ดอกเบี้ย ตอนที่6



[---]ช่วงเย็นวันเดียวกันไอรดามาถึงโรงแรมซึ่งเมื่อเช้าเธอรีบออกมาอย่างกระวีกระวาด แม้ว่าชุดที่โรงแรมให้จะไม่เป็นที่ต้องการของใครแล้ว แต่การเอาของคนอื่นมาโดยไม่คืน มันไม่ใช่นิสัยเธอ



[---]ไอรดาจึงนำเอาชุดที่ซักอบรีดไว้แล้วมาคืน หยิบยื่นทิปเล็กๆ น้อยๆ ให้พนักงานเป็นการตอบแทน



[---]“นี่ค่ะ ชุดที่ฉันยืมไปเมื่อเช้า ซักรีดมาให้แล้ว” เธอยื่นถุงกระดาษให้กับพนักงานต้อนรับที่เป็นธุระเรื่องชุดให้เธอ



[---]“ขอบคุณค่ะ ยินดีให้บริการค่ะ”



[---]“เมื่อคืนฉันมาถึงโรงแรมประมาณกี่โมงเหรอคะ” เธอยังสงสัยกับความทรงจำเมื่อคืน ครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับใหลเธอจำได้ว่ายังอยู่บนรถอรวี เจ้านายคงจะหาคอนโดเธอไม่เจอ เพราะทางเข้ามันยากจะสังเกต



[---]“ประมาณตีสองกว่าๆ เพื่อนคุณพามาค่ะ” พนักงานให้ข้อมูล



[---]“แล้วฉันขึ้นไปบนห้องได้ยังไงล่ะ” เธอถามไปทั้งๆ ที่พอจะทราบคำตอบในใจ อรวีจะให้ใครอุ้มเธอขึ้นไปก็คงเป็นพนักงานของโรงแรม



[---]“เพื่อนคุณแบกคุณขึ้นไปที่ห้องพักเองเลยค่ะ ดิฉันเรียกให้คนมาช่วยแต่เค้าบอกว่าไม่ต้อง”



[---]“เพื่อนคนไหนเหรอคะ” นั่นยิ่งสร้างความสงสัยเยอะขึ้น หล่อนเหรอจะยอมแบกเธอขึ้นไป แค่ช่วยยังจะไม่อยากช่วยด้วยซ้ำ ขอร้องอยู่ตั้งนานจนแทบจะกราบกรานอยู่ตรงหน้า นานกว่าจะใจอ่อน



[---]นี่ถ้าเกิดปล่อยมือจากที่เกาะหล่อนเอาไว้แน่น อรวีคงไม่ใส่ใจเดินหนีออกไปไม่คิดช่วยเธอหรอก แค่ไม่คิดช่วยยังไม่พอ รอยที่เหมือนจะช้ำนอกเหนือจากที่วิทยาทำร้ายเธอนั่นโผล่มาได้ยังไงกัน คงไม่พ้นเจ้านายโหดลอบทำร้ายยามหลับ



[---]“คนที่ใส่ชุดราตรีสีดำ หน้าตาน่ารัก แต่รองเท้าไม่เข้ากับชุด เพราะดิฉันเห็นเค้าใส่รองเท้าวิ่งมา” พนักงานเล่าถึงความทรงจำเมื่อคืน



[---]“ค่ะ งั้นฉันไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณนะคะสำหรับชุด”



[---]“ยินดีค่ะ” พนักงานยิ้มให้เธอ ไอรดาเดินออกจากโรงแรมเพราะเห็นลูกค้าคนอื่นเดินเข้ามา เธอจึงหลีกทางให้พนักงานได้ทำหน้าที่ของตัวเอง....จากความอยากรู้กลายเป็นสงสัย จนถึงขั้นคาใจ ในความคิดเธอ อรวีคงพาเธอมาที่โรงแรม เรียกให้พนักงานโรงแรมอุ้มเธอไปยังห้องพัก หล่อนคงจัดแจงถอดเดรสเธอออก คงแอบบิดแขนขาเธอด้วย แล้วก็ละเลงสีลิปสติกเล่นอย่างสะใจ ทิ้งเธอไว้สภาพกึ่งเปลือยพร้อมหอบเสื้อผ้าเธอไปหมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้ดูต่างหน้าเลยสักชิ้น แต่จากทางข้อมูลที่พนักงานให้คือหล่อนแบกเธอขึ้นไปถึงห้องพักเองนี่สิ ไอรดาส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความรู้สึกอยากขอบคุณ หยุดความสงสัยทันทีเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นช่วยเธอเพราะสถานการณ์บังคับแล้วก็เล่นงานเธอคืน นี่ล่ะคือสิ่งที่เธอไม่คิดสงสัยอีกต่อไปแล้ว



........................



[---]“วันนี้คุณอรดูอารมณ์ดีจัง” มีนเอ่ยทักเจ้านายที่มาทำงานสายผิดปกติ กับท่าทีที่เหมือนลอยมากับความสุขแต่ไกล



[---]“จ๊ะ เอ่อมีนวันนี้ไม่ทำโอทีนะ ฉันไม่ว่าง ส่วนเธอก็พักบ้าง เดี๋ยวหาว่าฉันใจร้ายใช้แรงงานเธอเยอะ”



[---]“ไม่หรอกค่ะคุณอร โอทีเยอะเงินก็เยอะด้วย” เธอพูดทำเอาเจ้านายหัวเราะ



[---]“แหม งกจัง เดี๋ยวปีนี้ฉันขึ้นโบนัสให้เธอพิเศษเลย” เจ้านายกล่าวอย่างร่าเริงเดินเข้าห้องไป แล้วเปิดประตูออกมาอีก



[---]“มีน เดี๋ยวนกมาให้เข้ามาได้เลยนะ”



[---]“ได้ค่ะคุณอร” ทุกประโยคที่ทักทายกันอย่างคุ้นเคยนั้น ไม่รวมเลขาอีกคนที่นั่งอยู่เหมือนเป็นเศษส่วนเกิน เจ้านายไม่เคยทักเธอก่อน ไม่ยื่นงานให้เธอกับตัวโดยตรง ฝากผ่านทางเลขาแสนสนิทมาตลอด สร้างความน้อยใจให้กับไอรดาไม่น้อย



[---]คนเราก็มีหัวจิตหัวใจใช่ว่าจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย เธอยอมรับว่าตำแหน่งเธอได้มาโดยไม่ชอบ แต่งานก็ทำหนักไม่ต่างกับเลขาอีกคน เผลอๆ เธอจะทำมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะอะไรๆ เลขาคนสนิทก็โยนมาให้เธออ้างว่าจะได้เรียนรู้



........................



[---]“คุณมีน คุณไอ say hi ยามบ่ายค่ะ” นี่ก็คงเป็นอีกคนที่ทำให้เจ้านายเธอร่าเริงได้ไอรดาคิด



[---]“สวัสดีค่ะ” มีนกับไอรดาเอ่ยเกือบพร้อมเพรียง



[---]“นี่จ๊ะ ของฝาก ไม่รู้อร่อยมั๊ยเห็นคนต่อคิวซื้อยาวเลย” ผู้หญิงร่าเริงคนนี้ไม่เคยลืมที่จะเผื่อแผ่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่มาหาเจ้านายพวกเธอ หล่อนมีนิสัยที่น่ารักเสียจริง



[---]“ขอบคุณค่ะ” มีนและไอรดาหยิบขนมมาคนละห่อ คนยื่นให้ตอนนี้เดินปลิวเข้าไปยังห้องทำงานของเพื่อนสนิทอย่างไม่คิดจะเคาะประตูให้เป็นพิธีมากมาย



........................



[---]อรวีตอนนี้ที่เหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างถึงกับตกใจ เมื่อคนที่เดินเข้ามาเงียบๆ ยืนมองเธออยู่อย่างพิจารณา



[---]“คิดไรอยู่อ่ะ เหม่อลอยเชียว” กมลเอ่ยทำลายบรรยากาศความเงียบ เพื่อนรักทำไมมองท้องฟ้าเฉยเมยแบบนั้น



[---]“ไม่รู้เหมือนกัน คงเรื่องพี่พิชล่ะ เมื่อวานอยู่ดีดีก็คุยถึงเรื่องแต่งงาน เค้าล่ะพูดไม่ออกเลย” อรวีดีใจที่คนรักกลับมาจากต่างประเทศ แล้วก็แทนที่ด้วยความรู้สึกสับสนที่คู่หมั้นเอ่ยถึงเรื่องแต่งงาน มันก็จริงอยู่ที่ตัวเธอหมั้นกับไกรพิชมาเจ็ดปีเต็ม ควรแก่การหาฤกษ์งามยามดีเสียที หากแต่เธออยากใช้ชีวิตอิสระให้นานกว่านี้ ไม่อยากผูกมัดกับใครไปตลอด ไหนจะเรื่องงาน เธอคาดหวังจะแทนที่พ่อตัวเองให้ได้ ความคิดนี้จึงทำให้คนที่นั่งอยู่หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้สักที



[---]“เอาน่าอย่าคิดมาก ตอนนี้ยังไม่ได้แต่ง ก็อย่าพึ่งไปกังวล ว่าแต่ภาพในกล้องวงจรปิดที่งานเลี้ยง เค้าหามาให้ได้แล้วนะ” กมลชนกบอก



[---]“ดีเลย นายวิทยาจะได้จนมุม” อรวีเอ่ย ลุกไปหยิบแฟลชไดรฟ์ที่เพื่อนสาวส่งให้ เชื่อมต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊ค พร้อมกับกวักมือให้เพื่อนสนิทมานั่งดูข้างๆ ไปพร้อมกัน



[---]นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แม้ว่าอรวีจะไล่นายวิทยาออกจากงานทางอ้อม แต่เขายังด้านหน้ากลับเข้ามาทำงานเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำตัวเหมือนว่าสนิทสนมกับเลขาของเธอมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ และไม่กลัวคำขู่จากเธอที่บอกว่าจะให้ไอรดาไปแจ้งความ



[---]“หลักฐานก็ไม่มี จะไล่ผมออก ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอครับ ผมทำงานมานาน จะให้ออกก็ต้องได้เงินช่วยเหลือให้สมกับที่จะไล่ด้วยสิครับ” เขาพูด ทำเอาไอรดาหน้าถอดสี และเจ้านายที่นั่งมองไปยังคนผิดอย่างสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงความวิตกอันใดกดหัวคิ้วลง



[---]“หลักฐานสินะ” อรวีพึมพำเบาๆ “ออกไปได้แล้วทั้งคู่” เธอไล่คู่กรณีทั้งสองออกห้องทำงานไป สังเกตเห็นวิทยาเดินขวางอีกคนไว้ชั่วครู่ พร้อมกับเหล่สายตาลวนลามตั้งแต่หัวจรดเท้าไปยังเลขาของเธอ ที่ตอนนี้แววตาคับแค้นใจฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด



........................



[---]“นี่ไงที่นายวิทยานั่นเดินตามไอเข้าไป แต่เค้าก็ยังไม่เห็นอยู่ดีว่านายนั่นจะทันไปวางยาไอตอนไหน” เพื่อนสาวกล่าว แลเห็นถึงคนที่นั่งข้างๆ คิ้วขมวดอย่างหงุดหงิด



[---]“ตัวเองอย่าเครียดสิ ค่อยๆ คิด”กมลชนกพูดพลางลูบหลังคนข้างๆ ให้ผ่อนคลายลงบ้าง



[---]“ไม่ได้เครียด ว่าแต่ทำไมต้องเรียกซะอย่างกับสนิทเลย ไออย่างนั้น ไออย่างนี้ ให้ไปสืบนะไม่ใช้ให้ไปตีซี้” อรวีคิดว่าเพื่อนรักแม้จะเข้ากับคนได้ง่ายแค่ไหน ก็ไม่ควรไปพูดดีกับคนที่เรียกได้ว่าเกือบคล้ายจะเป็นศัตรูกับเธออยู่รอมร่อ



[---]“ก็คนเค้ามนุษยสัมพันธ์ดีนี่นา แล้วนี่ก็อยู่ในขั้นตอนการหาข้อมูล เอาน่าเดี๋ยวรู้อะไรเพิ่มมากกว่านี้จะเล่าให้ฟังละกัน” อรวีไม่ค่อยจะเข้าใจนัก จึงพยักหน้ารับไว้เท่านั้น



[---]หลักฐานที่มีในตอนนี้ก็น่าจะมากพอกับที่เธอถ่ายรูปร่องรอยบนตัวไอรดาไว้เมื่อวันเกิดเหตุ เธอยกสายโทรศัพท์ข้างโต๊ะต่อถึงเลขาหน้าห้องในทันทีที่ดูคลิปวิดีโอจบ



[---]“มีน ตามคุณวิทยาให้มาพบฉันหน่อย แล้วให้ไอรดาเข้ามาด้วย” มีนรับคำอย่างตกใจเล็กน้อย และพยามเก็บอาการไม่ปกติไว้ เหงื่อผุดขึ้นในมือเธอได้อย่างไรไม่ทราบ ได้แต่หวังว่าวิทยาคงเอาตัวรอด ไม่กล่าวถึงเธอที่อยู่เบื้องหลังด้วยอีกคน



........................



[---]เสียงเคาะครั้งแรกเป็นไอรดาที่เดินเข้ามาถึงก่อนคู่กรณี ไม่รู้ว่าเจ้านายเรียกเธอมาทำไม นานๆ ทีจะพูดกับเธอเสียด้วยซ้ำ



[---]“ไอ มาดูนี่ นกหาหลักฐานเอาผิดนายวิทยาได้ละ” ไอรดาที่ตอนนี้ถูกคล้องแขนให้เดินตามกมลชนกไปนั่งที่โซฟาภายในห้องทำงาน รู้สึกถึงอีกสายตาในห้องแผ่ออร่าความรำคาญมาที่เธอ



[---]“ดีนะที่วันนั้น อรกลับเข้าไปหาไออีกรอบ ไม่งั้นเรื่องคงจบเศร้า ขอดูรอยช้ำหน่อยซิ” คนพูดไม่รอให้คนข้างตัวอนุญาต จัดการยื่นหน้าไปใกล้บริเวณคอระหง จับคางเลขาเชิดขึ้นเล็กน้อย ปราดตามองไปยังริมฝีปากอิ่มนั่น ทำเป็นสำรวจอยู่นาน คนไม่ทันตั้งตัวลมหายใจกระตุกไปพักหนึ่งเมื่อรู้สึกถึงลมร้อนๆ รดผิวเนียนๆ ของเธอ อ๊า...ใกล้เกินไปแล้วค่ะคุณนก เธอร้อนนะจะบอกให้ อย่ามาอยู่ใกล้กันนานๆ สิ



[---]“ก็ไม่ค่อยเป็นรอยแล้วนะ อ่าวคุณไอไม่สบายหรือคะ” กมลชนกพูดขึ้นด้วยเห็นว่าคนตรงหน้ามีเลือดฟาดจางๆ ขึ้นตรงแก้มนวลนั้น



[---]“เอ่อ...เปล่าค่ะ แค่รู้สึกมึนๆ น่ะค่ะ” เธอเอ่ย ขยับตัวถอยห่างอย่างไม่ให้เสียมารยาท



[---]“อุ้ยขอโทษ ไอคงรู้สึกไม่สบายใจที่นกถามถึงรอยนั่น อย่าคิดมาก เดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะ อ่ะ...กอดปลอบใจให้ทีนึง”



[---]เร็วเท่าคำพูดกมลชนกคว้าดึงเอาไอรดาเข้ามากอดเอาไว้แน่นไม่ให้ได้ตั้งตัว ลูบหลังปลอบใจให้อย่างเป็นกันเองที่เกินความจำเป็นไปหน่อย ทำให้เจ้านายที่นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะทำงานมองไปทางเพื่อนสนิทด้วยสายตายิงคำถามมาเป็นชุด



[---]“ค่ะ” ไอรดาแตะแขนคนกอดเบาๆ อย่างเสียไม่ได้ ลมหายใจที่กระตุกไปเมื่อสักครู่ตอนนี้ขาดห้วงไปแล้ว และกลับมาดังเดิมตอนที่เพื่อนเจ้านายปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ



[---]เธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคนกอดนั้นมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ ความงาม และเสน่ห์ที่แผ่กระจายออก ทำให้ไอรดาควบคุมตัวเองที่จะไม่แสดงอากัปกิริยาใดใดได้ยากลำบากนัก



........................



[---]ประตูถูกเคาะอีกครั้ง ไอรดาลอบถอนหายใจอย่างยากเย็นแม้ไม่อยากเจอวิทยาอีกแต่นับว่าครั้งนี้ต้องขอบคุณคู่กรณีที่มาได้ทันเวลาพอดี ก่อนที่เธอหัวใจวายไปซะก่อนเพราะเพื่อนเจ้านายนั่นเอง



[---]“คุณอรวีเรียกผมมาพบทำไมครับ” เขากล่าวอย่างท้าทาย สังเกตเห็นผู้หญิงอีกสองคนที่นั่งบนโซฟาอีกฟากหนึ่งของห้องทำงาน



[---]แทนคำพูดอรวีหมุนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ที่ปรากฏภาพเขาเดินตามไอรดาเข้าไปยังห้องน้ำของโรงแรม อรวีหยุดภาพอยู่เท่านั้น



[---]“แล้วยังไงครับ ผมก็เข้าห้องน้ำตามปกติ” เขาเอ่ยราบเรียบ หากแต่เริ่มรู้สึกถึงเหงื่อที่ผุดขึ้นตามข้อพับส่วนต่างๆของร่างกาย



[---]“แน่นอน คุณเข้าไปตามปกติ แต่กล้องวงจรปิดอีกตัวที่บันทึกภาพในนั้นไว้ได้คงบอกอะไรได้มากพอแล้วล่ะ” อรวีเอ่ย



[---]“ไม่มีทาง โรงแรมไม่ติดกล้องในห้องน้ำหรอกครับคุณ” เขาพูดออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก คงไม่มีหรอกกล้องที่ว่านั่นรู้สึกโมโหตัวเองที่ไม่สำรวจภายในโรงแรมให้ดีก่อน



[---]“ในห้องน้ำน่ะไม่หรอก แต่พื้นที่บริเวณอ่างล้างมือ ทางเดินภายห้องติดไว้สิ คุณคงอยากเห็น เดี๋ยวฉันเปิดให้ดู และฉันคงจะดำเนินคดีกับคุณ ไว้ไปเถียงต่อที่โรงพักละกัน” อรวีทำท่าจะเปิดไปยังไฟล์วิดีโอหนึ่ง



[---]“คุณอรครับ ผมลาออกก็ได้ครับ อย่าส่งไฟล์ให้ทางตำรวจเลย” น้ำเสียงถือดีที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่ามาตลอดตอนนี้เอ่ยออกมาราวกับลูกไก่ในกำมือที่ร้องขอชีวิต



[---]“ฉันไม่ได้ให้คุณลาออก แต่ฉันไล่คุณออกต่างหากล่ะ” อรวีผลักแฟ้มเอกสารตรงหน้าให้เขาอ่าน



[---]“เซ็นซะ แล้วก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้เห็นอีก ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันว่าคลิปนี้จะถูกส่งไปถึงตำรวจมั๊ย” เขาอ่านเอกสารอย่างเซื่องซึม ไม่คิดจะสบตาใครในห้อง



[---]กระดาษใบนี้ระบุว่าเขาขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และขาดความสามารถในการทำงานจึงถูกไล่ออก โดยทางบริษัทจะไม่ให้เงินจ้างออกแต่ประการใด



[---]เขาลงชื่อท้ายเอกสารอย่างไม่มีทางเลือก แม้การถูกไล่ออกจะเป็นอุปสรรคต่อการหางานใหม่ของเขา แต่ถ้าแลกกับการไม่ต้องเข้าไปนอนในตาราง หรืออาจถูกคนของคุณมนตรีเล่นงานมันก็คุ้ม



[---]“เสร็จแล้วก็ไปได้ละ อย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก” อรวีไล่ด้วยอาการดูถูกอย่างจงใจ วิทยาโค้งให้อย่างหมดมาด หันหลังกลับพยามไม่สบตาใครในห้อง ความรู้สึกแพ้อย่างหมดท่าทำให้เขาอับอายไม่น้อย



[---]“เดี๋ยว” ไอรดาพูดขึ้น เขาหยุดลงมองไปยังเธออย่างหวาดระแวงว่าเธอยังต้องการสิ่งใดอีก



[---]“แกใส่ยานอนหลับให้ฉันตอนไหน” เธอยืนกอดอกถามอย่างคาดคั้น เพราะถ้าจำไม่ผิดเธอไม่เคยออกห่างจากแก้วน้ำของเธอ และไม่เคยรับเครื่องดื่มจากวิทยาเลย



[---]“ผมไม่ได้เป็นคนวางยาคุณหรอกครับ ผมรับปากกับคนที่วางยาว่าจะไม่เอ่ยถึงเค้าถ้าเรื่องแดงขึ้นมา” เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับมีน



[---]“นี่แก!” เธอจ้องหน้าเขาหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ อยากฆ่าคนอย่างนี้ให้หมดโลกเสียจริง



[---]“ขอโทษครับ ผมบอกคุณได้แค่ว่า คนสุดท้ายที่ดื่มยินดีให้กับคุณนั่นล่ะ เป็นคนวางยา” แล้วเขาก็เดินออกห้องไป



[---]“ใครดื่มกับเธอคนสุดท้ายไอรดา” อรวีเอ่ยขึ้นในที่สุด



[---]“เอ่อ ดิฉันจำไม่ได้ค่ะ” ไอรดาพยามนึกถึงวันก่อนที่พร่าเบลอและเลือนราง มีคนพยามยินดีกับเธอเต็มไปหมด



[---]“ไม่ยากๆ เราก็แค่เปิดคลิปในกล้องวงจรปิดในห้องจัดเลี้ยงดูก็รู้เองแหละ” กมลชนกเสนอแนะ



[---]แล้วทั้งสามก็ย้อนภาพไปก่อนงานเลี้ยงจะเลิกรา วิทยายืนอยู่มุมห้องจัดงาน ลอบสังเกตมาทางไอรดาเป็นระยะๆ พนักงานบริษัทหลายคนเริ่มทยอยออกงาน บ้างกล่าวลา บ้างคุยติดค้างกันอยู่ จนผ่านเวลาผ่านไป เหลือเพียงไม่กี่คนในห้อง และในคลิปวีดีโอที่กำลังฉายอยู่นั้นทำให้ทั้งสามเบิกตามองดูอย่างตกใจระคนไม่เชื่อในสายตาตัวเอง



[---]อรวีเร่งภาพให้เร็วขึ้น เพราะคิดว่าอาจมีสักคน คนไหนก็ได้ที่มาดื่มยินดีให้กับไอรดาอีกครั้ง แต่ต้องหยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเห็นเลขาคนใหม่ของเธอในคลิป เริ่มเดินไม่เป็นจังหวะออกห้องจัดเลี้ยงไป ซ้ำลืมกระเป๋าไว้ให้เป็นภาระเธอ



........................



[---]“ตัวเองจะทำยังไง” กมลชนกถามขึ้นทำลายความเงียบ มองดูเพื่อนสนิทที่เหมือนจะกังวล เธอรู้ว่าอรวีชื่นชมเลขามีนมากมาย หล่อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด



[---]“ก็ให้ออกสิ เค้าไม่ใช่ชาวนานะ ที่จะเลี้ยงงูเห่า” งูพิษตัวนี้แม้ตอนนี้จะยังไม่คิดแว้งกัดเธอ หรืออาจจะไม่คิดทำเลยก็ได้ หากแต่สำนึกในความเป็นเพศเดียวกันของเลขามีนนั้นไม่มีอยู่เลย เพราะหล่อนตัดสินใจวางยาเพื่อนร่วมงานประเคนให้กับวิทยาอย่างไม่ลังเล



[---]“ไอรดาเธอไปสั่งเครื่องปริ้นที่โต๊ะทำงานฉันที พิมพ์เอกสารที่อยู่หน้าบนจอคอมเปลี่ยนเป็นชื่อมีนเค้าด้วย”



[---]เลขาเดินไปทำตามอย่างที่เจ้านายสั่ง เอกสารนั้นเป็นเอกสารชุดเดียวกับที่ให้วิทยาลงชื่อเมื่อสักครู่ ไอรดาเปลี่ยนวิทยาออกใส่ชื่อเลขาอีกคนเข้าไปแทนตามคำสั่ง



[---]“ตัวเองให้เค้าไปคุยให้มั๊ย” กมลชนกมองเพื่อนที่เอนพิงโซฟาด้วยอารมณ์เหมือนจะเสียใจที่ต้องไล่เลขาคนเก่ง ปนกับเสียความรู้สึกที่ไม่อาจไว้ใจมีนหากต้องร่วมงานกันต่อไป



[---]“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าจัดการเอง ขอนั่งคิดอะไรสักหน่อยก่อน”



[---]“นี่ค่ะ” ไอรดายื่นเอกสารวางลงตรงโต๊ะรับแขกข้างโซฟา



[---]“เอ่อ คุณอรวี ฉันขอคลิปในห้องน้ำได้มั๊ยคะ” ไอรดาเอ่ยออกไป อยากเอาหลักฐานนั่นมาใช้



[---]“จะเอาไปทำไม” อรวีถามคนที่ขอ



[---]“ให้ทางตำรวจจัดการค่ะ ฉันทนไม่ได้จริงๆ” ไอรดายอมรับ ถึงอย่างไรคนชั่วก็ควรได้รับโทษตามกฎหมาย



[---]“ไม่มีหรอกไอ กล้องที่อยู่ในห้องน้ำน่ะ....อรเค้าเล่นสงครามจิตให้นายนั่นระแวงจนยอมรับผิดไปเอง” กมลชนกเฉลยออกมาในที่สุด ทำเอาเลขาอึ้ง เจ้านายเธอฉลาดเป็นกรดจริงๆ



........................



[---]มือถือกมลชนกดังขึ้นเป็นที่รู้กันว่าลูกน้องที่บริษัทโทรมาตาม เธอรับสายที่เรียกเข้าแล้วหันมายิ้มให้ไอรดาเป็นเชิงขออนุญาตรับสายนะจ๊ะ ส่งผลให้เพื่อนรักที่นั่งข้างๆ หน้างอไม่พอใจอยู่เงียบๆ



[---]“เค้าไปละนะ อย่าเครียดไปอร เรื่องง่ายนิดเดียวจัดการให้จบๆ ไปซะ” เธอว่า จี้ไปที่เอวอรวี เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนซี้ได้อย่างง่ายดาย



[---]“ขอบใจมากนะนก” อรวีเอ่ย ขณะที่กมลชนกลุกขึ้นยืน



[---]“ไอต้องขอบคุณ คุณนกมากเลย ไม่รู้จะตอบแทนยังไงที่คุณอุตส่าห์ไปรวบรวมหลักฐานมาให้” ไอรดาขอบคุณจากใจจริง ไม่ใช่ภาระอันใดของกมลชนกสักนิด เธอก็ยังอุตส่าห์ช่วย



[---]“ไม่เป็นจ๊ะ แค่ไปกินข้าวกับนกสักมื้อก็พอ ถือว่าเป็นการตอบแทนไงคะ” กมลชนกว่าจับมือคนสวยมาถือไว้ ส่งสายตาหวานไปให้



[---]“....ค่ะคุณนก” ไอรดาตอบอย่างลังเล



[---]กมลชนกหันมายิ้มให้เพื่อนสนิท ที่ทำหน้าแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะจากไป สร้างบรรยากาศเงียบครอบคลุมพื้นที่ห้องทำงานอีกครั้ง



[---]“เธอไปทำงานได้ละ ตามมีนมาพบฉันด้วย” อรวีออกคำสั่ง ไอรดาเห็นเจ้านายหยิบเอกสารลุกขึ้นเดินไปนั่งประจำโต๊ะทำงานด้วยบุคลิกเดิมอีกครั้ง





........................