ดอกเบี้ย ตอนที่7
[---] “บอกมาเลยนะ ตัวเองคิดจะทำอะไรกันแน่”
[---]อรวีต่อสายถึงเพื่อนซี้ทันทีที่เลขาเดินออกห้องไป อยากรู้จริงว่าอะไรทำให้เพื่อนเธอเข้าใกล้แม่เลขาตัวกวนได้ขนาดนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่พอใจ พูดต่อหน้าไปตอนนั้นก็ไม่ได้ด้วยสิ
[---]“คิดถึงเค้าเหรอจ๊ะ นี่พึ่งเจอกันเมื่อกี้ ยังไม่ทันออกรถจากบริษัทตัวเองเลย” กมลชนกรับสาย
[---]“บอกมาเหอะน่า ถ้าให้เค้าคิดเหมือนคนทั่วไป เหมือนตัวเองกำลังจีบยัยนั่นอยู่....แต่เค้ารู้จักตัวเองดี คิดจะทำอะไรกันแน่อ่ะนก นั่นเด็กพ่อเค้านะ” ความสงสัยที่ยังไม่ถูกคลี่คลาย
[---]“ไว้เค้ารู้อะไรแน่ชัดกว่านี้ก่อนแล้วค่อยยืนยัน ส่วนตอนนี้ขับรถก่อนนะจ๊ะ”
[---]สายถูกตัดไปสร้างความสงสัยที่ยังไม่มีคำตอบจากเพื่อน อรวีทำได้แต่รอเหรอ นั่นไม่ใช่นิสัยเธอเลยที่จะต้องรออะไรนานๆ ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
........................
[---]“เข้ามามีน” เจ้านายเรียกอย่างเป็นปกติ
[---]“คุณอรมีงานอะไรเพิ่มเหรอคะ” เลขามีนถาม เธอเริ่มจะรู้สึกถึงความผิดปกติ ตั้งแต่ที่วิทยาเดินออกนอกห้องไป เขาบอกแต่เพียงว่าไม่ได้เอ่ยชื่อเธอเลย แล้วอรวีจะรู้ได้อย่างไร รีบปั้นหน้าให้ดูไม่ประหม่า คงไม่มีใครโยงความผิดมาถึงเธอได้หรอก
[---]“ฉันพึ่งไล่นายวิทยาออก” อรวีเริ่มประโยคสนทนาอีกครั้ง พิจารณาดูเลขาตรงหน้าที่ทำงานร่วมกันมานาน น่าเสียดายจริงๆ คนที่มีความสามารถในตัวเองขนาดนี้กลับต้องแพ้ให้กับจิตริษยา
[---]“อ่าว ทำไมล่ะคะ” เลขาถามหน้าตาย
[---]“เธอก็เซ็นเอกสารนี่ด้วยสิ” อรวียื่นเอกสารที่เตรียมไว้ให้
[---]“....” เลขาหน้าซีดลงเมื่อไล่สายตาไปตามบรรทัดในเอกสาร
[---]“ทำไมล่ะคะคุณอร มีนทำอะไรผิด”
[---]“รู้อยู่แก่ใจ อย่าให้ต้องพูดมากไปกว่านี้เลย ฉันไม่ส่งเรื่องให้ทางตำรวจก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณคงได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับคนร้าย จริงมั๊ยล่ะคุณมีน” ในประโยคที่เอ่ยถึงชื่อเลขาคนสนิทแสดงถึงความเหินห่าง อรวีไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกสงสารคนตรงหน้า เธอเก็บความรู้สึกได้เก่งเสมอ
[---]“เค้าบังคับมีน คุณอรอย่าไล่ออกมีนเลยนะ” ใบหน้านั้นเริ่มสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
[---]“แต่คุณก็ทำ ทางเลือกมีตั้งเยอะ มาบอกฉัน หรือเตือนไอรดาก็ได้ คุณเลือกได้นี่คะ...ฉันบอกได้เพียงว่าคุณเลือกทางผิด ก็ต้องรับผลที่เกิดขึ้นด้วย อย่าทำให้ฉันตัดสินใจลำบากเลย เพราะตอนนี้ฉันเลือกทางออกที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว” คนฉลาดอย่างมีน มีรึจะคิดแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ อรวีรู้ดีว่าหล่อนแอบแฝงไว้ซึ่งความจงใจ เข้าใจอยู่หรอก ขนาดเธออยู่ใกล้ไอรดายังหมั่นไส้เข้าให้
[---]“มีนขอโทษ อย่าไล่มีนออกเลยนะคะ ให้มีทำงานล่วงเวลาเพิ่มก็ได้ มีนทำได้หมดเลย นะคุณอรมีนจะไม่ทำผิดอีก ขอร้องล่ะคุณอร” เธอสะอื้น น้ำตาพรั่งพรูออกมาเป็นสายน้ำ หวังเจ้านายที่ทำงานร่วมกันมาจะเกิดความสงสารบ้าง
[---]“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะคะ ฉันไม่สามารถไว้ใจคนที่หักหลังเพื่อนร่วมงานได้หรอก ฉันให้เวลาคุณสิบนาที เซ็นเอกสารแล้วก็เก็บของออกไปซะ ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาจัดการแทน” อรวีหมุนเก้าอี้หันหลังให้เลขา เธอไม่อยากเห็นภาพตรงหน้านานไปมากกว่านี้ เพราะนั่นหมายถึงเธออาจจะใจอ่อนได้ทุกเมื่อ
........................
[---]ปัง! เสียงประตูกระแทกดังขึ้น ไอรดาถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานที่กำลังจะเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานเดินน้ำตานองหน้าออกมาจากห้อง หล่อนรีบตรงไปเก็บของใช้ที่มีไม่มากบนโต๊ะ ส่งสายตารังเกียจมายังเธอ
[---]“ฉันเสียดายนะ ที่นายวิทยาจัดการเธอไม่สำเร็จคืนนั้น เพราะไม่อย่างนั้นคนที่ต้องเก็บของคงเป็นเธอ” พูดพลางหยิบของชิ้นสุดท้ายวางอย่างลวกๆ ลงลังกระดาษ น่าเจ็บใจเป็นที่สุด นายวิทยาก็แสนโง่ จัดการแค่นี้ก็ไม่สำเร็จ ชิ! ขอให้หล่อนถูกเฉดหัวออกจากที่นี่ในเร็ววันเถอะแม่ไอรดาคนงาม จะเชิดหน้าไปได้อีกกี่ซักกี่น้ำกัน
[---]“ต้องเสียใจด้วยนะคะ ที่วันนี้คนสะใจไม่ใช่คุณ แต่เป็นฉันที่ได้ตำแหน่งเลขาอย่างเต็มตัว ใครน๊าา พยามแทบตายกว่าจะได้ ก็อย่างงี้แหละ แข่งอะไรก็แข่งได้จริงมั๊ยมีน” ไอรดาหัวเราะชั่วร้ายอย่างไม่ปิดบัง เธอยอมรับว่ารังเกียจผู้หญิงตรงหน้าอย่างที่สุด นี่ถ้าคลิปที่เจ้านายเธอกุขึ้นมีจริงแล้วล่ะก็ สองคนชั่วไม่วายต้องเข้าไปนอนในกรงเหล็กแน่นอน!
[---]“แก!! วันนี้ได้เสียโฉมแน่” อดีตเลขาฉวยเอากรรไกรที่อยู่แถวนั้น ตรงเข้าหาไอรดา หมายมั่นจะทำอย่างที่พูด
[---]“เอ้ย อย่านะ” ไอรดาคว้าข้อมือนั้นไว้ได้ทัน
[---]เธอยื้อยุดอยู่กับอดีตเลขา คิดไปว่าทำไมห้องทำงานของคุณอรวีถึงห่างไกลจากแผนกนัก ยอมรับอยู่หรอกว่าบรรยากาศตรงนี้ดีและตรงตามฮวงจุ้ย แต่ตอนนี้เธอจะเสียโฉมเอาจริงๆ ถ้าไม่มีใครมาเห็นซะก่อนนี่สิ คนตรงหน้าเหมือนจะโกรธแค้นเธอมาก แรงฮึดของหมาจนตรอกมีมากกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้เสียอีก
........................
[---]“หยุดนะมีน” เสียงเจ้านายดังขึ้นราวกับระฆังสวรรค์ ตรงเข้าเหวี่ยงมีนออกจากไอรดา หล่อนล้มลงกับพื้นจ้องกลับมาอย่างเคียดแค้นระคนเสียใจที่เจ้านายเฉดหัวอย่างไร้ค่า แล้วก็ตกใจกับบางสิ่งจึงรีบหยิบของใช้วิ่งออกไปทันทีด้วยสังเกตเห็นว่ากรรไกรนั้นบาดเข้าที่แขนข้างหนึ่งของเจ้านาย หากเธอยังอยู่ต่อเผลอๆ อาจเจอข้อหาทำร้ายร่างกายพ่วงไปอีกสองกระทงเลย
[---]“คุณอร เป็นอะไรมากมั๊ย” ไอรดาถามอย่างตกใจ ที่เห็นเลือดจำนวนมากไหลออกจากบาดแผล
[---]“ก็เจ็บสิถามได้” เธอตอบอย่างหงุดหงิด ยัยคนตรงหน้านี่คงไม่รู้ว่าตัวเองทำให้เธอเดือดร้อนตลอด ยังมีหน้ามาถามอะไรไม่เข้าเรื่อง ไม่ควรช่วยเลยจริงๆ
[---]“เลือดยังไม่หยุดไหลเลย ไปโรงพยาบาลกันเถอะคุณอร” ไอรดาร้อนรน อรวีช่วยเธอไว้ถึงได้เจ็บตัว
[---]“ไม่บอกก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะ ไปหยิบกระเป๋าในห้องให้ที แล้วตามไปที่รถ อ่อ เอานี่มาด้วย” อรวีบอกดึงผ้าพันคอของไอรดามาพันแขนห้ามเลือดเอาไว้ เธอไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย เลือดไหลแค่นี้ไม่ทำให้เธอตื่นกลัวสักนิด แต่มันเรื่องอะไรที่เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะยัยนี่ น่าจะปล่อยให้มีนสั่งสอนหล่อนหน่อยก็ดี
........................
[---]อรวีเดินลิ่วนำมาที่รถ ตามมาด้วยเลขาหน้าสวย ไม่ได้หยุดตอบคำถามใครก็ตามที่สังเกตว่าเธอพันแผลไว้ที่แขน ควานหาของบางอย่างในกระเป๋าถือแล้วส่งมันให้เลขา
[---]“กุญแจรถ ขับไปโรงพยาบาลด้วย” เธอส่งกุญแจให้เลขาที่ยืนลังเลไม่ยอมรับมาสักที
[---]“เอ่อ ฉันขับรถไม่เป็นค่ะ” ไอรดาตอบมาในที่สุด
[---]“อะไรนะ โอ๊ยยย ฉันจะบ้าตาย ไอรดาเธอนี่ไปเกิดที่มุมไหนของโลกมาเนี่ย ขับรถก็ไม่เป็น” เธอส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แล้วยัยบ้านี่จะเดินตามมาทำไม เอ่อใช่ เธอเป็นคนสั่งหล่อนเองนี่นะว่าให้เดินตามมา
[---]“ให้ฉันเรียกคนมาช่วยได้นะคะ”
[---]“ไม่ต้องๆ” คนเสียเลือดกดรีโมทเปิดรถ แล้วนั่งไปยังตำแหน่งคนขับ ตามมาติดๆ ด้วยไอรดาที่เปิดประตูรถขึ้นนั่งมาข้างคนขับ หันหน้าไปมองอรวีว่าทำไมยังไม่ออกรถเสียที
[---]“อ่าว จะตามมาด้วยทำไม ฉันไปเองได้” เธอบ่น ยัยนี่มาเป็นตัวถ่วงซะเปล่าๆ ขับรถไม่เป็นก็ไร้ประโยชน์ที่จะตามมา
[---]“ให้ฉันไปด้วยเถอะ” ความรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้ อย่างน้อยให้เห็นว่าคนที่ช่วยเธอไปถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยก็ยังดี
[---]“เฮ้ออ” อรวีถอนหายใจ ขับรถอย่างลำบาก เลือดที่แขนซึมออกไม่มากแล้ว เธอไม่ชอบกลิ่นเลือดเอาซะเลย ถึงจะเป็นเลือดตัวเองก็ตาม มันให้ความรู้สึกย่ำแย่และบาดเจ็บ
........................
[---]ตลอดทางไอรดานั่งเงียบๆ คอยสังเกตเจ้านายว่าแผลนั่นจะเหวอะเพิ่มขึ้นมาอีกมั๊ย
[---]เห็นแล้วก็รู้สึกผิด ถ้าไม่ไปต่อปากต่อคำยัยมีน หล่อนคงไม่โมโหแล้วตรงเข้าเล่นงานเธอ เหตุการณ์คงไม่ต้องมาลงเอยดึงเอาอรวีมารับเคราะห์ด้วย เจ้านายคงจะคิดเกลียดเธอเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ เลย
[---]อรวีเดินออกจากห้องทำแผลมานั่งรอบริเวณที่จ่ายยา เธอไม่เป็นอะไรมากนอกจากแผลบริเวณแขนใกล้ข้อมือถูกเย็บไปสองเข็มนั่น ถึงจะหายในเร็ววัน มันก็ยังจะสร้างรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่เธอไม่ต้องการอยู่ดี
[---]“ดื่มนี่หน่อยมั๊ย เผื่อจะรู้สึกดี” ไอรดาส่งน้ำผลไม้กระป๋องที่พึ่งไปกดจากตู้มาเมื่อกี้
[---]“ไม่ ฉันอยากได้น้ำเปล่ามากกว่า”
[---]“นี่ค่ะ” ไอรดายิ้มแล้วยื่นอีกขวดให้ เธอรู้ว่าเจ้านายเรื่องมากขนาดไหนโดยเฉพาะกับเธอ หล่อนเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นอีกขวดที่ยื่นมาให้ แล้วรีบพูดขึ้นอีก “น้ำแร่ด้วย”
[---]“โธ่ คุณอร ฉันหาน้ำแร่ที่นี่ให้คุณไม่ได้หรอก” เธอทรุดนั่งลงข้างๆ อย่างยอมแพ้
[---]เจ้านายยิ้มน้อยๆ อย่างผู้ชนะที่พ่ายแพ้ต่อความกระหายน้ำของตัวเอง จึงตัดสินใจหยิบขวดน้ำมาดื่มโดยไม่มองคนซื้อให้เสียอารมณ์
[---]พลางคิดไปว่าไม่น่าดื่มเข้าไปเล๊ยไอ่น้ำเปล่านั่น เพราะขนาดเธอไม่คิดหาเรื่องกับเลขาตอนนี้ ยัยนั่นยังจะมามองหน้าเธออีก
[---]ทำเป็นได้ใจอะไรนักหนา เธอก็แค่ดื่มน้ำที่หล่อนซื้อมาให้เท่านั้น พูดอะไรก็ไม่พูด น่ารำคาญกับอาการยิ้มเล็กยิ้มน้อยนั่นอีก มันอะไรกันมากมาย อุตส่าห์กอดอกหันหน้ามองไปทางอื่นก็แล้ว ไม่วายยังจ้องเอาๆ จนรู้สึกได้
........................
[---]เลขาที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของอรวี ตอนนี้เดินไปรับยามาถือไว้ในมือ แล้วก็รีบหยิบกระเป๋าถือให้เจ้านาย เดินกระฉับกระเฉงตามมาเพื่อจะไปส่งที่รถ
[---]“คอนโดเธออยู่ไหน” อรวีถามเมื่อทั้งสองเดินออกจากโรงพยาบาลมาได้สามก้าว
[---]“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกแท็กซี่กลับได้ คุณกลับไปพักเถอะ” เธอรู้สึกเกรงใจเจ้านายเจ็บตัวไม่พอ ต้องมาเป็นภาระกับเธออีก
[---]“ตอนนี้เวลาเท่าไหร่เหรอไอรดา” อีกคนเปลี่ยนเรื่องทันทีคนฟังจึงตอบกลับไปอย่างงงๆ
[---]“สามทุ่มกว่าค่ะ” จะว่าดึกก็ใช่ เธอพึ่งคิดได้ว่าใช้เวลาที่โรงพยาบาลไปนานพอสมควร
[---]โรงพยาบาลนี่เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้สุด แม้เจ้านายเธอจะได้ทำแผลในทันที แต่การดำเนินเรื่องต่อจากนั้นนานพอสมควร เพราะจำนวนคนไข้ที่แห่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลรัฐหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา
[---]“เห็นที่ตรงนั้นมั๊ย ตรงนั้นอีก ดูสิไอรดา” อรวีชี้ให้เธอมองตามไปยังสถานที่ที่มืดมิดสองสามแห่งรอบโรงพยาบาล แทบไม่มีแสงไฟหลงเหลืออยู่
[---]“ค่ะ ทำไมเหรอคะ” ไอรดาถามด้วยความแปลกใจ จะมาชี้ให้ดูสถานที่อะไรเอาตอนนี้ หรือแผลที่แขนจะลามไปยังสมองได้นะ
[---]“ถ้าจะเดินไปขึ้นแท็กซี่ เธอต้องผ่านแถวนั้นไม่ใช่เหรอ ฉันไม่รับประกันหรอกนะว่าวันนี้เธอจะโชคร้าย เจอคนอย่างนายวิทยาอีกรึเปล่า ไม่แน่อาจมีวิทยาหนึ่ง สอง สามด้วยก็ได้ ดังนั้นฉันจะถามอีกแค่ครั้งเดียว เธอจะให้ฉันไปส่งมั๊ย” อรวีชี้แจงในที่สุดเมื่อเห็นเลขาประมวลผลคำพูดเธอได้ช้าเสียเหลือเกิน
[---]“รบกวนด้วยค่ะคุณอร” ไอรดาตอบอย่างว่าง่าย เธอพึ่งขวัญผวาเรื่องนายวิทยาไปได้ไม่นาน ถ้าจะต้องอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอีกรอบ แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยอมเลือกพึ่งพาผู้หญิงคนนี้ยังดีกว่า
[---]“ครั้งนี้อย่าหลับล่ะ เพราะถ้าไปไม่ถึงคอนโด ฉันคงต้องวาดรูปอย่างกับเด็กประถมอีก”
[---]ไอรดายิ้มให้กับคำพูดที่ช่างประชดของเจ้านาย เธอเองแหละที่บอกว่าอรวีวาดรูปอย่างกับเด็ก ก็รายนั้นอยากละเลงจิตรกรรมบนเรือนร่างเธอก่อนทำไมล่ะ
[---]แล้วอรวีก็ต้องแปลกใจว่าสถานที่นี่คุ้นเคยเพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เองที่เธอต้องวนรถผ่านมาแถวนี้หลายรอบกับอาการหงุดหงิดที่หาทางไปต่อไม่เจอ จนแล้วจะรอดเธอก็ไม่คิดจะเข้าซอยแคบๆ นี่หรอก เพราะไม่อาจแน่ใจได้ว่าภายในซอยจะมีที่กลับรถให้เธอรึเปล่า เผลอๆ เลี้ยวเข้าไปแล้วไม่มีทางออกก็แย่นะสิ
[---]“นี่เอง ทางเข้าหายากน่าดู มิน่าครั้งที่แล้วฉันวนหาอยู่นาน พ่อฉันเลือกให้เหรอ” อรวีถามออกไปตรงๆ
[---]พ่อเธอรึจะมีรสนิยมเลือกที่ที่เข้าถึงได้ยาก เขาน่าจะบุญทุ่มมากกว่านี้สิ โดยเฉพาะกับไอรดาด้วยแล้ว ไม่น่าให้มาอยู่คอนโดธรรมดาเช่นนี้
[---]“เปล่าหรอกค่ะ ฉันอยู่ที่นี่มาก่อนที่จะได้เจอคุณท่าน” คุณมนตรีเคยเรียกร้องให้เธอย้ายออกหลายครั้ง แต่เธอก็ปฏิเสธไปหลายรอบ เธอเองก็ไม่คิดจะเล่าเรื่องให้คนขับฟังหรอก เพราะมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่อรวีต้องรับรู้
[---]“น่าแปลกนะ พ่อออกจะหลงเธอ เออช่างเหอะลงไปได้ละ”
[---]“ขอบคุณค่ะคุณอร” ไอรดาเอื้อมมือมาแตะที่แขนเธอเบาๆ ส่งสายตาที่บ่งบอกว่าเธอขอบคุณอย่างแท้จริง สำหรับความห่วงใยที่สถานการณ์พาไป หรืออะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทิ้งเธอให้เผชิญกับความโหดร้าย เธอเริ่มจะมองเจ้านายในแง่มุมใหม่อีกครั้ง
[---]“อืม” อรวีพยักหน้าเชิดขึ้นหน่อยแสดงว่ารับรู้ แล้วเธอก็ต้องหัวเสียอีกครั้งเมื่อขับรถออกมาจากคอนโดไอรดาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น
[---]ใจเต้นระรัวกับความสุขที่วูบวาบอยู่ภายในทรวงอกอย่างบอกไม่ถูก ใช่แล้ว! นั่นต้องเป็นฤทธิ์ยาที่หมอฉีดให้เธอ อรวีบอกกับตัวเอง ซึ่งมันขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่าฤทธิ์ยานั้นไม่อาจส่งผลต่อหัวใจดวงนี้ของเธอเลยแม้แต่น้อย
........................
[---]“ค่ะแม่ ไอเลิกงานดึกแล้วพอดีว่าหัวหน้างานไม่สบาย ไอเลยไปเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาล” ไอรดาตอบคำถามที่กลับมาบ้านช้ากว่าปกติ
[---]“แล้วเค้าเป็นอะไรมากรึเปล่า”
[---]“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ แม่อย่าห่วงไปเลย รายนั้นไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ไออาบน้ำนอนก่อนนะแม่ วันนี้เหนื่อยจังเลย” เธอนึกถึงคนที่มาส่งเมื่อสักครู่ เรียกรอยยิ้มน้อยๆ ให้กับเธอ
[---]“ไม่กินข้าวกินปลาก่อนเหรอ” แม่ถามขึ้น
[---]“เรียบร้อยแล้วค่ะ แม่พักผ่อนเถอะ ถ้าวันไหนไอเลิกงานช้าแม่ไม่ต้องรอนะคะ”
[---]ไอรดาเตือนแม่อยู่หลายครั้ง เธอพยามจะกลับให้ตรงเวลาเสมอ ในวันที่ต้องไปกินข้าวกับคุณมนตรี เขาพยามรั้งเธอให้อยู่คุยด้วย
[---]นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอเปิดโอกาสเลยสักครั้ง เธออยากกลับมาอยู่กับแม่ เพราะรู้ดีว่าแม่ชอบเป็นห่วงและจะไม่ยอมเข้านอนถ้าเธอไม่กลับถึงคอนโดสักที
[---]ไอรดาทิ้งตัวลงนอนข้างมารดาอย่างเหนื่อยล้า พยามปิดสวิตช์สมองที่คิดวนไปเวียนมาถึงใครอีกคน ตอนนี้คงกลับถึงที่พักเรียบร้อยแล้ว
[---]จะผิดไหมที่เธอเริ่มรู้สึกดีกับเจ้านายใจร้าย คนที่จ้องจะด่าเธอทุกเวลาที่ทำผิดพลาด
[---]จะผิดไหมที่เธอแอบหวังบางครั้งว่าจะได้รับคำพูดดีๆ ตอบกลับมาแม้สักนิด
[---]จะผิดไหมที่ใจเธอเต้นผิดจังหวะไปบ้าง
[---]และคงไม่ผิดมากมั๊ง ถ้าเธอฝันถึงหล่อนในคืนนี้ มันคงเป็นฝันที่ดีทีเดียวล่ะ....
........................