หนี ตอนที่6



กวั่บๆ .... อึกๆ ....

[---]ชารสเลิศกับของหวานข้างหน้าต่างอีกครั้งในรอบวัน บ่ายแก่ขนาดนี้ไม่น่ามีแขกเข้ามาพบเธอที่บ้านอีกหรอก ขอปลีกตัวจากโลกภายนอกสักหลายนาทีคงไม่มีใครว่า

[---]จะพูดว่าตื่นเต้นก็ใช่ จะพูดว่าหวาดหวั่นก็ถูก แล้วมันคืออะไรกันแน่หนอ ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว ขาดก็แต่ความมั่นใจของเธอ ส่วนเรื่องอื่นนั้นไม่ใช่ประเด็น

[---]‘กินแบบนี้เดี๋ยวก็ใส่ชุดไม่พอดีหรอก’

[---]มีหลายคนที่บอกกับเธอแบบนี้แหละ แต่ก็ยังห้ามให้เธอหยุดกินไม่ได้ ความเครียดที่มองไม่เห็นมันร้ายกาจพอๆ กับความอ้วนที่มองเห็น

[---]เธอเริ่มหนักเกินกว่ามาตรฐานมาสามขีด เป็นน้ำหนักในรอบห้าปีซึ่งยากเกินจะยอมรับไหว ทั้งๆ ที่หลายคนมองเห็นว่ารูปร่างเธอยังดูดีอยู่มากๆ แต่ความรู้สึกกับมาตรวัดนั้นช่างไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย

[---]งั่มๆ ท่ากินที่คงไม่มีใครได้มีโอกาสเห็นหากเธอเดินออกนอกห้องประจำตัวนี้ ธนิตาเลียนิ้วตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย แล้วก็ยอมเก็บขนมเข้ากล่องตามเดิม ลดปริมาณลงสักนิด เพื่องานวันพรุ่งนี้ที่สมบูรณ์แบบ เธอจะต้องสวยที่สุดในงาน อิอิ

[---]แม้ว่าอยากจะนั่งอืดอาดอยู่ตรงนี้อีกสักระยะ แต่สายตาที่มองไปยังลานโล่งกว้างแสนไกล ก็เหลือบไปเห็นว่ามีรถอีกคันขับเลี้ยวตรงเข้ามาบริเวณลานจอดรถบ้านเธอ ถ้าจำไม่ผิด คงเป็นญาติผู้พี่ของเธอเอง ต้องออกไปต้อนรับอีกแล้วรึ ก็แน่ล่ะ บ้านทั้งหลังมีเธออยู่คนเดียว

[---]เบื่อจริงอะไรจริง ทุกคนออกบ้านไปหมด มีแต่เธอที่ถูกกำชับว่าอย่าไปไหน อย่าทำอะไรช่วงก่อนวันงานจะมาถึง ก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอเหมือนถูกกักบริเวณอยู่กลายๆ ส่วนอีกคนที่จะร่วมพิธีกับเธอนั้นก็ไม่ต่างกัน ความปลอดภัยที่น่าจะจำเป็นแยกเราออกจากกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง ธนิตาก็แอบคิดถึงอยู่หน่อยๆ แต่ให้ทางนั้นวิ่งเตรียมงานแทนน่ะดีแล้ว ก็เธอไม่มีหัวทางนี้เอาเสียเลย วันทั้งวันนี้ก็ได้แต่ต้อนรับแขกที่แวะเวียนเข้ามาตอบรับความยินดีจากคนมากมาย บ้างก็เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ บ้างก็เป็นนายทุนใหญ่ซึ่งร่วมทุนกันได้ไม่นาน และก็เพื่อนๆ ของเธอซึ่งตอนเที่ยงวันก็แวะเวียนมาจัดเตรียมชุดเอาไว้ให้


................


[---]“สบายดีนะ พี่แวะเอาข่าวมาบอก” พี่ชายคนดี ดียังไงเธอไม่รู้ เขาดูดีไปหมดเหมือนหลุดออกมาจากความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การวางตัว แต่ราวกับมีบางอย่างที่เธอรู้สึกได้ บางอย่างนั้นช่างไม่น่าพิสมัย ทว่าเขาก็ไม่แสดงมันออกมาเพียงเพราะคำว่าครอบครัว

[---]ใช่แล้วครอบครัวใหญ่ต้องมาก่อนเสมอ แม้พวกเราจะไม่เห็นด้วยกับมติกลาง หากแต่จำต้องยอมรับและทำตาม ระบบจะเดินได้ถ้าคนในระบบไม่รวนไปซะก่อน เธอยิ่งพวกรวนเสียด้วยสิ ผิดกับลูกพี่ลูกน้องผู้นี้ เขาอาจจะได้ขึ้นแท่นแทนคุณลุงของเธอในไม่ช้า ถ้าเขาสามารถจับคู่กับมหาเศรษฐีหญิงที่มีทั้งอำนาจกับเงินตราได้สักคน แล้วใครหนอจะเป็นผู้โชคร้ายคนนั้น

[---]“สบายดีค่ะ ข่าวอะไรคะ” เธอถามตามปกติ นึกถึงความเป็นไปต่างๆ ที่เขากำลังจะเล่า

[---]“เรื่องพี่ หรือเรื่องเราดีล่ะ” เขาถามด้วยอาการหยอกล้อ ถ้ามาแนวนี้ ธนิตาก็พอจะเดาได้ว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่ดี

[---]“เรื่องของตาเบื่อแล้ว ฟังมาทั้งวัน เอาเรื่องพี่ก่อน มีอะไรน่าตื่นเต้นคะ” เธอนั่งรอเขาเล่าอย่างตั้งใจ

[---]“พี่กำลังจะเปิดห้างใหม่กับคุณนีรนุช คนที่เคยเล่าให้ฟังไง” เขามีสีหน้าตื่นเต้นและดีใจ คิดว่างานนี้คงไปได้สวยสำหรับเขา และในไม่ช้าถ้ามันไปได้ดี เขาคงจะเปิดประตูวิวากับเศรษฐีนีหน้าใหม่ผู้นี้

[---]“อ่าว แล้วคุณดารินล่ะ พี่ยังไม่ได้บอกหล่อนใช่มั้ย” เธอเลิกคิ้วถาม ถ้าเจ้าหล่อนรู้เล่าจะเป็นเช่นไร แต่ก็นะ แทนที่จะเลือกร่วมมือกับเรา หล่อนดันเลือกเข้าข้างผิด พี่ชายญาติเธอคนนี้คงไม่คิดจะทนกับหล่อนได้นานนักหรอก

[---]“ยังหรอก ว่าจะบอกเลิกอยู่แล้ว ถ้าดารินเลือกทางเราตอนนั้น ป่านนี้คงมีข่าวดี” เขาพูดหน้าตาเฉย

[---]จะว่าไปพี่กวินของเธอ คงมีบางอย่างที่คุณดารินไม่ไว้ใจร่วมลงทุนด้วย เป็นเธอก็คงไม่ทำ แต่ก็ไม่กล้าพูดเช่นกัน เพราะเขาเป็นครอบครัวไงล่ะ จะดีจะชั่ว เขาก็เลือกครอบครัวก่อนเสมอ

[---]ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเศรษฐีนีหน้าใหม่คนนั้นจะหลงเชื่อเขาได้ ท่าทางจะเป็นคนที่ใสซื่อต่อโลกธุรกิจเสียจริง แต่ก็น่าสงสาร หล่อนคงรักพี่ชายเธอเข้าไปจังๆ

[---]“เลิกเหรอ ก็ค่อยๆ พูดล่ะ อย่าให้เค้าโกรธ ระวังจะโดนเชือด” ธนิตาเตือนด้วยความหวังดี

[---]“ไม่หรอก ว่าแต่คุณศักเถอะ ได้เจอบ้างรึยัง” กวินยกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงถามพร้อมๆ กับจิบชาซึ่งเธอคัดสรรมาอย่างดีสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมเยือนทุกท่าน

[---]“ไม่เจอเลยค่ะ คิดถึงจะแย่” ธนิตามองทอดยาวไปไกล นึกภาพชายผู้เป็นที่รัก ซึ่งจะร่วมพิธีกันในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

[---]ศักดา....เจ้าของความมั่งคั่งที่เธอบังเอิญเจอระหว่างทางไปบ้านพักตากอากาศของครอบครัว เขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ร่วมหุ้นกับครอบครัวเธอ และดูมีอายุน้อยที่สุดในนั้น แม้ว่าจะห่างกับเธอถึงสิบปี ทว่าอายุไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่าจะผ่านเกณฑ์ที่ครอบครัวใหญ่ตั้งไว้หรือป่าวนี่สิ

[---]และเพียงไม่นานกับการตามจีบเธอมาแรมปี ไม่ใช่แค่เรื่องหัวใจที่มั่นคงเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงเรื่องสินทรัพย์ที่เกินเกณฑ์มากมายอย่างคาดไม่ถึง ศักดาเปิดเผยตระกูลอันแข็งแกร่งไม่แพ้กัน ซ้ำยังผนึกพันธมิตรความมั่งคั่งให้กับทางเธอได้มาก ซึ่งเขาก็ได้ประโยชน์ไม่ต่างกันเลย ด้วยเหตุนี้แหละ ทุกคนจึงเร่งรัดและสนับสนุนเต็มที่กับงานที่จะจัดในวันรุ่งขึ้น

[---]“เขาส่งคนไปขู่ทางพวกนั้น หนีหางจุกตูดกันเลยทีเดียว” กวินพูดพลางหัวเราะเบาๆ

[---]“คงจะหาทางขวางความสุขของตา....นี่ยังจะยัดเงินเพื่อหลอกเอาการ์ดเชิญปลอมๆ นั่น ไม่นึกเลยว่าจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้” ธนิตาโมโหที่รู้ว่ามีคนมายื่นเงินใต้โต๊ะกับผู้จัดการร้านห้องเสื้อชื่อดัง คงจะหวังเอากำหนดการนั่นมาเล่นงานเธอล่ะสิ ไม่มีทางซะหรอก

[---]“หลังงานแต่ง ค่อยเล่นหนักๆ เอาให้ไม่ได้ฟื้น ทุกวันนี้พี่ยังถามคุณอาอยู่เลย ทำไมไม่จัดการทีเดียว ก็ไม่รู้จะรออะไร” กวินกอดอกนึกถึงเรื่องเก่า ที่เคยเข้าไปถามอารองของบ้าน เขาอยากกำจัดเสี้ยนหนามออกในเร็ววัน จะได้ไม่ต้องมาคอยระวังหลังว่าวันพรุ่งนี้จะตกอับ และอนาคตจะมืดมน

[---]“ประมาทไม่ได้นะพี่ ถ้าเราพลาดก็จบเหมือนกัน แต่ถ้ามีคุณศัก ตาคิดว่าไม่ช้าพวกนั้นต้องจมหายไปแน่นอน” เธอฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับบรรจงรินชาใส่ถ้วยให้พี่ชายด้วยความคล่องแคล่ว

[---]“ฮ่าๆ ” สองพี่น้องผู้เป็นญาติ ร่วมวงหัวเราะกันอย่างเริงร่า ท่ามกลางบรรยากาศชัยชนะหอมหวานซึ่งอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว อีกเพียงไม่นานนักหรอก ความยิ่งใหญ่จะวิ่งเข้ามาเยี่ยมเยือน


................


[---]ธนิตาเดินขึ้นมายังที่ห้องแห่งความลับของเธอ มันก็คือห้องเก็บของนั่นแหละ แต่ตอนเด็กเธอเรียกให้มันดูลึกลับซับซ้อน จะได้เหมือนที่พวกผู้ใหญ่ทำกัน

[---]สมัยยังเล็ก ธนิตาไม่เข้าใจหรอกว่าศัตรูคืออะไร ทำไมต้องไล่ทำร้ายกันด้วย ความโหดร้ายเหล่านั้นช่างน่ากลัว เธอผ่านมันอยู่ตลอดเวลา เห็นสิ่งที่เลวร้าย สิ่งที่ดี หลายสิ่งท่ามกลางความวุ่นวาย แต่มีบางสิ่งที่ซ่อนลึกๆ ในใจมาโดยตลอด....

[---]ใช่แล้ว สิ่งนั้นเธอโหยหา อำนาจนั่นเอง อำนาจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอหวังอยากจะครอบครอง สั่งการทุกสิ่ง บงการทุกอย่าง ทุกคนที่อยู่ใต้เงาของเธอต้องทำตาม จะมีวันนั้นของเธอรึป่าวนะ วันที่เธอได้นั่งเก้าอี้ฝังหยกตัวนั้น ที่ๆ ซึ่งเป็นของลุงเธออยู่ ณ ตอนนี้ ที่ๆ เธอเคยแอบไปยืนอยู่บนนั้นทำท่าแผลงๆ โดนจับได้ แล้วถูกไม้เรียวฟาดจนหลังลาย

[---]อ่าาาา.... เพียงแค่หลับตาก็มีความสุขแล้ว เธอจะเปลี่ยนอนาคตของที่นี่เอง เพียงคุณศักดาเท่านั้น ชายผู้นั้นจะส่งเสริมเธอได้เป็นอย่างดี แต่ไม่หรอก ไม่ใช่ว่าเธอหลอกให้เขารัก เธอรู้ดี ส่วนหนึ่งในหัวใจเธอก็รักเขาบ้าง ศักดาไม่ใช่คนที่ดีไปทุกอย่าง แต่เขามีสิ่งที่ดีอยู่ในตัว แล้วสิ่งนั้นเธอต้องการเสียด้วยสิ

[---]ความรักรึ มันตามมาทีหลังต่างหาก เพราะหากรักที่ปราศจากเงินตราและอำนาจแล้ว มันก็แค่ความรักหลอกๆ กินไม่ได้ เอาไปต้มยำทำแกงอะไรยังไม่ได้เลย ไม่มีค่าสักนิด

[---]ธนิตามองไปยังกรงนกนั่นอีกครั้ง เธอคาดหวังให้มันโผล่ หรือบินออกมาให้เห็นบ้างแม้เวลานี้จะเลยฟ้ามืดมาแล้ว อยากให้มันยื่นหน้าออกมาให้คำอวยพรกับเธอในวันรุ่งขึ้น เพราะพวกมันเป็นเสมือนหนึ่งตัวแทนความเหงาของเธอได้เป็นอย่างดี

[---]แต่จนแล้วจนรอด มันก็ไม่โผล่มา นกน้อยเหล่านั้นคงจะหลับสบายไปแล้ว เธอมาผิดเวลาสินะ ถ้าอยากเห็นพวกมันคงต้องมาตอนอาทิตย์ลับฟ้า มัวแต่คุยกับญาติผู้พี่ซะนานเลย


[---]อวยพรส่งตัวฉันพรุ่งนี้ด้วยนะ ฉันคงหาโอกาสมานั่งดูพวกแกบ่อยๆ แบบนี้ได้น้อยลงแล้ว ขอให้พวกแกมีความสุข.... ว่าแต่ทำไมเธอต้องไปขอให้พวกมันมีความสุขด้วยล่ะ ในเมื่อพวกมันมีความสุขอยู่แล้ว เพราะอะไรกันนะ กลับรู้สึกว่าจะไม่ได้กลับมานั่งมองกรงนกนี่อีก....ทำไมกัน




................................