กระจกวิเศษ ตอนที่1

“นี่เธอคะ ช่วยหาคนมาเปลี่ยนบอร์ดตรงนั้นทีสิ บอร์ดเก่าๆ ดูแล้วมันขัดหูขัดตา” ดารินออกมาทำงานแต่เช้าด้วยอารมณ์กึ่งดีใจกึ่งรำคาญสายตา เธอสั่งนังเลขาจอมอืดอาดไปตั้งนานละ ยังไม่ยอมเปลี่ยนอะไรสักที เห็นนางแล้วก็ไม่อยากจะวิจารณ์ รองเท้านั่นมันคู่199 ใช่มั้ย อร๊ายย ไม่เข้ากับบรรยากาศบริษัทนี้เลย หากไม่ติดมารยาท ฉันจะสั่งให้นางไปเปลี่ยนใหม่ อึดอัดยิ่งกว่าดูบอร์ดเน่าๆ นั่นอีก

เงินเดือนหล่อนก็ได้ไปคุ้มละ ทำไม๊ทำไม ไม่ปรับปรุง จะว่าไปมันก็ไม่ใช่แค่นั้น ดูเท้าจรดหัว อีกสิ่งที่รับไม่ได้ก็คือดั้งหล่อน ทำไมไม่รู้จักไปซื้อสันสวยๆ มาใส่ซะล่ะคะ ปล่อยให้เป็นพื้นที่แบนราบทั้งหน้าได้อย่างไรกัน เห็นแล้วตงิดๆ ....ถ้าไม่รู้ว่าหล่อนทำงานได้เลิศ สภาพนั้นเธอคงไม่จ้างหรอก.... เอ๊ะ แต่จะว่าไปเราก็แสนดี ดูคนจากภายใน ฮ่าๆ

ดารินยืนกอดอกเขม่นภาพลักษณ์เลขาตัวเอง ที่กำลังโทรหาแผนกซ่อมบำรุงมาจัดการ จากนั้นก็เดินไปพร้อมรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจในการเป็นคนแสนดีของตัวเองยิ่งนัก

“เดี๋ยวค่ะ คุณริน .... เย็นนี้คุณกวินนัดทานข้าว” ละเมื่อกี้ทำไมไม่บอก นี่ไม่รอใกล้เลิกงานค่อยมาพูดเลยล่ะ ได้เตรียมตัวไม่ทันกันพอดี

ดารินหันกลับมาหมายจะบ่นยัยปลาทอง หล่อนลืมเรื่องสำคัญได้ยังไงกัน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เมื่อเห็นว่าตัวเองโยนงานให้กองเท่าภูเขา ยัยนี่คงเห็นว่าการกินข้าวกับพี่กวินสำคัญน้อยกว่าทำงานพวกนั้น สมควรแล้วที่นางไม่มีแฟน โฮะๆ หากเทียบกับเธอที่ตั้งแต่ลืมตาดูโลก หน้าตาก็ไม่ต้องไปเสริม คนดีๆ มายืนรอให้เธอเลือกมากมาย โลกหนอโลก ช่างลำเอียงซะจริงๆ อิอิ

“ถ้ามีนัดกินข้าวกับกวิน บอกฉันก่อนนะ....อ่อ แล้วเที่ยงๆ ช่วยไปเอาเอกสารที่ห้องคุณแม่ให้ที จัดการให้ด้วยเลยก็ดี” สั่งๆ เสร็จ ก็สะบัดตูดหายเข้าห้องไปนั่ง อ่านนิตยาสารบันเทิงเล็กๆ แล้วค่อยเริ่มงานที่ไม่หนักมาก เดี๋ยวเครียด พาลจะไม่สวยไปถึงเย็น พี่กวินได้เซ็งกันพอดี

ฉันไม่ได้กินแรงยัยปลาทองนั่นหรอกนะ แค่ทำนั่นนิดนี่หน่อย ตามแต่สมควร แล้วอย่างฉันก็ไม่ต้องลงมือทำงานทั้งหมดหรอกค่ะ ไม่งั้นจะจ้างพนักงานพวกนั้นมาทำไม

อุ้ยตาย วันนี้หุ้นขึ้นให้รีบกอบโกย เธอโยนนิตยสารทิ้งไว้ข้างๆ คลิกๆ เมาส์สามสี่ที เงินก็เพิ่มในบัญชีมาหลายล้าน ฮ่าๆ คนมันรวยช่วยไม่ได้นี่นา เงินมันต่อเงินค่ะ ถ้าไม่มีเงินก็ต่อเงินลำบากสิคะ ตั้งแต่เกิดมา ช้อนเงินช้อนทองเหรอ ไม่เคยคาบ....คาบทีก็ช้อนเพชรเลยค่ะ กร๊ากๆ ใครไม่มีก็ไขว่คว้ากันไปก่อนนะคะ

........................

ร้านนี้อีกแล้วนะ สงสัยเค้าต้องมีอะไรพิเศษมาเตรียมเซอร์ไพรส์เธออย่างวันก่อน ที่พามาแล้วก็เดินอ้อมมาใส่สร้อยคอให้ เล่นเอาเธอแทบกรี๊ดลั่นร้านอาหาร ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ดีมีราศี คนคงได้อิจฉาไปทั่วร้านแล้วล่ะ

“ริน ผมมีอะไรจะคุยด้วย”

เอ่อ ไม่ต้องคุยก็ได้ ฉันตกลง....แหมๆ เห็นตามข่าวก็พอจะรู้ว่าเราสองคนคงจะลงเอยกันเร็วๆ นี้ ด้วยสื่อเอย พ่อแม่เอย ก็เชียร์กันแทบไม่หวาดไม่ไหว

มันช่างเป็นกิ่งทองที่เหมาะสมกับใบหยก ไม่มีกิ่งไหนใบไหนจะเลิศไปมากกว่านี้อีกแล้วล่ะค่ะ เร็วๆ เลยกวิน ไม่ต้องมาทำหน้าตายแกล้งแสดงละครแล้วมาหลอกให้เธอดีใจหรอก ไอ่มุขแบบนี้มันเก่าไปแล้ว เธอจับพิรุธได้ค่ะ

“ว่ามาสิคะกวิน” เธอยิ้มอย่างผู้หญิงที่ถือชัยชนะไปครึ่งค่อนโลก

คนบนสวรรค์ช่างส่งเธอมาเจอแต่ความสุขเสียจริง หากไม่นับคราวก่อนๆ คราวนี้มันไร้ที่ติจนเริ่มจะเห็นวี่แววของความเป็นไปได้ ถึงเวลาซะทีฉันจะสละคานทองที่นั่งมานานจนจะสามสิบนี่ อร๊าย อยากวิ่งไปกลับรอบโลกแล้วประกาศให้สิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้รับรู้

“ผมมีคนใหม่มานานแล้ว เราเลิกกันเถอะ....คุณดีเกินไปดาริน สมควรเจอคนที่ดีกว่าผม” เขาพูดแค่นี้แล้วก็เดินออกร้านไป

ผ่าง ๆ ๆ ๆ มีแต่เครื่องหมายตกใจเต็มหน้าผากเธอ!!!!

“.... .... .... ....”

‘เราเลิกกันเถอะ’

........................

เรา.... เลิก.... กัน.... เถอะ....

คำๆนี้ดังก้องยิ่งกว่าระฆัง วกวนซ้ำไปซ้ำมาในหัว แล้วตามมาด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ เธอดีเกินไปสำหรับเขา เธอสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะมีใครมารักอย่างนั้นเหรอ

เอ่อดี ไม่รักก็ไม่ต้องรัก มากมายจริงหนอ ถ้าฉันสมบูรณ์แบบจริง คงไม่มีใครทิ้งหรอก แล้วถ้าฉันดีจริง ก็คงไม่มีใครทิ้งอีกเช่นกัน

อ่าว สรุป ฉันไม่ดี และไม่สมบูรณ์แบบน่ะเหรอ อร๊ายยยย ไม่จริง รับไม่ได้ค่ะ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ฉันสวย ฉันรวย และฉันเลิศ แค่ผู้ชายตาถั่วมองไม่เห็นความจริงข้อนี้ ก็เลิกไปเถอะค่ะ ยังมีคนอีกเยอะที่เห็นความสวยรวยเลิศเช่นนี้....แง๊

........................

อึกๆ ๆ ๆ ไวน์นำเข้าชั้นเลิศ เตรียมไว้สำหรับฉลองค่ำคืนอันสวยงาม บัดนี้มันเป็นเพียงเครื่องย้อมใจราคาถูกๆ เธอดื่มเหมือนมันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ไม่ได้รับรู้ถึงรสชาติความหอมหวานที่ใครต่อใครชื่นชม มันก็แค่น้ำหวานผสมแอลกอฮอล์ดีๆ แหละว้า ....เอิ๊ก!!!!

ดื่มเข้าไปเยอะๆ หวังว่าแอลกอฮอล์จะเข้าไปฆ่าความรู้สึกรักท่วมท้นจนบรรยายไม่ถูก ผู้ชายคนที่สี่ในรอบสามปี....สามปี เวลาแสนสั้นสำหรับเริ่มต้นความรัก มันจบลงเร็วเหลือเกิน

คนต่อไปเธอเดาได้เลยว่าเขาน่าจะหาคำพูดไม่ต่างไปจากนี้สักเท่าไหร่ เซ็งจิตสิ้นดี มีอะไรเอามาให้หมดร้านเลย เธอเหมา แขกในร้านคนไหน อยากดื่ม เปิดขวดได้เต็มที่ๆ ตามสบายค่ะ เดี๋ยวแม่เลี้ยงจ่ายเอง

วันนี้ขอเมาอย่างไม่มีลิมิตชีวิตเกินล้านสักหน่อย เพราะพกคนขับรถมาด้วย ต่อให้กินจนอ้วกราดตัวเอง เธอก็กลับบ้านได้แน่ๆ ....แหม แต่กินขนาดนั้นเสียภาพพจน์ฉันพอดีค่ะ เอาพอดีๆ สักสองสามขวดก็พอนะ

เพียงสามสิบนาทีกับไวน์ขวดที่สอง สมองที่หลุดรอดมาน้อยนิดจากอาการมึนเมาของพิษสุราก็สั่งการได้อย่างเชื่องช้าให้เธอก้าวขาเรียวออกจากร้านอาหารสุดหรู ท่ามกลางเสียงตบมือขอบคุณจากเหล่านักดื่มในร้านที่นั่งเป็นเพื่อน ต้องขอบคุณมิตรภาพที่หาได้ด้วยเงิน เอิ๊ก! ไม่ใช่นี่ เมาละฉัน เอาใหม่ๆ เงินที่หามิตรภาพได้ต่างหากล่ะ

........................

“ลาก่อนทุกท่าน ไว้เจอกันยามหน้า” เธอสะอึกสองรอบ โบกมืออำลานักดื่มที่ร่วมพูดคุยก่อนจะก้าวขาออกประตู พร้อมกับอาการทรงตัวแทบไม่อยู่

ทว่าสายตามัวๆ ก็สังเกตไปเห็น....อี๋ขอทานหรือนั่น ทำไมมายืนลับๆ ล่อๆ อยู่แถวหน้าร้านนี้ได้ มันขัดกับบรรยากาศสวยงามนี่เสียจริง แต่ก็นะ ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เพราะเธอพึ่งถูกหักอกมา ยิ่งไม่ค่อยจะมีให้หักอยู่ ยังทำกันได้ลงคอ....แง

“อะไร ไป๊ อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอเซหลบมนุษย์เน่าๆ ที่ไม่เข้ากับสถานที่ หลบแล้วยังจะตามมาอยู่ สักพักเธอก็เห็นว่าคนขับรถของเธอกำลังเดินมาไล่มันออกไปไกลๆ แอบน่าสงสารนิดๆ .... ก็ฉันมันคนดีนี่เนอะ จะว่าไปเค้าคงอยากได้เงินเอาไปใช้ แจกไปนิด คงไม่เป็นไรมั้ง

“ไม่เป็นไรๆ” เธอกล่าวกับคนขับรถไม่ให้เอาเรื่องกับขอทานที่น่ารังเกียจนั่น จากนั้นก็ยื่นเงินปึกหนึ่งให้ ไม่นานก็สังเกตเห็นมันก้มลงไปหยิบของชิ้นหนึ่งที่วางเรี่ยราดตามทางเท้า เพื่อเอามาแลกกับเงินบึกนั้นของเธอ

เอ่อ ว่าแต่นี่มันคนเร่ขายของเหรอเนี่ย ทำไมร้านหรูอย่างนี้ไม่ไล่นังนี่ออกไปนะ ไม่เข้าใจจริงๆ

ดูสภาพอันโทรมทรุดนั่นแล้ว ไม่รู้ว่าได้อาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อี๋....คางนั่นก็สั้นกุด กับจมูกไร้สัน ช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียจริง มันยิ่งขับให้ฟันที่ยื่นแหลมออกมาคู่นั้นดูสยองเข้าไปใหญ่

คนหาบเร่ไม่ยอมรับเงินจากเธอสักที แต่กลับยื่นวัตถุเก่าๆ เน่าๆ ไม่ต่างจากสภาพของนางเล้ยย สงสัยจะหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่รับเงินจากใคร แต่อยากขายของนั่นสินะ

เฮอะ มันก็ไม่ต่างกันล่ะว้าาา เอาของไร้ราคามาแลกกับเงินก้อนใหญ่ในกระเป๋าเธอ หล่อนคุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงละค่ะ รีบๆ เอาไปเลยนะ อยู่ให้เห็นนานแล้วฉันจะเป็นผื่นขึ้นลูกตากันพอดี

ไม่อยากรับของนั่นมาเลย แต่จำใจต้องรับ เพราะไม่งั้นยัยนี่ก็เดินตามเธออยู่นั่นแหละ ขนลุกค่ะ คิดจะทำดีทั้งที ทำง่ายๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมต้องมาจับไอ่ก้อนอะไรสักอย่างที่นางคนขายยื่นมาให้ด้วย

แต่เอาเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฝังในสมองเธอเท่าไหร่ กลับบ้านไปนอนให้หายเมาดีกว่า ขอบใจไวน์ทั้งสองขวดเพื่อนยามยาก มันทำให้เธอหลับสบายเสมอ แม้ยามที่สภาวะจิตใจจะย่ำแย่เพียงใด แต่ยังไงก็ตาม เธอก็ไม่อยากพึ่งมันบ่อยๆ นักหรอก กินหนักๆ ทีไรเป็นอันว่าต้องเจอเรื่องเสียใจมาทุกที เฮ้อ

........................