ดอกเบี้ย ตอนที่5



[---]รุ่งเช้าวันใหม่ที่สดใส ผิดกับคนหมดสติเมื่อคืน ที่ตอนนี้คิ้วขมวดด้วยความมึนงง ภายในห้องไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเธอ พยามฝืนร่างกายให้รีบกลับเข้าสู่โหมดตื่นเต็มตัว อาการปวดหนึบที่ศีรษะทำให้ลุกขึ้นได้ช้ากว่าปกติ



[---]เธอชันตัวนั่งบนเตียงอยู่ครู่ใหญ่จึงเรียกโสตประสาทกลับมาได้ทุกส่วน แล้วก็ต้องแปลกใจว่าชุดที่สวมอยู่เมื่อคืนไม่ได้อยู่บนร่างกาย แต่นอกจากรอยขบ และแผลบนริมฝีปากบางแล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติบนตัวเธออีกนอกเหนือจากการที่มีลิปสติกเขียนเปรอะไปทั่วตัว



[---]บางคำที่เธอสามารถอ่านกลับหัวได้เขียนว่า ‘ยัยบ้า’ ‘สมน้ำหน้า’ ‘สวยตายล่ะ’ สารพัดคำที่แปะไปทั่วร่าง รวมไปถึงรูปวาดต่างๆ นาๆ ที่คนเขียนสรรหามาแสดงจิตรกรรมบนเรือนร่าง แขน ขา หน้าท้อง หน้าอก และใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มให้ดูคล้ายตัวร้ายโจ๊กเกอร์ในหนังเรื่องแบทแมน



[---]“....” ไร้ซึ่งคำพูดใดใด เธอถอนหายใจ แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพราะพื้นที่บนร่างกายเต็มไปด้วยการละเลงศิลปะระดับเด็กประถม แต่ถ้าเมื่อคืนไม่ได้จิตรกรเอกที่วาดรูปเล่นบนร่างเธอเล่นแล้ว เธอคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น ต้องยกความดีข้อนี้ให้หล่อนบ้างล่ะ



[---]ไอรดาตรงไปยังห้องน้ำอย่างเร่งรีบ เพราะเวลานี้ต้องเป็นเวลาที่เธอต้องเข้าทำงานแล้ว ลิปสติกยี่ห้อนี้ดีมากกว่าที่เธอคิดไว้เพราะกว่ามันจะล้างออกได้ เล่นเอาคนถูกเขียนขัดออกจนผิวเกือบถลอก เธอใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่จัดการกับสีสันบนตัวจนเสร็จสิ้น แสบนักอรวี หล่อนจะช่วยเธอหรือจะแกล้งเธอกันแน่ แล้วก็ต้องพบกับปัญหาที่ว่า จิตรกรเอกนั้นขโมยเสื้อผ้าเธอไป ไม่มีอะไรให้นอกจากเสื้อคลุมโรงแรม



[---]“สวัสดีค่ะ”



[---]ไม่ทันที่พนักงานโรงแรมจะกล่าวอะไรต่อ ไอรดาก็ถามถึงบริการเสื้อผ้าของทางโรงแรมอย่างรีบร้อน แล้วอ้างไปว่าเสื้อผ้าเมื่อคืนที่เธอใส่มานั้นเปื้อนอ้วกจนไม่สามารถใช้ได้



[---]“เราไม่มีบริการเสื้อผ้าค่ะ แต่ถ้าคุณผู้หญิงไม่รังเกียจ ทางเรามีเสื้อผ้าที่นักท่องเที่ยวลืมไว้ เมื่อหลายเดือนก่อน และแจ้งไว้ว่าจะไม่มาเอาให้ทางโรงแรมนำไปบริจาค...”



[---]“ได้ค่ะ ดิฉันไม่มีปัญหาเรื่องนั้น” หลังจากบอกไซต์ที่เธอน่าจะใส่ได้ไปแล้ว เธอนั่งรออยู่ไม่นานก็มีพนักงานนำชุดมาให้เธอ



[---]เธอเปลี่ยนมันอย่างไม่รีรอ จะเป็นชุดของใครก็ช่าง ตอนนี้มันช่วยเธอให้ไม่ต้องออกจากโรงแรมมาพร้อมชุดคลุม เจ้านายของเธอคงไม่คิดว่าโรงแรมเล็กๆ อย่างนี้จะมีเสื้อผ้าหลงเหลือมาให้เธอได้ใส่ ฮึ! ไม่อยากคิดเลยถ้ามันไม่มีจริงๆ เธอจะทำอย่างไร



........................



[---] ไอรดาเดินบนวิ่งเพื่อขึ้นไปยังที่ทำงานชั้นแปด แล้วก็ต้องถอดใจอีกครั้งเมื่อลิฟต์ถูกติดป้ายว่ากำลังปรับปรุง วันนี้มันวันซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรของเธอกัน วุ่นวายจังชีวิตฉัน



[---]“คุณไอ” เลขาอีกคนเรียกชื่อเธออย่างตกใจ



[---]“ขอโทษที่มาสายค่ะ” ไอรดาหายใจเหนื่อยเมื่อเธอพึ่งขึ้นมาถึงยังโต๊ะทำงาน เธอตอกบัตรเลยเวลาเข้างานมาแล้วเกือบสองชั่วโมง ยังดีที่โรงแรมนั้นใกล้คอนโด อย่างน้อยคอนโดก็ใกล้บริษัท แต่ลิฟต์นี่สิดันมาปรับปรุงในเวลาที่เธอกำลังรีบ



[---]“คุณมาทำงาน...” มีนพูดลอยออกมาอย่างตะกุกตะกัก



[---]“ใช่ค่ะ วันนี้บริษัทไม่หยุดนี่คะ” ไอรดามองคนตรงหน้าอย่างสงสัย



[---]“เอ่อ...อืม ค่ะบริษัทไม่หยุด คุณอรวีถามหาคุณเมื่อเช้านี้ค่ะ ว่าคุณทำไมยังไม่เข้างานอีก” มีนรีบเปลี่ยนเรื่องให้คนฟังสงสัยกับอีกประเด็นหนึ่งแทน



[---]“ค่ะแล้ว คุณอรวีมีอะไรให้ไอทำรึเปล่าคะ”



[---]“คุณอร ให้คุณเข้าพบเมื่อมาถึงแล้วค่ะ” เธอบอกกับเพื่อนร่วมงาน และก็อดสังเกตไม่ได้ว่าชุดทำงานที่ไอรดาใส่มาวันนี้เป็นเสื้อแขนยาว ซ้ำยังมีผ้าพันคอผืนบาง ที่ประดับไว้อย่างเก๋ไก๋ แต่ไม่เข้ากับบรรยากาศหน้าร้อนเอาซะเลย จะว่าอากาศห้องแอร์นี้เย็นก็ใช่อยู่ ยังไงใส่ผ้าพันคอมาเต็มยศแบบนี้มันก็ดูแปลก หรือว่าจะปกปิดรอยที่วิทยาวางแผนจัดการหล่อนเมื่อคืน สมน้ำหน้าหล่อนแล้วล่ะไอรดา



[---]มีนยิ้มเยาะเมื่อเพื่อนร่วมงานหันหลังตรงไปเคาะประตูห้องเจ้านาย สมน้ำหน้าหล่อน ไม่รู้วิทยาจะพาหล่อนไปถึงไหนมาบ้าง วันนี้เห็นเขาเดินขรึมเข้ามาในที่ทำงาน อยากถามอยู่หรอกแต่ไม่ยุ่งดีกว่า แค่นี้ก็สมใจเธออย่างที่สุดแล้วล่ะ หึหึ



[---]“คุณอรวีคะ” ไอรดาพูดใส่ประตูห้อง



[---]“เข้ามาสิ”



[---]“คุณอรวีมีอะไรให้ดิฉันทำคะ” ไอรดาถามเป็นปกติ ขณะที่คนตรงหน้ายังคงบุคลิกเดิม ไม่สนใจต่อคำพูดเธอ มองผ่านเหมือนเป็นกระจกใส เห็นแล้วใจหายจริงๆ



[---]“เธอมาทำงานสาย พนักงานใหม่อย่างเธอมาทำงานยังไม่ครบเดือน อย่าเรียกร้องสิทธิ์ให้มากนัก ชั่วโมงลาบริษัท ใช้ได้กับพนักงานที่ผ่านงานมาสามเดือนขึ้นไป” เรียบนิ่ง เหมือนไม่เห็นใจว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ไอรดาเกือบเอาตัวไม่รอด เจ้านายเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ใช่เหรอ หล่อนเป็นคนช่วยเธอเองนี่นา



[---]“ดิฉันขอโทษที่มาสายค่ะ คุณคงทราบดีว่า...” ไอรดาหยุดกลางประโยคเมื่อเจ้านายยกมือห้ามอย่างรำคาญ



[---]“ไม่ต้องอธิบาย สายก็คือสาย ฉันให้มีนทำจดหมายตักเตือนแล้ว ครบสามครั้งเมื่อไหร่ เตรียมเก็บของออกไปได้เลย” ฟังดูเฉยเมยแฝงไว้ด้วยความสะใจเล็กๆ ที่เธอสามารถกลั่นแกล้งคนตรงหน้าได้



[---]“ค่ะ” ไอรดามองเห็นถึงความจงใจ เธอรู้ดีว่าแม้จะเถียงต่อก็ไร้ประโยชน์อันใด อรวีไม่ได้ชอบเธอมาตั้งแต่แรก ละคงจะหาทางไล่เธอไปให้พ้นๆ สักวัน เธอมองหน้าเจ้านายที่ขลุกอยู่กับงานอย่างระอา



[---]“มีอะไร” คนจ้องสะดุ้ง เมื่อเจ้านายปราดหางตามาหยุดที่เธอ



[---]“เปล่าค่ะ” ไอรดายังไม่ออกห้องไป เพราะก่อนหน้านั้นเธอเคยโดนว่าเรื่องเดินออกห้องไปก่อนที่เจ้านายจะสั่งงานครบ ทั้งๆ ที่อรวีทิ้งให้เธอยืนถือแฟ้มรอนานกว่าสิบนาที งานที่สั่งมาก็น่าจะหมดแล้ว



[---]“งั้นออกไปได้ละ” ไอรดาเดินตรงไปที่ประตูแล้วหันกลับมาทางเจ้านายอีกครั้ง



[---]“เอ่อ คุณอรวีคะ”



[---]“อะไรอีก” สีหน้ารำคาญส่งมายังเธออีกรอบ



[---]“เคยมีคนบอกรึยังคะ ว่าคุณวาดภาพอย่างกับเด็กประถมเลยค่ะ” ไอรดายิ้มกวนแล้วรีบเดินออกห้องก่อนที่คนฟังจะได้พูดออกมาสักประโยค แรกเริ่มเดิมทีเธอก็คิดจะขอบคุณเจ้านายอยู่หรอก ทว่าการกลั่นแกล้งที่เธอได้รับ มันหมายถึงการเปิดศึกระหว่างเธอกับคนตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย หล่อนจะใช้อาวุธอะไรมาจัดการเธอจัดมาได้เลย เธอพร้อมรับมือ และแม้จะโต้ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เธอจะไม่ยอมแพ้แน่นอน ดูซิว่าใครจะยอมยกธงขาวก่อนกัน



........................



[---]เที่ยงวันมาถึงประธานของบริษัทมารับเธอไปกินข้าวกลางวันเช่นเคย เขาพยามเลือกร้านค้าดูดีมีราคา ทว่ามันไม่อร่อยเลยสำหรับเธอ ทำไมคนรวยพวกนี้ชอบกินอะไรที่มันราคาสูงลิบลิ่ว อาหารโซนตะวันออกอย่างนี้ ไม่คล่องคอเลยจริงๆ



[---]“ไอ ไม่ชอบเหรอครับ” เขาถามอย่างเอาใจ พยามตักของกินมาวางในจานให้เธอ



[---]“ก็ดีนะคะ”



[---]“ไว้เย็นนี้เราไปร้านโปรดไอกัน”



[---]เธอยิ้มอย่างพอใจให้เขาเห็น ตามสบายเลยค่ะคุณท่าน ไปร้านไหนๆ อิฉันก็ไม่ได้ต้องจ่ายอยู่แล้ว ถ้าอร่อยเธอก็สั่งกลับได้ด้วย รวยนักก็จ่ายไปสิ เธอก็อยู่ของเธอดีดี อยากเสนอหน้ามาเลี้ยงข้าวแล้วเลือกร้านผู้ดีมีตังค์ จะมาอ้างไม่ได้นะคะว่าเธอเรียกร้อง



[---]แต่คิดแล้วก็หนักหัว น่าเบื่อชะมัด แล้วเธอจะหาวิธีชิ่งแบบแนบเนียนได้ยังไงกัน เงินที่ได้มาก็ค้ำคอ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันทำให้ชีวิตเธอสบายขึ้นก็จริง แต่สิ่งตอบแทนนี่สิคิดไม่ตก



........................



[---]สองนาทีครึ่งเป๊ะๆ เกือบโดนด่าฟรีๆ ว่าเข้างานสาย ดีนะที่คุณมนตรียังไม่ไปไหน ไม่งั้นลูกสาวท่านคงออกห้องมาพร้อมกับปากที่พ่นไฟใส่หน้าเธอได้ หล่อนด่าเธอแทบจะทุกโอกาส บางเรื่องไม่ผิดด้วยซ้ำยังจะหาคำว่ามาเล่นงานกันได้อีก



[---]เฮ้อ...อดทนไปก่อน ชีวิตเธอคงไม่ต้องมาติดอยู่กับสองพ่อลูกตลอดไปหรอก ไอรดาปลอบใจตัวเอง แล้วก็ต้องมาเลือดขึ้นหน้าอย่างโมโหกับท่าทางคุกคามทางอ้อมของเพื่อนร่วมงานที่วางยาเธอ เขาไม่ได้เข้าใกล้เธอจนต้องหลีกหนี



[---]แต่อาการยักคิ้วหลิ่วตา เห็นแล้วมันกวนเท้าน้อยๆ ของเธอจริงๆ นี่ถ้าเธอมีแรงมากกว่าเขาหน่อยล่ะก็ คงเกิดการฆาตกรรมกลางบริษัทแห่งนี้ แล้วนักข่าวก็คงเอาข่าวไปลงแบบไม่รู้ความจริง หาว่าเธอเป็นบ้านขึ้นมาอย่างกะทันหันเป็นแน่



[---]‘สาวโหด ทำร้ายหนุ่มเพื่อนร่วมงานดับสยองคาที่’



[---]ยิ่งคิดก็ยิ่งสะใจ หากทำได้แต่คิดเท่านั้นแหละ เรื่องจริงนะเหรอ ชีวิตเธอคงทำได้แต่อดทนใช่มั๊ย อ้าวแล้วนั้นแฟ้มงานที่เธอเป็นคนทำนี่นา ยัยมีนรับหน้าไปซะงั้น ยิ้มเริงร่าเลยนะคะ ด้านจริงหล่อน



[---]ไม่รู้ว่าใช้ครีมอะไรทาหน้าถึงได้หนาขนาดนี้ ช่างเถอะ พูดไปเจ้านายคงไม่เชื่อ เข้าข้างกันอย่างกับอะไรดี เธอก็คล้ายกับเบี้ยล่างยัยมีนนั่นแหละ รองรับอารมณ์เจ้านายบ้าไม่พอ ต้องมาทนกับเลขาคนสนิทของหล่อนด้วย



........................



[---]แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานไอรดาก็สังเกตเห็นอรวีเดินออกห้องมาอย่างเร่งรีบ ไม่วายส่งสายตาให้รู้ว่าเธอเป็นเสมือนความเลวร้าย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมาอยู่หน้าห้องของหล่อน ราวกับว่าสงครามเย็นเปิดฉากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไอรดาก็ไม่รู้จะเปลี่ยนความคิดหล่อนยังไงได้อีก คนเค้ามีอคติไปแล้ว เปลี่ยนให้ตายยังไงก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา จำใจทนต่อไป



[---]“เดี๋ยวค่ะคุณอร รบกวนเซ็นอนุมัติงานด้วยค่ะ” เลขาสาวอีกคนเรียกให้เจ้านายหันกลับ



[---]“ไว้พรุ่งนี้ได้มั๊ย พี่พิชรออยู่” ประโยคที่เอ่ยขึ้นเป็นที่แปลกใจของเลขาคนใหม่ไม่น้อย ว่าเจ้านายที่แทบจะเรียกได้ว่าขยันสุดสุด บอกให้หยุดงานไว้ก่อน แต่สำหรับบุคคลที่ทำงานกับอรวีมานานพอสมควรก็จะทราบทันทีว่าไม่ควรรั้งเจ้านายไว้ในตอนนี้



[---]“อ่าค่ะ พรุ่งนี้มีนจะวางไว้ที่โต๊ะให้ค่ะ” เลขากล่าวอย่างรู้ทัน



[---]“อรครับ ยังไม่เลิกงานเลย พี่รอได้” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังอรวี เขาเป็นใครกัน มาตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ



[---]“พี่พิช ไหนว่าอยู่สนามบินไง” อรวียิ้มดีใจเมื่อเห็นคนตรงหน้า ดีใจจนออกนอกหน้า เพราะในรัศมีการมองเห็นตอนนี้มีเพียงไกรพิชเท่านั้น



[---]“พอดีเครื่องลงก่อนเวลาหน่อย พี่เลยมาหาอรเร็วขึ้นไง”



[---]“ทำไมไม่โทรบอกล่ะ จะได้ออกไปรับ” คนพูดยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอดดีใจไม่ได้ อืม ยิ้มแล้วก็ดูดีเหมือนกันนะเจ้านายเรา



[---]“อยากเจออรเร็วๆ ครับ มากอดหน่อยเร็ว” สายตาอบอุ่นนั้นแผ่ออกไปยังเจ้านายจนคนรอบข้างเป็นเสมือนส่วนเกิน อรวีเดินโผกอดคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย



[---]“คิดถึงจังเลย” อรวีพึมพำขณะกอดคนตรงหน้าไว้แน่นๆ กลัวจะหายไปไหนไกลๆ อีก



[---]“ไหนดูหน่อยสิ หนักขึ้นรึเปล่า” เขาพูดพลางโอบอีกคนให้ลอยขึ้น ไอรดาสังเกตเห็นแวบนึงว่ามีหอมแก้มกันเล็กๆ ด้วยสิ



[---]“เอ้ย อย่ายกสิ” อรวีหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีสุดๆ



[---]“สวัสดีค่ะ” มีนไหว้ไกรพิช เพราะบรรยากาศเริ่มปรากฏว่าอรวีไม่ได้อยู่กับไกรพิชสองคน ยังมีส่วนเกินอีกสองที่ยืนทำหน้าเหลอหลาอยู่



[---]“สวัสดีครับ ไหนครับแฟ้มที่จะให้อร เดี๋ยวผมจัดการให้ อรนี่ตลอดหนีงานๆ” ไกรพิชเอ่ยแซวอรวี เขาหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นและก็ต้องหันไปมองอีกคนที่อยู่ข้างๆ



[---]“สวัสดีค่ะ” ไอรดายกมือไหว้บ้าง ใครก็ไม่รู้หรอกแต่ต้องสวัสดีไปตามมารยาทเสียก่อน



[---]“สวัสดีครับ อ้าวมีนมีผู้ช่วยเพิ่มอีกคนแล้วเหรอ” เขาหันไปถามเลขาคนเก่า



[---]“ค่ะ นี่ไอรดา เป็นเลขาอีกคนของคุณอรค่ะ” มีนแนะนำไอรดา ทำให้เจ้านายหยุดหันกลับมามองก่อนที่จะเดินเข้าห้องทำงาน



[---]“ผมไกรพิชครับ เป็นคู่หมั้นอร” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการให้กับไอรดา ที่ยิ้มรับอย่างพอจะทราบถึงความสนิทสนมที่สองคนนั้นแสดงออก



[---]“เด็กคุณพ่อค่ะ ฝากมาให้ทำงานกับอร พี่เอาแฟ้มมาสิ อรจะรีบจัดการงาน เดี๋ยวเราไปไม่ทันจองร้านอาหารหรอก” อรวีเปลี่ยนเรื่อง เพราะทั้งวันนี้อะไรที่วกไปเกี่ยวข้องกับไอรดาส่งผลต่อต่อมความหงุดหงิดของเธอไม่น้อย แล้วคู่หมั้นเธอยังจะไปพูดกับหล่อนอีก อย่าช้าต้องรีบกำจัดหล่อนเดี๋ยวนี้เลยอรวี...



........................



[---]ยอมรับว่าวันนี้เธอตกตะลึงเหมือนกับได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก เจ้านายที่วางมาดมาตลอด ซ้ำยังไม่เคยมีรอยยิ้มปรากฏอยู่เลย กลับดูสดชื่น ร่าเริงอย่างกับเด็ก ใบหน้าที่บึ้งตึงที่ไอรดามักจะเป็นคนได้เห็นบ่อยครั้ง ตอนนี้มันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก....อรวีเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่าน่ารักมากอีกคนหนึ่งในความคิดของเธอ หล่อนดูอ่อนกว่าอายุพอสมควรสำหรับวัยเบญจเพส และแม้ว่าไอรดาจะแก่เดือนกว่า แต่เธอก็ไม่ได้ดูเด็กอย่างกับอรวี การวางท่าว่าขยันขันแข็งนั้นช่วยเสริมบุคลิกให้เกิดความน่าเชื่อถือได้ดีทีเดียว



........................



[---]“นั่นคู่หมั้นคุณอร ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมถึงปล่อยงานไว้ก่อน” มีนบอกกับไอรดาที่มีสีหน้างงค้างเหมือนเห็นหิมะตก



[---]“ค่ะ ดูรักกันดี” ไอรดาบอกตามที่เห็น



[---]“คู่นี้รักกันยืด คุณไกรพิชเป็นคนที่มั่นคงมาก คุณอรถึงรัก ไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไปเจ้าชู้เป็นนิสัย จริงมั๊ยคะคุณไอ” สำเนียงที่เอ่ยเหมือนชวนคุยทั่วไป หากย้อนฟังดีๆ แล้วจะรู้ว่ามันจิกกัดคนฟัง



[---]“อืมค่ะ ผู้ชายก็เกือบจะเหมือนๆ กันหมด เห็นผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้ เจ้าชู้ออกลาย แต่ผู้หญิงไม่สวยก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องทนรำคาญเวลามีคนตามจีบ” ไอรดาพูดอย่างแสดงความเห็น เธอรอบสังเกตหน้าเลขาอีกคนที่กระตุกน้อยๆ ถึงไปผ่ามาเท่าไหร่หล่อนก็ไม่มีวันสวยเท่าเธอหรอกย่ะ



[---]“จะว่าโชคดีก็ใช่นะคะ เพราะผู้หญิงไม่สวยดูไม่ร่านผู้ชายดี เหมาะแก่การเป็นแม่ของลูกมากกว่า นางบำเรอชั่วคราว” เอ่ยพลางทำงานไปตามปกติ หนอยยังไม่หยุดนะยัยมีน



[---]ไอรดาเคาะแป้นพิมพ์สนใจกับงานเหมือนประโยคที่ได้ยินนั้นเป็นเพียงการสนทนาธรรมดา เธอกำลังจะกล่าวตอบ ก็ต้องหยุดลงอย่างน่าเสียดายที่ไม่ได้สะท้อนการโจมตีทางคำพูดกลับคืนไปบ้าง ประตูห้องเจ้านายก็เปิดออก พร้อมเสียงหัวเราะลอดออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาซะอีก



[---]“มีนคะ วันนี้ฉันให้ออกงานก่อนได้นะ ไปพักบ้าง” อรวียื่นแฟ้มให้เลขาคนสนิท แล้วเดินควงไกรพิชออกไปอย่างอารมณ์ดี



........................