทุกวัน ใครจะรักษาหากเกิดแผลฉกรรจ์ เลือดตกยางออก ช้ำในเกินเยียวยา
[---]ที่จริงก็ไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอก มาที่นี่แต่ละที ใช้เวลานาน นานจนใครหลายคนไม่ค่อยอยากจะมา ทั้งทางยังคดเลี้ยวอ้อมโลก นั่งรถมาทีแทบอ้วก แต่ครั้งนี้คงต้องรีบไปหาคุณบี ก่อนที่หล่อนเก็บยัยตัวแสบนั่นไปก่อน
[---]“เร็วๆ” อีกครั้งที่เร่งร้อน เกิดเสียงหวีดร้องดังขึ้นเป็นรอบที่สามตั้งแต่เข้ามา แล้วคนเปิดประตูก็ดันจิ้มรหัสผิดๆ ถูกๆ ทำให้ต้องได้เริ่มใหม่อีกรอบ มาตรการรักษาความปลอดภัยดีเกินไป ต้องเปลี่ยนซะบ้างละ เข้าออกยากเหลือเกิน
[---]“ผิดอีกรอบไม่ได้แล้วนะ” เธอพูดเสียงเย็นชาเป็นเชิงขู่เล็กน้อย ตั้งใจหน่อยก็ไม่ได้ ยิ่งรีบๆ อยู่
[---]กริ๊ง.... มีเสียงเหมือนสลักถูกถอดออก ชญานิลถอนหายใจ กึ่งวิ่งกึ่งเดิน เพื่อไม่ให้ดูรีบจนเกินไป เดี๋ยวจะหาว่าไปช่วยแม่นั่น
[---]เธออ้อมซ้าย อ้อมขวาไปทางที่คิดว่าใกล้ที่สุด จากนั้นก็ดันประตูเข้าไปในห้องพักชั่วคราว ในใจนั้นจินตนาการภาพต่างๆ ไม่ออกเลยสักนิด ไม่รู้ด้วยว่าคุณบีจะโหดปานใด
................................
[---]ผ่าง....ประตูเปิดออกเต็มบาน เผยภาพทั้งห้องแก่สายตาทั้งสองข้างของเธอ ชญานิลโล่งอกเล็กน้อยที่อวัยวะหล่อนยังไม่ถูกตัดเพราะคุณบี อย่างน้อยวันข้างหน้าเธอจะได้ตัดออกเองไงล่ะ
[---]แต่ที่น่าหวั่นใจ ก็คือคุณบีทรมานยัยนั่นจนแทบจะไม่มีแรง และเหมือนกับจะตายเอาให้ได้ มือและเท้าถูกมัดติดแน่นอยู่กับเตียง ไม่ให้ได้ดิ้นหนี ริมฝีปากแห้งสนิท คาดว่าคงยังไม่ได้ดื่มน้ำ มีรอยเลือดแห้งกรังบริเวณจมูกกับปาก และคราบน้ำตาติดอยู่ด้วย
[---]ไม่มีแม้ร้อยช้ำที่ลำตัว ให้ได้หวาดหวั่น แต่เป็นที่ข้อนิ้วมือเหล่านั้น มันออกสีเขียวอมม่วง ก็พอจะรู้ว่าถูกบีบแล้วบีบอีก คงจะตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
[---]ที่ยังรอดไม่โดนไปมากกว่านั้น น่าจะเพราะเธอสั่งกับแม่บ้านเอาไว้ว่าให้ดูแลหล่อนให้หายดี คุณบีเลยไม่กล้าจะรุนแรงมากนัก นี่ก็คงจะพอได้แล้วล่ะมั้ง
[---]“คุณบี หยุดได้แล้ว” เธอพูด คุณบีพยักหน้าพร้อมกับออกแรงบีบเป็นครั้งสุดท้ายและแรงกว่าครั้งไหนๆ
[---]กรี๊ดดดดด....ตายๆ เสียงหล่อนแห้งจนไม่เหลือน้ำในคอแล้วมั้ง ส่วนคุณบีก็หัวเราะได้ใจเหมือนได้แก้แค้นอะไรบางอย่าง แล้วส่งแท่งเหล็กให้แม่บ้านเอาไปเก็บ
[---]“นานรึยังเนี่ย” เธอถามคุณบี
[---]“เมื่อวานนี้เอง ฉันให้มันพักเมื่อคืนแล้วด้วย ไม่ตายหรอกคุณหนู” หล่อนว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ เหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
[---]“ไปพักผ่อนเถอะ” ไม่รู้จะพูดอะไร
[---]อยากจะด่ารึ ก็ยังไม่ใช่ จะว่าให้ ก็ไม่ควร หรือจะยินดีด้วย ก็ทำไม่ได้ นี่เธอเป็นอะไรไป ฉันคงไม่คิดสงสารยัยนั่นเข้าให้หรอกนะ ก่อนหน้านั้นฉันยังทำร้ายนางอยู่เลย
[---]อ่อใช่แล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้ว่านางจำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้รู้แล้ว มันคงเป็นความน่าสมเพชที่เห็นคนไม่รู้อะไรโดนทำร้าย คงเป็นสำนึกส่วนดีของเธอล่ะมั้ง
[---]“ทำไมเหรอ ฉันทำอะไรผิด” น้ำเสียงตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด
[---]เป็นคุณบีที่สังเกตสีหน้าเธอได้ทะลุปรุโปร่ง หล่อนแทบจะเดาความคิดเธอได้ทุกครั้ง ในตอนนี้ก็ด้วย แม้เธอจะไม่พยามแสดงอะไรออกมาก แต่ความไม่พอใจมันคงฟ้องออกไปทางสายตาให้ได้รับรู้กันบ้างล่ะ
[---]“ไปรอฉันที่ห้องนั่งเล่น” ชญานิลพูดไม่สบตา
[---]เธอจงใจเลี่ยงคำพูดไป ไม่อย่างนั้นอาจได้ต่อว่าคุณบีต่อหน้าคนอื่น และคำที่เธอเอ่ยออกไปนั้นมันเหมือนเป็นคำสั่งให้หล่อนทำตามมากกว่า แม้ว่าจะสนิทกันแค่ไหน หรือจะนับถือเหมือนเป็นพี่สาว แต่อย่างน้อย เธอก็เป็นคนคุมที่นี่ไม่ใช่หล่อน
[---]เพราะความเป็นจ่าฝูง หรือหัวหน้าที่แสดงออกมานั้นทำให้คนฟังต้องทำตาม และเธอก็รับรู้ได้ด้วย คุณบีไม่พอใจ ไม่ใช่ธรรมดา แต่ไม่พอใจเอามากๆ หล่อนเปลี่ยนพฤติกรรมในทันที จากที่แสยะยิ้มสะใจกลับเป็นนิ่งเฉยวางมาดตามปกติ
[---]“ค่ะ คุณหนู” เอ่ยแค่นั้นก็เดินหายออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบเข้าครอบงำ
[---]บางทีการให้คนสนิทจนเหมือนสายเลือดเข้ามาคลุกคลี เข้ามาช่วยเหลือต่างๆ นาๆ มันก็ทำใจยากอยู่เหมือนกัน หากมีการกระทำใดที่ขัดใจกัน เพราะความเป็นเจ้านายกับลูกน้องที่ค้ำคออยู่ คุณบีเลยรู้สึกเหมือนถูกเธอกดดัน ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้ทำอะไรผิด และมันก็ไม่มีเหตุผลเลยที่จะปราณียัยธนิตา
[---]ความผิดมันอยู่ที่ใจเธอนี่แหละ ใจอ่อนมันได้ทุกที เธอสงสารคนเป็น และออกจะมากกว่าคนอื่นๆ ในตระกูล แต่ก็ยังน้อยกว่าคนทั่วไปล่ะมั้ง ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำร้ายยัยนี่ตั้งแต่แรกเห็น
[---]ถ้ารู้ตอนนั้น ก็คงยังทำอยู่ดี แต่เห็นหล่อนในสภาวะที่เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือแบบนี้มันก็กระไรอยู่ หล่อนเปรียบเสมือนผู้ที่ไร้ความผิด พยามขอโทษในสิ่งที่จำไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงหล่อนจะไม่มีวันทำแบบนี้ และอาจจะตัดสินใจปิดชีพตัวเองตั้งแต่ที่ฟื้นมาวันแรกแล้วเพราะรู้ว่าอยู่ในบ้านศัตรู
................................
[---]ชญานิลสั่งคนให้ออกไปจากห้อง เหลือเพียงป้าแม่บ้านกับเธออยู่เพียงเท่านั้น ช่างน่าหดหู่กับร่างที่นอนร้องไห้เงียบๆ อยู่บนเตียง ยิ่งมองก็ยิ่งอดสงสารไม่ได้....ไม่ๆ อย่าใช้คำนี้จะดีกว่า มันจะทำให้เธอกลายเป็นคนดี และเธอก็ไม่อยากเป็นอย่างนั้นกับยัยนี่
[---]“แกะเชือกออก” เธอบอกแม่บ้านซึ่งก้มลงแกะเชือกที่ตรึงคนโชคร้ายอย่างเชื่องช้า เพราะใครที่เป็นคนมัด มัดมันแน่นเหลือเกิน เธอเลยเดินเข้าไปแกะอีกข้าง ให้เร็วขึ้นอีกหน่อย พร้อมกับหลบสายตาแวบหนึ่งของแม่บ้านว่าจะลดตัวลงมาช่วยเหลือเหยื่อทำไม
[---]“หยุดร้องได้แล้ว” หล่อนยังคงอาการสั่นหวาดหวั่นอยู่ตลอดเวลา ดวงตากลอกมองทางนั้นทีทางนี้ที กลัวว่าจะมีใครเข้ามาทำร้ายต่ออีก
[---]“ได้กินอะไรรึยัง” ชญานิลถามคนที่กำลังยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ได้คำตอบมาเป็นการส่ายหน้าช้าๆ แล้วก็ถอยหลบมือของเธอที่กำลังจะยื่นเข้าไปหา
[---]“อยู่นิ่งๆ ต้องให้จับมัดอีกเหรอ” เธอตวาดเล็กๆ พลันอีกคนนั่งกอดเข่าตัวแข็งเป็นหิน ไม่ขยับไปไหน
[---]“ช่วยเอาอาหารมาให้ด้วยนะ” เอ่ยราบเรียบ คราวนี้หันไปพูดกับคุณป้าแม่บ้าน แม่บ้านยังลังเลอยู่ว่าจะออกไปทั้งอย่างนี้ แล้วทิ้งให้คุณหนูอยู่กับผู้หญิงคนนั้น จะไม่เป็นอันตรายเหรอ ถ้ายัยคนเจ็บเกิดแผลงฤทธิ์ขึ้นมา
[---]“ไม่เป็นไร ไปเถอะ” สบายมาก ถ้ายัยนี่ทำอะไรที่ไม่คาดฝัน ก็รับมือได้อยู่แล้ว ดูสิ แรงยังแทบไม่มี จะเอาความฮึดที่ไหนมาสู้เธอ ไม่มีทางซะให้ยาก
[---]เมื่อแม่บ้านออกไปแล้ว เธอก็ยื่นมือไปบีบแก้มคนเจ็บให้เชิดขึ้นเล็กน้อยเป็นการสำรวจ หล่อนย่นจมูกเหมือนเจ็บปวด แล้วมองหน้าเธอแทน คุณบีน่าจะเผลอตบหลายที
[---]ชญานิลพลิกใบหน้าไปข้างๆ เสยผมขึ้นด้วยมืออีกข้าง ดูตรงใบหูยังอยู่ดี ต่อมาก็สั่งให้อีกคนอ้าปากยิงฟันให้เห็น ก็ยังครบถ้วน คุณบีเมตตายัยนี่กว่าที่คิด
[---]คราวนี้เธอดันหล่อนให้เอนลง เปลี่ยนเป็นเปิดเสื้อคลุมยาวๆ นั่นขึ้นดู ไม่พบรอยอะไรมากไปกว่ารอยช้ำบริเวณท้อง คลำๆ ดูก็เห็นสีหน้าหม่นหมองที่แสดงออกมา คงโดนต่อยเข้าที่ท้อง
[---]ชญานิลสำรวจไล่ลงไปยังเบื้องล่างเรื่อยๆ แอบเห็นแววตาหวาดหวั่นฉายวาบขึ้นมา ไม่รอช้าเธอสัมผัสสำรวจโดยการลูบดูความผิดปกติ ก็ไม่เห็นมีอะไร แต่ผลก็คือยัยนี่บิดตัวหนีเธอนิดนึง อะไรของนางยะ ฉันจะดูว่าคุณบีทำอะไรไปบ้าง เผื่อร้ายแรงจะได้ตามหมอมา ทำมาดิ้นหลบ เดี๊ยะก็ตบซะเลยนี่
[---]หล่อนไม่ได้โดนทำร้ายอะไรมากเว้นแต่ที่นิ้วมือ เธอหยิบมันขึ้นมาดู บีบคลึงดูความเสียหาย
[---]“อื้อ....” มีเสียงเล็ดลอดออกมาเบาๆ พลันชักมือกลับไปเหมือนไม่อยากให้เธอแตะ
[---]“เอามาให้ดู” ธนิตาเบ้ปาก เริ่มจะร้องไห้ แต่จำต้องยื่นมือทั้งสองข้างออกมาช้าๆ แม้ว่าเธอจะคลึงจับอย่างเบามือกว่าเดิม ยัยนี่ก็ยังคงร้องไห้อยู่เงียบๆ
[---]“เจ็บเหรอ” หันไปถาม ได้รับเป็นการพยักหน้าตอบกลับ แต่ก็รู้ล่ะนะว่ามันเจ็บ ถามไปงั้นแหละ
[---]“สมน้ำหน้า” เธอพูด ทำเอาน้ำตาอีกคนที่ไหลอยู่นั้น ยิ่งไหลเพิ่มอีกเท่าตัว
[---]“ทีนี้ลองกำมือดู” แล้วทำไมเธอต้องมาสำรวจด้วยตัวเองล่ะเนี่ย สั่งใครทำก็ได้นี่นา
[---]ธนิตากำมือคลายมือได้ช้ากว่าปกติหน่อย และหล่อนยังคงเกร็งตัวเหมือนเรื่องเมื่อครู่เป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนอยู่ทุกวินาที
[---]เฮ้อ คุณบีน้อ ดันรีบเล่นงานซะก่อน น่าจะเป็นเธอที่สร้างความผวาให้แม่นี่ตอนที่นางจำอะไรได้แล้ว
[---]“กระดูกไม่หักนะ” ชญานิลบอก แล้วจิตวิญญาณความเป็นคนดีก็เพิ่มพูนขึ้นมาจากไหนมากมายไม่รู้ เธอเสยผมที่ปิดหน้าให้ธนิตา ลูบหัวหล่อนเบาๆ เหมือนปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน
[---]ผลก็คือ คนร้องไห้หยุดร้อง แต่คนที่ไม่ได้ร้องนี่สิ แทบจะร้องไห้เสียเอง ดันพลั้งเผลอไปทำอากัปกริยาแบบนั้นขึ้น พอรู้ตัวจึงรีบหดมือกลับ หันมองไปทางอื่น สร้างบรรยากาศสงบๆ อย่างบอกไม่ถูก
[---]แล้วความเงียบก็ถูกทำลาย เพราะหล่อนค่อยๆ ยื่นมือบาดเจ็บมาจับแขนเธอเบาๆ เผยอปากขึ้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แววตานั้นช่างเหมือนอ้อนวอนเสียเหลือเกิน พลันประตูก็เปิดออกพร้อมกับที่แม่บ้านยกอาหารและน้ำเข้ามาให้
[---]ชญานิลสะบัดแขนออกแล้วเดินออกจากห้องนั้นมาด้วยความรู้สึกสับสนบางอย่าง ที่ทำให้ต้องด่าตัวเองอีกครั้ง และหลายๆ ครั้งต่อจากนี้ ความใจอ่อนเป็นเหตุ เธอเริ่มจะสงสารศัตรู มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้เลย พฤติกรรมของเธอผิดพลาดเข้าแล้วสิ
[---]ไม่ถูก ที่จะสงสารคนที่เคยทำร้ายเธอ
[---]ไม่ถูก ที่จะเห็นใจคนที่นิสัยไม่ดีแบบนั้น
[---]ไม่ถูก ที่จะช่วยเหลือดูแลหล่อน
[---]และ ไม่ถูกที่จะ....เอ่อ....ทำดีด้วยไงล่ะ....
................................