ดอกเบี้ย ตอนที่3
[---]ณ ชั้นล่างสุดของคอนโดแห่งหนึ่ง วิทยานั่งรอใครบางคนอยู่อย่างใจจดจ่อ เขามาถึงเร็วก่อนเวลานัดหมาย เผื่อว่าหล่อนจะลงมาเร็ว และได้มีเวลาพูดคุยกับเขานานขึ้น หรือไม่แน่เจ้าหล่อนอาจชวนเขาขึ้นไปนั่งฆ่าเวลาในห้อง เพียงความคิดเบาๆ ก็เรียกความเบิกบานในจิตใจให้วิทยาไม่น้อย
[---]“รอนานมั๊ยคะ” ไอรดาถามเพื่อนร่วมงานที่อาสามารับเธอที่คอนโด
[---]“ไม่นานครับผมมาถึงเมื่อสักครู่เอง” เขาโกหกหล่อนเพราะเกือบชั่วโมงแล้วที่เขามาก่อนเวลา
[---]“งั้นเราไปกันเลยมั๊ยคะ”
[---]“ครับ” ผิดหวังเล็กน้อยที่เจ้าหล่อนไม่ได้ชวนเขาไปยังห้อง ด้วยรู้ว่าเขากับหล่อนพึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน เวลานี้คงไม่เหมาะ แต่อีกไม่นานหรอก หล่อนจะต้องยอมรับในตัวเขาที่ยังหนุ่มยังแน่น ใช่เป็นชายแก่ที่มากด้วยทรัพย์สมบัติ
[---]“วันนี้คุณไอสวยมากเลยครับ” เขาชมเธอจากใจจริง
[---]“ขอบคุณค่ะ ชมมากเดี๋ยวไอลอยขึ้นฟ้าจะทำยังไงเนี่ย”
[---]“อย่านะครับ นางฟ้าจะรีบกลับสวรรค์ได้ยังไง” วิทยายิ้มให้
[---]“โหว ไอยังไม่ทันตายจะไล่กลับสวรรค์ซะละ เสียใจเลย”
[---]“คุณไอน่ะแค่เสียใจ แต่ผมน่ะใจหายไปอยู่ที่คุณแล้วนะ” วิทยาปล่อยมุกเสี่ยวๆ แล้วแกล้งกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะเมื่อไอรดาทำหน้างงกับบางคำพูด
[---]อันที่จริงเธอเบื่อที่จะฟังคำชมที่ได้รับมาตลอด ใครไหนเลยจะรู้ไหมว่าที่เธอได้ต่อปากต่อคำไป มันจะทำให้เธอรำคาญขนาดไหน เธอรู้อยู่หรอกกว่าสวย แต่จะพร่ำบอกทุกครั้งทำไม ทำไมไม่มีใครที่ชื่นชมมาจากข้างในที่เป็นตัวเธอ หน้าตาที่มีมันก็แค่เปลือก ถ้าวันหนึ่งเธอไม่ได้สวยไม่ได้น่ารักอย่างที่เป็น คนพวกนี้จะยังเอ่ยปากชมอยู่อีกรึเปล่า
........................
[---]อรวีนั่งรอเจ้าของงานอย่างเบื่อหน่าย แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับพนักงานคนใหม่ของแผนก แต่ยังคงอยู่ในงบประมาณของบริษัทอยู่ดี แล้วเธอก็ยังเป็นหัวหน้าของคนเหล่านี้ งานนี้จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่มาร่วมงาน จริงอยู่ที่กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ทว่าสำหรับคนบางคนที่เข้ามาได้ด้วยเต้าไต่ มันควรจะมีข้อยกเว้นบ้างล่ะ
[---]“นี่ใกล้เวลานัดแล้วยังไม่มาอีก คนอะไรไม่รู้จักเวลา” อรวีบ่นพึมพำให้พนักงานของเธอที่อยู่ถัดไปได้ยิน
[---]“ใช่ค่ะคุณอร พี่ว่าเค้าคงไม่อยากมาหรอก ก็พวกเราไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับเค้านี่คะ” หนึ่งในพนักงานในแผนกแทรกขึ้น
[---]“อย่าใส่ใจเลยค่ะ ถือว่าเราจัดงานเลี้ยงแผนกไงคะ” ใครสักคนที่ร่วมสนทนากำลังเอ่ยอย่างประจบ ด้วยรู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบแม่เลขาคนใหม่
[---]“สั่งอาหารในเมนูก่อนเลยไม่ต้องรอ เชิญตามสบายเลยนะคะ อรขอตัวสักครู่” อรวีบอกกับทุกคน
[---]งานเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่ ปกติจะจัดตามร้านอาหารที่ธรรมดาให้บรรยากาศเป็นกันเอง สำหรับงานนี้แล้วมันแตกต่างออกไป เพราะคุณมนตรีได้เพิ่มงบสนับสนุนมาหลายเท่าตัว ให้จัดงานได้ที่ห้องอาหารของโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ ห้องกว้างขวางใหญ่โตเกินไปสำหรับพนักงานเพียงยี่สิบกว่าคน มันไม่ได้ทำให้ความสนิทสนมเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
[---]ยิ่งเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวที่จะรับช่วงต่อกิจการด้วยแล้ว ยากนักที่คนเหล่านั้นจะเข้าหาอย่างจริงใจ ไม่ประจบประแจงหวังวันข้างหน้าจะได้รับประโยชน์จากเธอ
........................
[---]“นก เค้าเบื่อมากเลย ตัวเองออกมาหาหน่อยได้ป่ะ” อรวีกรอกเสียงไปตามสาย บิดขี้เกียจเพราะไม่รู้จะต้องทนอยู่ในงานอีกนานแค่ไหน งานที่จัดขึ้นเพื่อใครสักคนที่เธอไม่ชอบยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่
[---]“อะไรกัน นี่อย่าบอกนะว่าหนีออกงานเลี้ยงมาคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำอีกแล้ว”
[---]“อืม ยัยนั่นยังไม่มาเลย ออกมาหาหน่อยสิ อยู่โรงแรมที่ตัวเองชมว่าอาหารอร่อยไง”
[---]“หนอยยัยอร ทีอย่างนี้เห็นเค้าสำคัญ ไม่เบื่อไม่เซ็ง ไม่โทรหา”
[---]“นะคะคุณกมลชนก เข้ามาเป็นเพื่อนคุยสักชั่วโมงนะ เดี๋ยวเค้าเลี้ยงข้าว” อรวีอ้อนเสียงหวาน
[---]“อืมก็ได้ย่ะ เค้าแวะไปได้ไม่นานนะ เดี๋ยวเจอกัน”
[---]อรวีเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็ต้องตกใจเล็กน้อยที่ผู้ถูกกล่าวถึงเมื่อสักครู่ยืนอยู่อ่างล้างมือถัดไป สงสัยว่าที่เธอคุยถึงไอรดาเมื่อกี้ จะทำให้หล่อนรู้ตัว ปลายหางตามายังเธอที่ออกจากห้องน้ำ ก็ทำยังไงได้ล่ะ ใครใช้ให้มายืนฟังตอนเธอพูดโทรศัพท์ในห้องน้ำ รับรู้ไปบ้างก็ดีเหมือนกัน ไม่ค่อยถูกชะตากับเลขาคนใหม่นักหรอก
[---]“คุณมาช้านะคุณไอรดา ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการมางานนี่หรือเปล่า ทำตัวเด่นมากไปปัญหาจะตามมาหวังว่าคุณคงจะรู้ตัว” อรวีเชิดหน้าใส่ไม่ใส่ใจแววตาที่ปลายจิกมายังเธอเบาๆ แล้วปิดก๊อกน้ำล้างมือ
[---]“คุณเป็นคนนัดเวลาเองนี่คะ ดิฉันก็มาตรงตามเวลา ไม่ได้ขาดไม่ได้เกิน อ่อ...แล้วเรื่องเด่นดังต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันเด่นมาตั้งแต่เกิด” ไอรดากระตุกยิ้มที่มุมปาก
[---]เหอะ! จะว่าเธอทำได้แค่นี้เองเหรออรวี หนีมาหลบในห้องน้ำของโรงแรมเพื่อจะด่าลับหลังกับใครก็ไม่รู้ในโทรศัพท์
[---]“นั่นสินะ ดิฉันลืมไปว่าคุณเด่นไปซะทุกเรื่อง แต่จะเด่นจะดังไปได้นานแค่ไหนกันเชียว ก็แค่ของเล่นฆ่าเวลาของพ่อฉันเท่านั้นล่ะ เดี๋ยวคงถูกเขี่ยทิ้ง” อรวีส่ายหน้าช้าอย่างเอือมระอา เสียงเครื่องเป่าร้อนจบลงพร้อมกับอารมณ์เธอที่ไม่อยากจะอยู่พูดอะไรต่อไปอีก
[---]“เดี๋ยว” ไอรดาดึงแขนคนที่กำลังจะเดินออกห้องน้ำ
[---]“นี่อย่าเอามือต่ำๆ มาแตะ ฉันนะ” เธอสะบัดแขนออก มองใบหน้าสวยของหล่อนที่ใครๆ ก็หลงนักหนา แค่สวยล่ะว้าเนื้อในไม่เห็นจะมีอะไรดี ไม่ต่างจากคำกล่าวที่ว่า...สวยแต่รูปจูบไม่หอม
[---]“แค่จะบอกว่าฉันไม่ใช่ของเล่นใคร แล้วถ้าจะคุณจะพูดดีๆ กับฉันบ้างคงจะดีกว่านี้ เผื่อว่าสักวันหนึ่ง เราอาจเป็นครอบครัวเดียวกันไงคะ เรียกฉันว่าคุณแม่สิ” ไอรดาส่งยิ้มหวานไปให้
[---]“....” อรวีไม่รู้จะต่อด้วยคำพูดหรือประโยคอันใด
[---]เธออยากจะกระโดดเข้าใส่คนตรงหน้า ทำอย่างไรก็ได้ให้นางมารหน้าหวานนี่ได้รู้สึกเจ็บปวด ทนไม่ไหวจนต้องแสดงธาตุแท้ออกมา หากแต่ทำไม่ได้ เพราะเมื่อเธอเดินเข้าหาไอรดาได้เพียงก้าวเดียว ประตูห้องน้ำก็เปิดออก พร้อมกับพนักงานบางคนที่เดินเข้ามาตาม
[---]“มาพอดีเลย ไอกำลังจะออกไปพร้อมกับคุณอรอยู่เลยค่ะ” ไอรดาเดินเข้าไปควงแขนอรวีจะพาเดินออกห้องน้ำ แต่เจ้าตัวสะบัดออกเล็กน้อย อีกทั้งพยามข่มสายตาจะกินเลือดกินเนื้อเอาไว้ และเดินนำออกไป
........................
[---]ท่ามกลางบรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับสุดหรู อรวีสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ เธอเป็นตัวแทนกล่าวต้อนรับไอรดาด้วยคำพูดแสนดีที่ปั้นแต่งมาอย่างครบครัน เรียกเสียงปรบมือจากพนักงานที่มาในงานทั้งหมด ทำให้ไอรดารู้สึกทึ่งในการควบคุมตัวเองของผู้หญิงคนนี้เสียจริง หล่อนเนียนได้เก่งจังนะ ไม่กี่นาทีก่อนยังแฝงคราบนางมารร้ายกาจอยู่เลย
[---]“ขอบคุณนะคะ” ไอรดายิ้มให้อรวีไม่ลืมปรายสายตาขอบคุณแฝงความท้าทายไปให้ อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยคิดที่จะว่าให้ใครลับหลัง แต่คนที่นี่ต่างกันทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง นิสัยไม่ต่างกันเลย
[---]“ไม่เป็นไรค่ะ คิดว่าเราคงได้เจอกันอีกนานแน่” อรวียิ้มหวานกลับอย่างเป็นมิตร อืม ยิ้มน่ารักดีจังค่ะคุณเจ้านาย ถ้ามีน้ำสตอเบอรี่แถวนี้จะรีบเอาไปเสิร์ฟให้คุณเป็นคนแรกเลยแหละ
[---]ไม่นานพนักงานทั้งหลายก็เข้ามาแสดงการต้อนรับไอรดา ยินดีให้กับเธอที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท บางคนก็แสดงอาการอยากสนิทสนมกับเธอ บ้างถามไถ่เรื่องราวต่างๆ อยากรู้ว่าเธอมาพบกับคุณมนตรีได้อย่างไร
[---]ไอรดารู้ดีว่าคนเหล่านี้ต้องการเรื่องเล่าข่าวใหม่ที่นำไปเสนอในแวดวงคนคันปาก เธอตอบไปตามความจริงไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร ก็ในเมื่อความจริงก็คล้ายๆ กับที่ทุกคนคิด งั้นก็ปล่อยไปตามน้ำเลยละกัน ถือซะว่าเธอทำบุญ อย่างน้อยคนพวกนี้ก็จะได้มีความสุขที่หาข่าวใหม่ไปอัปเดตได้
........................
[---]“พี่วิทจะดีเหรอ เดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องขึ้นมาอีกหรอก” มีนถามวิทยาที่ยิ้มกับแผนการของเขา
[---]“ถือว่าช่วยพี่เหอะมีน คนกันเอง” วิทยาขอร้อง
[---]“ก็ได้ แต่ถ้าเจ้าตัวเอาเรื่องขึ้นมา มีนไม่รู้ด้วยนะ”
[---]“จะเอาเรื่องได้ยังไง ท่าทางจะเชี่ยวพอตัว เอาน่าใกล้งานจะเลิกแล้ว อย่าลืมตามแผนนะ” เขาไม่ลืมกำชับเธออีก
[---]“ได้สิ มีนก็ไม่ชอบนังนั่นสักเท่าไหร่หรอก ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะมาแย่งเอาตำแหน่งเราไปอีก”
[---]สงสารเธอก็สงสารอยู่หรอกนะ เข้ามาได้ในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรก็สมควรแล้วล่ะ เธออุตส่าห์ทำงานอย่างขยันแทบตายกว่าคุณอรวีจะเลื่อนตำแหน่งให้มาเป็นเลขา แต่กับไอรดาแล้วแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ใช้แค่ความสวยกับมารยา ถ้าจะพลาดท่าในวันนี้คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับหล่อนหรอก
[---]แผนการที่วิทยาเตรียมไว้ ไม่ยากอย่างที่คิด แค่ให้เธอหาจังหวะที่ทุกคนในงานเริ่มทยอยกันกลับ ไปขอชนแก้วกับไอรดาเป็นแก้วสุดท้ายก่อนงานจะจบ โดยไม่ลืมที่จะใส่บางสิ่งไว้ในแก้วของหล่อน แล้วหลังจากนั้นเขาจะเป็นคนจัดการต่อเอง
[---]ที่ว่ามาเธอก็พอเข้าใจอยู่หรอก จากสายตาที่วิทยาแอบมองไอรดาทุกครั้งมันแทบจะกลืนกินเจ้าหล่อนได้ทุกเวลา ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรกับสายตาผู้ชายในแผนกที่มองไอรดา
[---]ช่วยไม่ได้นะที่หล่อนอยากทำตัวเด่น ครั้งนี้ล่ะเธอเป็นตัวแปลสำคัญที่ทำให้นางฟ้าตกนรกเอง ยิ้มไปก่อนนะไอรดา วันนี้จะเป็นวันซวยของเธอ
[---]“คุณมีน อะไรติดหน้าฉันรึเปล่าคะ” ไอรดาพูดทำเอาคนถูกถามสะดุ้งเฮือก
[---]“เปล่าค่ะ มีนแค่เหม่อๆ คงเผลอไปจ้องหน้าคุณไอนานไปหน่อย”
[---]“จ๊ะ” ไอรดารู้สึกถึงพลังงานลบบางอย่างที่ไม่ว่าใครก็คงสัมผัสได้หากถูกจ้องนานขนาดนั้น แต่ช่างเถิด เธอชินกับสายตาอย่างนี้แล้วล่ะ
........................
[---]“ไง รอเค้านานมั๊ย” กมลชนกเดินเข้ามาทักอรวีที่นั่งวางมาดนางพญาอยู่หัวโต๊ะ
[---]“มาช้านะเราน่ะ ปล่อยให้เพื่อนรอจนรากงอกอยู่ละ” อรวีบ่น
[---]“ไหนจ๊ะ ตัวปัญหาที่ว่า” ไม่ทันได้ถามไถ่อะไรกมลชนกก็ก้มลงกระซิบถาม
[---]“นั่งก่อนๆ” อรวีเรียกให้พนักงานโรงแรมจัดหาเก้าอี้แทรกให้เพื่อน ที่ตอนนี้ทักทายอยู่กับพนักงานบริษัทเธออย่างเป็นกันเอง
[---]“แหมกว่าจะนั่งได้นะ hotจริงๆ เพื่อนเรา” อรวีทำหน้างอน
[---]“อะไรกันคะ ไหนๆ มาดูซิ วันนี้ตัวเองสวยอ่ะ ยิ้มหน่อยๆ เร็ว”
[---]“ไม่ต้องแกล้งชมเลย เข้าเรื่องเลยดีกว่า พาฉันออกจากงานนี้ด่วน” อรวีลดเสียงลงให้ดังพอได้ยินกันแค่สองคน
[---]“อุ้ย ไม่ได้นะ พึ่งมาถึง ยังไม่ได้กินอะไรสักอย่างเลย”
[---]“ไปที่อื่นก็ได้ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง ที่ไหนได้หมดเลย”
[---]“ไม่เอาๆ งานเลี้ยงทีไรชอบหนีทุกที งานนี้ตัวเองเป็นหัวหน้าอยู่จนจบสิ” กมลชนกส่ายหัวให้กับมุขอ้อนอยากออกจากงานของเพื่อน นี่เป็นอีกครั้งที่เธอมักจะถูกเรียกมาเป็นตัวช่วยให้อรวีอ้างว่าติดธุระขอออกจากงานไปกลางคัน
[---]“งั้นตัวเองต้องอยู่กับเค้านะ เผื่อยัยนั่นจะมาหาเรื่องเค้าอีก” อรวีอ้อนกับกมลชนก ซึ่งเป็นภาพที่เห็นอยู่บ่อยครั้งสำหรับพนักงานบริษัท
[---]แต่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ทำเอาหัวใจหนุ่มโสดสองสามคนที่มองมาทางพวกเธอสั่นไหวได้ทุกครั้งไป
[---]หัวหน้าสาวมาดดุ เธอสวยแบบเฉียบขาดยามเมื่อสั่งงาน แต่เมื่อได้อยู่กับเพื่อนสาวแสนสนิทคนนี้ ประกายความน่ารักในตัวเธอเปล่งออกมาจนเขาแทบสำลักไปกับความสุขที่ได้เห็น
[---]หากผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เจ้านายแล้วล่ะก็ พวกเขาคงกล้าที่จะเอ่ยชม พยามเด็ดดอกฟ้าไปนานแล้ว
[---]และสาวสวยเพื่อนสนิทนั้นความงามที่ไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่บวกกับความเป็นกันเองของเธอ ดูแล้วไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไม เธอถึงทำให้หัวหน้าของพวกเขาร่าเริงได้เรื่อยไป
[---]“no จ๊ะ คราวนี้เค้าอยู่ไม่นาน กินเสร็จแล้วก็จะไป” กมลชนกเอ่ยอย่างเด็ดขาด
[---]“ง่าาา ตัวเองปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว”
[---]“โห คนตั้งหลายคน แล้วใครที่มาหาเรื่องเธอ ไม่เชื่อเด็ดขาดเลย ยูโดสายดำอย่างนี้เค้ากลัวว่าตัวเองจะไปหาเรื่องคนอื่นมากกว่า แล้วไหน คนไหนบอกมาสักทีสิ”
[---]“ลองเดามาสิคุณนักสืบสาว คนไหนคือตัวปัญหาเอ่ย” อรวีเข้าเรื่องทันทีที่เมื่อเห็นว่าแม้จะอ้อนเพื่อนไปก็เปล่าประโยชน์
[---]“ให้เดานะ ต้องนั่งห่างจากเธอ”
[---]“อืมใช่”
[---]“แล้วก็น่าจะเป็นคนสวยด้วย พ่อเธอถึงได้หลงไง”
[---]“ก็น่าจะใช่” ชิ! มันก็สวยอยู่หรอกนะ แต่เธอไม่ชอบหล่อนจะให้บอกว่าสวยก็กระไร
[---]“ที่สำคัญต้องดูฉลาดๆ ไม่งั้นคงไม่ทำให้ตัวเองเครียดจนรับมือไม่ได้หรอกใช่มั๊ยล่ะ”
[---]“ถูกต้องที่สุด” อรวีรับคำ
[---]“คนนั้นที่ใส่เดรสสีฟ้าเข้ม” อรวีตะลึงเมื่อเพื่อนสาววิเคราะห์อยู่ไม่นานก็ระบุตัวการได้อย่างแม่นยำ
[---]“นี่ๆ ใช่ว่าสืบรู้มาก่อนรึเปล่าเนี่ย ทำไมแม่นอย่างกับจับวาง”
[---]“เปล่าหรอก แค่สังเกตนิดๆ หน่อย ไม่ยากหรอก ว่าแต่ยัยนั่นหาเรื่องอะไรเหรอ”
[---]อรวีจัดแจงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นาน เธอกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวถึงความร้ายกาจของไอรดาที่หวังว่าจะเข้ามานั่งแท่นเป็นภรรยาของคุณมนตรี และบ่นยาวเป็นกระพรวนถึงความระแคะระคายกับความไม่พอใจของเธอกับไอรดาอยู่นาน
[---]“จ๊ะๆ แม่คุณหยุดก่อน ตัวเองเล่นพูดซะโจทก์กลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว” กมลชนกขัดขึ้นกลางคัน
[---]“นี่ไม่เชื่อเหรอว่ายัยนั่น ไม่ได้ดูดีเหมือนภาพที่เห็นนะ”
[---]“ก็พอจะเดาออกนะ เดี๋ยวเค้าลองไปทักทายหน่อยเป็นไง”
[---]“ไม่ดีมั๊ง” อรวียังลังเล เธอไม่อยากให้เพื่อนพูดดีกับยัยตัวแสบนั่น
[---]“ดีสิ จะสืบเสาะใครมันก็ต้อง รู้เบื้องต้นบ้างสิ เดี๋ยวเค้าเข้าไปทักแล้วรวดกลับเลยนะ”
[---]“เอ้ยอะไรกัน จะไปแล้วเหรอ นี่มาไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ”
[---]“ก็บอกแล้วไง เค้าอยู่ได้ไม่นาน”
[---]“งืม ก็ได้ แต่ว่าถ้าจะไปทักยัยนั่น เค้าไม่ไปด้วยหรอกนะ กลัวจะไปบีบคอใครกลางงานน่ะสิ”
[---]“โอเคจ๊ะ ไปละจุ๊บๆ” กมลชนกทิ้งท้ายด้วยการหอมแก้มเพื่อนสาวเป็นการบอกลา โดยไม่แคร์สายตาบางคู่ที่มองมายังพวกเธอ แล้วกลืนน้ำลายลงคอกันเป็นแถว
........................
[---]“สวัสดีค่ะ คุณไอรดาใช่มั๊ยเอ่ย เรากมลชนก เพื่อนคุณอรวี” กมลชนกเอ่ยทักทาย หยุดประโยคที่ไอรดากำลังสนทนาอยู่กับพนักงานสองสามคน ที่ตอนนี้รู้ว่าควรจะหลีกทางให้เพื่อนเจ้านายได้พูดก่อน
[---]“อ่า สวัสดีค่ะ” ไอรดาตอบ ด้วยสงสัยว่าอรวีจะมาไม้ไหนถึงส่งเพื่อนมาคุยกับเธอ
[---]“โห คุณไอรดาตัวจริงนี่สวยกว่าคำร่ำลืออีก” กมลชนกเปลี่ยนจากทักทายมาเป็นชวนคุย ซึ่งเธอเองทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ
[---]“ก็ไม่หรอกค่ะ เมคอัพช่วยไว้เยอะเลย”
[---]“แหมอย่าถ่อมตัวไปเลย ว่าแต่มาทำงานกับอรได้นี่ถือว่ามีความอดทนมากเลยนะ”
[---]“ไม่ขนาดนั้นมั๊งคะ คุณอรวีเธอจริงจังกับงานก็เท่านั้นเอง” เธอพยามหาประโยคที่น่าจะฟังแล้วรื่นหูเพราะความสนิทสนมที่ถูกยื่นมานั้น อาจเหมือนลูกอมเคลือบยาพิษ
[---]“หืม ก็จริงอยู่อรเค้าอาจบ้างานไปหน่อย เค้าไม่ใช่คนร้ายกาจอะไรหรอกคุณไอรดา อย่าไปถือสาเลย” กมลชนกลอบมองเลขาคนใหม่ของเพื่อน หล่อนดูอึดอัดที่ต้องทำงานกับเพื่อนเธอ บางทีอาจไม่พอใจอยู่ลึกๆ ก็พอเข้าใจนะว่าอรวีเวลาไม่ชอบก็จะไม่ชอบจนสุดขั้ว แล้วแม่เลขาคนใหม่นี้ คงเจอฤทธิ์เดช ไม่ก็สายตา ไม่ก็พฤติกรรมอันหลากหลายของเพื่อนรักของเธอเข้าไปจังๆ แล้วแน่เลย
[---]“....” แทนคำตอบไอรดายิ้มรับ
[---]“นี่ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ใช่อรนะ” กมลชนกแซว นั่นทำให้ไอรดาหลุดหัวเราะมาได้หน่อย
[---]“อืมต้องงี้สิ ยังไงก็ดีใจด้วยที่ได้ทำงานบริษัทเพื่อนฉันนะ นี่นามบัตรฉันมีอะไรติดต่อมาได้ ฉันขอตัวกลับก่อน แวะมาทักเจ้าของงานก่อนกลับน่ะ ไปละ” ไอรดางงกับความเป็นกันเองที่เพื่อนของอรวีมอบให้กับเธอ
[---]เธอรับนามบัตรมาด้วยอาการงงๆ อย่างที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าผู้หญิงน่ารักที่มีความเป็นกันเองคนนี้จะเพื่อนกับเจ้านายเธอจริงๆ เหรอ ถ้าไม่เห็นกับตาว่าตอนที่กมลชนกเดินเข้ามาทักทายอรวีอย่างสนิทสนม เธอคงไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสองคนนี้จะสนิทกันจริงๆ
........................
[---]จนเมื่อถึงเวลาที่กมลชนกบอกลา อรวีจึงเริ่มปรับโหมดการวางตัวกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ทำเอาบรรยากาศร่าเริงรอบข้างสะดุดลงเล็กน้อย ละครอีกบทเมื่ออาหารเริ่มพร่องโต๊ะไปเยอะแล้วก็คือการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันขั้นพื้นฐาน ความเป็นไปในบริษัท อาจมีขาดเหลือตรงส่วนไหนที่เธอไม่อาจเข้าถึง
[---]อรวีก็ไม่ได้นิ่งเฉยซะทีเดียวเธอเก็บเอารายละเอียดเล็กน้อยที่จำเป็นต้องนำมาพัฒนาในแผนก ส่วนไหนที่พนักงานเสนอมา เธอก็รับฟังไว้เพราะถ้าเป็นเวลาทำงานปกติแล้วใครกันเล่าจะกล้าแนะนำถึงส่วนที่ควรปรับปรุง เวลานี้จึงเหมาะสุดที่เธอจะทราบถึงความต้องการของพนักงานในแผนก
[---]อรวีมองดูเวลาจากเครื่องโทรศัพท์ ห้าทุ่มกว่าแล้ว งานเลี้ยงควรจะจบได้แล้ว เพราะวันรุ่งขึ้นยังเป็นวันทำงาน ถ้ากลับช้ากว่านี้เวลาพักผ่อนจะเหลือน้อยเอา เธอจึงเริ่มบอกกล่าวเป็นนัยสำคัญว่า ถึงเวลาแยกย้ายสลายตัวกันได้สักที ซึ่งพนักงานบางคนก็เริ่มทยอยกลับกันไปบ้าง บางคนก็ยังพยามจะยัดอาหารเข้าปากให้ได้มากที่สุด คงจะกินเผื่อเอาไว้อีกสักสิบมื้อกระมัง
........................
[---]“คุณไอคะ งานเลี้ยงจะเลิกแล้ว มีนยังไม่ได้ดื่มฉลองให้คุณเลย” มีนยื่นแก้วน้ำพันซ์ให้ไอรดาที่รับมาอย่างแปลกใจ
[---]“ค่ะคุณมีน แต่ดิฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์นะคะ” ไอรดารับมาแล้วยังคงถือในมือ
[---]“น้ำผลไม้รวมค่ะ ไม่มีแอลกอฮอล์มากหรอก แก้วสุดท้ายละเดี๋ยวมีนจะกลับพอดีเลย” มีนชนแก้วกับไอรดา
[---]“อืม ค่ะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกันนะคะ” ไอรดายกแก้วดื่มรวดเดียวหมดด้วยเห็นว่าปริมาณไม่มากเท่าใดนัก
[---]“แล้วเจอกันพรุ่งนี้ คุณไอ” ไอรดามองเลขาอีกคนอย่างสงสัยว่าทำไมหล่อนจึงดูมีความสุขนักที่ได้ชนแก้วกับเธอ
[---]เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที เหลือพนักงานอยู่สองสามคนที่คุยรั้งท้ายอยู่กับอรวี รวมถึงวิทยาด้วย ในตอนนี้ไอรดารู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยกับงานเลี้ยงและง่วงนอนอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เธอจึงบอกกับวิทยาขอตัวไปห้องน้ำสักครู่เพื่อล้างหน้าตาจากอาการง่วงประหลาดที่กำลังเกิดขึ้น
[---]“ไอขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ เดี๋ยวมาค่ะ” ไอรดาบอกกับคนที่เธอติดรถมาด้วย แล้วรีบร้อนเดินออกห้องจัดเลี้ยงไป
[---]“ครับผมรออยู่แถวเคาน์เตอร์โรงแรมนะครับ” วิทยานิ่ง
[---]อรวีถอนหายใจเมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว เธอจัดการค่าใช้จ่ายกับทางโรงแรมเสร็จสิ้น ไม่ลืมที่จะทิปให้กับเด็กเสิร์ฟทางโรงแรมบางคนที่เอาใจใส่กับการบริการ ช่างน่าเบื่อเสียจริงกับการเอางบบริษัทมาทิ้งไปกับผู้หญิงเพียงคนเดียวของพ่อเธอ
[---]“เดี๋ยวครับ คุณผู้หญิง มีแขกท่านหนึ่งลืมกระเป๋าทิ้งไว้ครับ” พนักงานโรงแรมผู้หวังดียื่นกระเป๋าให้กับเธอ
[---]“ขอบใจจ๊ะ” อรวีรับมาพิจารณาของใช้ในนั้นอยู่สักครู่ก็รู้ทันทีว่านี่กระเป๋าของยัยไอรดา เมื่อสักครู่เห็นรีบร้อนบอกกับวิทยาว่าจะไปห้องน้ำ ป่านนี้คงกลับไปกันแล้ว เธอเดินตรงไปที่ถังขยะ ยิ้มให้กับความคิดชั่วร้ายที่จะโยนกระเป๋าของบางคนทิ้ง
[---]แต่แล้วเสียงเรียกเข้าก็ทำเอาหยุดชะงักไปชั่วครู่ เธอลังเลเล็กน้อยหยิบมือถือไอรดาขึ้นมาเปิดดู miss call ‘แม่’ คนอะไรทิ้งของใช้เกลื่อนกลาด อรวีเปลี่ยนใจที่เธอจะโยนมันลงถังขยะแล้วรับสายที่สองที่เรียกเข้ามาอีกครั้ง
[---]“สวัสดีค่ะ”
[---]“ไอ งานเลี้ยงเลิกรึยังลูก” เสียงหนึ่งตอบกลับมา
[---]“นี่เพื่อนร่วมงานไอรดาค่ะ พอดีไอลืมกระเป๋าไว้ เดี๋ยวหนูเอาไปคืนให้พรุ่งนี้ค่ะ” อรวีพูดพลางจะเปิดประตูรถ แต่ก็ต้องแปลกใจที่รถของวิทยายังจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ลานจอดรถของโรงแรม
[---]“ขอบคุณนะหนู แล้วไอกลับออกมารึยังคะ” ผู้เป็นแม่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
[---]“ไม่ทราบค่ะ แต่เดี๋ยวหนูเค้าไปดูในงานให้ อาจจะเข้าห้องน้ำอยู่” อรวีปิดประตูรถเดินกลับเข้าไปยังโรงแรมอีกครั้ง
........................