ดอกเบี้ย ตอนที่2



[---]สี่วันผ่านไปไวเหมือนหอยทากปวดขา ไอรดาเรียนรู้งานใหม่ได้ค่อนข้างเร็ว เธอมีความพยายามมาก เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งใหม่ที่เธอได้รับ



[---]ทั้งยังต้องทนกับสภาพแวดล้อมที่ตอแหล ต่อหน้าแสนดี ลับหลังนินทาระยะเผาขน ถ้าเธอโดนเผาไปจริงๆ คาดว่าขี้เถ้าคงไม่เหลือ



[---]“คุณไอรดาทราบใช่ไหม วันนี้แผนกจะจัดงานต้อนรับให้กับคุณ คงไม่มีธุระที่ไหนนะ”



[---]เจ้านายกล่าวราบเรียบเมื่อเธอวางแฟ้มลงข้างโต๊ะ ยังคงทำเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศทุกครั้งที่พบเจอ



[---]“ขอบคุณค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าไม่จำเป็น เกรงว่าจะรบกวนกันเปล่าๆ”



[---]ไอรดาไม่อยากนำตัวเองเข้าไปสู่สภาพที่เธอต้องเป็นตัวมาสคอตที่ผู้คนรุมให้ความสนใจ เพราะทุกวันนี้ก็ไม่ต่างจากนั้นเท่าไหร่นัก จะมายุ่งอะไรกับเธอมากมายกัน เรื่องของคนอื่นมันน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าไม่ได้คุยไม่ได้เมาส์กันสักวันนี่จะตายไหมนะคนที่นี่



[---]“ฉันก็ไม่อยากจะจัดให้เสียเวลาหรอกนะ แต่นี่เป็นธรรมเนียมของแผนก เธอเข้ามาแล้วก็หลิ่วตาตามด้วย อย่าอภิสิทธิ์ให้มันมากนัก คนอื่นเค้าจะรำคาญ”



[---]“แต่ดิฉันคิดว่า....”



[---]ไม่ทันที่เธอจะพูดได้จบประโยค เสียงเคาะประตูพร้อมกับบานประตูที่เปิดออกอย่างไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต ทำเอาอรวีหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย



[---]“คุณพ่อคะ นี่มันห้องอรนะคะ”



[---]“อะไรอรนี่พ่อนะ ไม่ต้องทางการมากก็ได้” คุณมนตรีเดินตรงไปยืนแนบกับเลขาคนที่สอง ไม่ใส่ใจกับคำพูดของลูกสาว



[---]“แล้วลงมาถึงที่นี่ คงไม่ได้มาทักทายอรหรอกใช่ไหม”



[---]“ก็ตั้งใจมาหาลูกนั่นแหละ เห็นว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับไอ พ่อไปด้วยคนสิ”



[---]“ดิฉัน กำลังขอให้ยุติงานอยู่พอดี เกรงว่าจะรบกวนค่ะท่าน” ไอรดาพูดขึ้นก่อนที่จะมีการเปลี่ยนประเด็นในเรื่องนี้



[---]“อ่าวเหรอ ไอไม่อยากจัดงานก็ไม่เป็นไร ลูกก็ไปยกเลิกกับคนในแผนกด้วย” ประธานกำชับกับลูกสาว



[---]“ไม่ได้ แผนกของอร อรจัดการเอง คุณพ่อกรุณาอย่ายุ่ง แล้วนี่ทุกคนเค้าก็เรียกร้องมา คุณอย่าเรื่องมากไปหน่อยเลย”



[---]“พ่อเห็นว่าไอเค้าไม่อยาก....”



[---]“หยุดได้แล้ว! คนในแผนกเค้าหาวันว่างกันมาแล้ว ไปถามสถานที่และเวลากับคุณมีนด้วยนะคุณไอรดา หวังว่าคุณคงไม่ทำตัวให้มันวุ่นวาย แล้วพ่อไม่ได้อยู่ในรายชื่อคนที่ได้รับเชิญ ทำตัวให้สมเป็นประธานหน่อย นี่เวลาทำงาน เชิญออกไปได้แล้วทั้งสองคน” สายตาดุจเหยี่ยวกวาดเอาทุกสิ่งให้มลายได้แค่เพียงได้จ้องตา



[---]ท่านประธานทราบดีว่าเวลาเช่นนี้ ควรออกห่างลูกคนนี้ เพราะสิ่งใดก็ตามที่ขาดความมีเหตุผลอย่างรอบคอบแล้ว จะต้องแพ้ให้กับคำพูดที่อรวีได้กล่าวออกมาเป็นแน่



[---]และเหตุผลอันใดก็ไม่รู้ทำให้ไอรดาคิดอยากลองดี ด้วยคิดว่าตนอาจได้ถือไพ่เหนือกว่าเจ้านายสักครั้งบ้าง อย่างน้อยเธอก็อยู่ในฐานะกิ๊กคนสำคัญของพ่อหล่อน ไม่ลองก็ไม่รู้ ผู้หญิงคนนี้หาเรื่องเธอตั้งแต่เข้ามา แล้วตอนนี้คุณท่านก็อยู่ข้างๆ ด้วยสิ



[---]“คุณท่านคะ ไอไม่อยากไปจริงๆ นี่คะ” ไอรดางัดไม้เด็ด เธอใช้น้ำเสียงออดอ้อนหวานหยด เกี่ยวแขนท่านประธานเอาไว้ เพิ่มหน้าตาแฝงเล่มเกวียนอย่างน่ารักสุดๆ ที่ไม่ว่าจะทำครั้งไหนๆ คุณมนตรีก็แพ้ให้ทุกครั้งไป



[---]“เอาน่าอร ก็แค่แจ้งยกเลิกไป ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่” คุณมนตรีเห็นว่าน่าจะลองอีกสักครั้งที่จะเปลี่ยนความคิดลูกสาว



[---]“ท่านประธาน และคุณไอรดา ที่นี่ไม่ใช่ม่านรูด กรุณาไปอ้อนกันที่อื่น ดิฉันยืนยันคำเดิม และอย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกครั้ง กรุณาออกไปได้แล้ว” น้ำเสียงเด็ดขาดที่บาดลึกกว่าเดิม ทำให้ประธานหน้าถอดสี เดินควงแขนเลขาสาวสวยออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้



........................



[---]พ้นประตูออกมาได้ไม่นาน ไอรดาถอนตัวออกจากการเกาะเกี่ยวประธานบริษัท เธอไม่ค่อยจะพอใจนักกับคำพูดของเจ้านาย หล่อนวางท่าซะจริงเชียว



[---]“ไอครับ ไม่ไปก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมให้คุณเป็นเลขาผมแทน” คุณมนตรีเสนอทางออกให้กับไอรดาอย่างเข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด เขาอยากใกล้ชิดผู้หญิงคนนี้ให้มากกว่าเดิม แรกเริ่มเดิมทีก็ว่าจะเอาเข้ามาเป็นเลขาตัวเองอยู่แล้ว ถ้าไม่กลัวคำร่ำลือหนาหูในบริษัท และคำเตือนของอรวี สุดท้ายก็ต้องฝากไอรดามาทำงานในส่วนของลูกสาวแทน



[---]“อะ...เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะท่าน เดี๋ยวไอจะโดนว่าเอาได้ว่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อีก ท่านกลับไปทำงานเถิดค่ะ” ใครจะยอมให้คนนินทาต่อไปได้อีกว่ามาทำงานไม่กี่วันก็ย้าย แถมยังย้ายไปที่ที่เสี่ยงต่อการหลบหลีกของเธออีกต่างหาก ฝันไปเหอะคุณท่านคะ



[---]“ผมคิดถึงไอ เลยแวะลงมาหา”



[---]“ไอก็คิดถึงท่านเหมือนกัน แต่ถ้าเห็นบ่อยๆ แล้วความคิดถึงจะหมดเร็วเอานะ”



[---]“ก็ได้ครับ เดี๋ยวพักเที่ยงผม ลงมารับไปทานข้าว”



[---]“ค่ะท่าน ไอจะรอนะคะ” เธอไม่ลืมที่จะยิ้มหวานๆ กระชากใจชายผู้นี้ ก่อนจะทิ้งตัวเก้าอี้ทำงานด้วยความขุ่นเคืองที่หาสาเหตุไม่ได้



........................



[---]ณ โต๊ะทำงานตัวใหญ่ อรวีไม่มีสมาธิเพียงพอที่จะจดจ่ออยู่กับงานที่กองอยู่ตรงหน้า พ่อเธอดูเหมือนจะหลงไปกับผู้หญิงคนนั้นเอามากๆ ถึงขนาดฝากเข้ามาทำงาน น้อยคนนักจะได้เข้ามา นี่ก็เป็นรายที่สอง ส่วนรายแรกน่ะเหรอ หลังจากโกงเงินบริษัทไปได้เกือบสิบล้านก็หายเงียบเข้ากลีบเมฆ



[---]แม้ตัวเธอจะยอมรับได้ว่าไอรดาเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว และอาจสามารถทำงานในตำแหน่งนี้ได้อย่างไม่มีข้อกังขา แต่การที่ท่านประธานของบริษัทจะมาทำตัวให้เสียชื่อเสี่ยงที่แทบจะไม่มีให้เสียอยู่แล้ว มันจะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทของครอบครัวเป็นแน่ เธอไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น



[---]พ่อเธอควบคุมกิจการให้รุ่งเรืองหลังจากที่แม่เสียไปมันก็เป็นข้อดี ถ้านิสัยเจ้าชู้เป็นว่าเล่นจะหายไปซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย และหากผู้หญิงคนนั้นสามารถอ้อนพ่อเธอได้ถึงเพียงนั้น คงต้องหวังประโยชน์จากคุณมนตรีไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องหาคำตอบให้ได้ในเร็ววัน ก่อนที่อะไรมันจะสายไป



........................



[---]“ไง รับโทรศัพท์ช้าจังนะตัวเธอ ทำอะไรอยู่คะ” อรวีต่อสายโทรศัพท์ถึงเพื่อนรักทันที



[---]“เค้ารับงานจากลูกค้าพึ่งเสร็จเนี่ย นานเป็นเดือนกว่าจะโทรมานะ ตัวเองมีไรว่ามาอย่าอ้อม” กมลชนกรู้ทันเพื่อนสาว



[---]“ก็อยากให้สืบเรื่องของบางคนให้หน่อยน่ะ”



[---]“นั่นแน่ะ เอาอีกละ กิ๊กของพ่อเธอคนไหนที่หวังจะยักยอกเงินบริษัทอีกล่ะ”



[---]“แหมรู้ทันจริงนะ คราวนี้ร้ายกว่าเดิมอีก ตัวเองคิดดูสิ ถึงขนาดฝากมาเป็นเลขาของเค้าเลยนะ” อรวีบ่นต่อยาวเหยียด ถึงความระแคะระคายที่มี เธอไม่ลืมเล่าท่าทางที่ผู้ถูกกล่าวถึงใช้หนึ่งในเล่มเกวียนเพื่อออดอ้อนพ่อเธอ



[---]“โอยๆ ร้ายกาจนะ ไม่แน่นะคนนี้อาจจะตัวจริงก็ได้” กมลชนกออกความเห็น



[---]“ไม่นะ อย่าพูดอย่างนั้นสิ ใครจะยอมรับคนอายุเท่ากันมาเป็นแม่เลี้ยงได้ล่ะ” อรวีหน้ามุ่ยเมื่อนึกไปไกลอย่างที่เพื่อนบอก



[---]“เอาน่า เดี๋ยวเค้าให้คนสืบให้ ตัวเองอย่าไปคิดมากละกัน”



[---]“แล้วอย่าลืมมาเก็บค่าจ้างด้วยนะ ครั้งแล้วก็ไม่เอา รู้สึกติดค้างอ่ะ” เธอรู้สึกติดค้างเพื่อนคนนี้ แต่เธอก็ไม่ไว้ใจในบริษัทนักสืบที่ไหน นอกจากบริษัทของเพื่อนรัก ที่ไม่ว่าจะว่าจ้างกี่ครั้งก็ปฏิเสธค่าตอบแทนทุกครั้งไป



[---]“อะไรกันคนกันเอง เค้าไม่คิดหรอก ขอตอบแทนเป็นเวลาว่างมาเที่ยวกับเค้าบ้างไรบ้าง เพื่อนเหงาเค้าใจป่ะ หายไปนานงอนนะ” ก็จริงดังเพื่อนว่า เธอไม่ค่อยมีเวลานักหรอกตั้งแต่ได้นั่งแท่นเป็นหัวหน้าแผนก หน้าที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้นจนต้องมีคนมาช่วย ดีที่มีเลขามีน แบ่งเบาไปได้เยอะ



[---]“งืมๆ เดี๋ยวว่างเมื่อไหร่จะโทรไปบอก เย็นนี้เค้าต้องไปเลี้ยงต้อนรับยัยไอนั่นอีก ไม่อยากไปหรอกแต่คนในแผนกเรียกร้อง เฮ้ออออออออ”



[---]“จะเซ็ง จะsad อะไรขนาดนั้นคะ ก็ไปซะสิ แต่งให้สวยกว่ายัยไอเลยนะตัวเอง อย่ายอมให้มันข่มได้รู้เปล่า” กมลชนกเสนอความเห็น



[---]“ตัวเองมากับเค้ามั๊ยล่ะ ขี้เกียจอยู่นาน จะได้หาข้ออ้างกลับเร็วๆ” อรวีคิดขึ้นมาได้ ถ้าหากเธอพาเพื่อนไปด้วยก็จะได้มีข้ออ้างปลีกตัว



[---]“ไม่เอาๆ โตแล้ว เป็นหัวหน้าไม่ใช่เหรอ ตัวเองต้องอยู่ถึงงานเลิกนี่อร แล้วก็สังเกตดูยัยไออะไรนั่นด้วย มีอะไรเอามาบอกเผื่อเราจะได้จับผิดเจ้าหล่อนได้เร็วขึ้นไง”



[---]“ง่าาา ก็ได้ จะจับผิดมันทุกโอกาสเลย” อรวีบ่นกับเพื่อนคนสนิทอีกยาวยืดถึงเรื่องราวต่างมากมายที่เธอกังวล ไม่ว่าจะเป็นแผนจับผิด หรือกล่าวหาถึงนางฟ้าหน้าห้องที่ตอนนี้จามไปแล้วหลายรอบ



........................



[---]“ฮัดชิ้วว” ไอรดาจามเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เหมือนมีอะไรมากระตุ้นต่อมจาม ฟุดฟิดๆ อย่างไรบอกไม่ถูก



[---]“คุณไอ มีนว่าท่าทางจะแพ้อากาศนะคะ ทานยาแก้แพ้หน่อยมั๊ย” เลขาอีกคนพูดขึ้น



[---]“ไม่เป็นไรค่ะ ปกติไม่ค่อยเป็นอะไร เดี๋ยวคงหาย ว่าแต่งานคืนนี้จัดที่ไหนเหรอคะ”



[---]“ที่ร้าน.... สองทุ่มครึ่งค่ะ คุณไอมีใครไปรับรึยังคะ” มีนถามขึ้นเพราะเธอเห็นว่าไอรดาไม่มีรถ และงานนี้ท่านประธานก็ไม่ได้ไปด้วย คงไม่ได้สั่งให้รถมารับส่งเธออย่างทุกครั้ง



[---]“มีแล้วค่ะ พอดีว่าคุณวิทยาผ่านมาแถวคอนโดไอ เลยขอติดรถไปด้วย” ไอรดาบอกกับเลขาอีกคน อย่างน้อยเพื่อนร่วมทางที่เดินทางไปกับเธออย่างวิทยาก็ไม่ได้มีนิสัยขี้นินทาอย่างกับพนักงานคนอื่นในแผนก



[---]“แล้วคุณมีนล่ะคะ” ไอรดาถามกลับ



[---]“มีนไปกับพี่ในแผนก แล้วเจอกันนะคะ วันนี้มีนกลับก่อนนะ ต้องไปเตรียมชุดอีก เดี๋ยวไม่สวยเท่าคุณไอ” เลขาสาว จัดแจงเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้าที่



[---]“ค่ะ คุณมีนก็น่ารักอยู่แล้ว แล้วนี่อีกห้านาทีก็เลิกงานแล้ว ไม่ถือว่าออกเร็วหรอกมั๊งคะ” ไอรดาชี้แจง



[---]“แหมคุณไอก็รู้นี่นา ว่ามีนทำโอทีประจำ เหนื่อยเหมือนกันนะ ยืนด้วยลำแข้งตัวเองเนี่ย อ่ะ...ไม่บ่นละ ไปก่อนนะคะ สองทุ่มครึ่งเจอกันค่ะ”



[---]ไอรดายิ้มแล้วโบกมือลาเป็นพิธีเล็กน้อย เธอจัดแจงเก็บของบ้าง เพราะใกล้เวลาออกงานของเธอได้แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำโอทีต่อเหมือนคนอื่นๆ เนื่องจากคุณมนตรีมักจะพาเธอไปกินข้าวเย็นอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ไอรดาคิ้วขมวดอยู่ตอนนี้



[---]จริงอยู่ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเธอไม่ได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ก็แล้วทำไมล่ะ ไอรดาถอนหายใจอย่างเซ็งในอารมณ์ เพื่อนร่วมงานคนนี้ที่คิดว่าจะวางใจได้แล้ว ยัยมีนนี่ก็แรงใช่เล่นน่ะสิ ใช่ว่าเธอไม่รู้หรอกว่าหล่อนจะเอาเธอไปว่าให้เสียหายอย่างไรลับหลัง แล้วยังมาตีหน้าซื่อพูดจาประจบประแจงเธออีก แทบเอาไอรดาปั้นหน้าไม่ทันในเวลาที่เจ้าหล่อนกระแนะกระแหนมาแต่ละที





........................