ดอกเบี้ย ตอนที่1



[---]....เฮ้อ....ไอรดาถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอเองก็จำไม่ได้ เข้ามาที่นี่ได้ก็เป็นโอกาสอันดี แต่ทำไมกลับไม่รู้สึกดีสักนิด คล้ายกับพาตัวเองเข้ามาติดบ่วงอย่างไรก็ไม่รู้ สองขานี้เหมือนถูกโซ่ล่องหนล่ามเอาไว้ทางอ้อม ยากจะหาทางหนีออกไปได้ง่ายๆ



[---]เธอเลือกที่จะเดินทอดน่องให้นานขึ้นเพื่อให้ถึงที่หมายช้ากว่าเดิม แม้ว่าจะใกล้ถึงเวลานัดพบแล้วก็ตามที หากแต่ถ้าช้าลงอีกสักนิด โลกอาจจะระเบิดขึ้นมา แล้วทำให้ความอึดอัดที่มีนั้นหายไป ไอรดาขึ้นบันไดไปยังจุดหมาย แทนที่จะกดลิฟต์ ไม่สนใจรองเท้าส้นสูงที่บีบรัดเท้าทุกย่างก้าว มันไม่ส่งผลต่อจิตใจที่ว้าวุ่นของเธอเท่าใดนักหรอก ทอดสายตาไปยังสวนต้นไม้ปลอมประดับไว้ตามทางเดิน พื้นหินอ่อนมันวับ



[---]ผู้คนที่ยืนอยู่จำนวนหนึ่งมองมายังเธอ บ้างจ้องมองตาไม่กะพริบ แสดงถึงความไร้มารยาทอย่างไม่ปิดบัง กระซิบกระซาบกันถึงเรื่องบางอย่าง เธอไม่สนใจหรอกว่าคนพวกนั้นจะกล่าวอ้างอิงถึงเธอยังไง เธอไม่คิดจะแก้ตัว เพราะที่เค้าพูดๆ กันมันก็ไม่ต่างจากเรื่องจริงที่เธอเป็น หรือความจริงที่บังคับให้เธอเป็น



……..……..……..



[---]ก๊อก ๆ ....



[---]เลขาหน้าห้องเคาะเรียกใครบางคนที่เธอเองก็ยังไม่รู้จัก หล่อนจะต้อนรับเธอในรูปแบบไหนกัน ภาวนาขอให้มันไม่ทำร้ายความรู้สึกหดหู่ของมากไปกว่านี้ก็พอ



[---]ประตูบานนี้คือที่ๆ เธอจะต้องเข้าไปรายงานตัวเป็นวันแรกที่เข้ามาทำงานที่นี่ และในอนาคตข้างหน้าไม่กี่อึดใจนี้มันกำลังจะเปิดกว้างต้อนรับด้วยสองมือของเธอที่ผลักออก



……..……..……..



[---]“ให้เข้ามา” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจนัก



[---]“สวัสดีค่ะ” ไอรดายกมือพนมไหว้คนที่นั่งวางท่าอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่



[---]ดูจากหน้าตาแล้วอายุไม่ได้ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก บางทีอาจน้อยกว่าเธอด้วยซ้ำ ถ้าเจ้าตัวไม่ตั้งท่าเป็นงานเป็นการตลอดเวลา แต่เอาเถิด เข้ามาที่นี่แล้วก็ต้องเคารพเจ้าของสถานที่ด้วยกริยาการไหว้งามหยดย้อยกันสักหน่อย



[---]“นั่งสิ” เจ้าของโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ไม่ได้หันมามองเธอ คล้ายกับเป็นชั้นบรรยากาศที่ถูกมองข้าม



[---]ห้องทำงานนี้กว้างขวางพอสมควร แต่กลับรู้สึกคับแคบ และอึดอัดแม้จะอยู่กับคนตรงหน้าแค่สองคน ไอรดานั่งอยู่ตรงเก้าอี้สีเข้มไม่ห่างจากโต๊ะทำงานที่เยื้องอยู่ตรงหน้า รอบสังเกตดูกิริยาคนที่สั่งเธอด้วยน้ำเสียงแบบไม่ใส่ใจ หล่อนดูไม่สนใจกับการมีตัวตนของเธอเท่าไหร่ ซึ่งมันก็ควรเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว หากเป็นเธอก็คงทำไม่ต่างกัน



[---]มือขาวเรียวนั้นเคาะแป้นพิมพ์ไม่หยุดตั้งแต่เธอเข้ามา ดวงตานั้นจะดูน่ารักเลยทีเดียวถ้าไม่พบกันในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ได้มองมาที่เธอ แต่ยังคงกลอกไปมาระหว่างเอกสารข้างตัวเจ้าของกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า



[---]“จะมองฉันอีกนานมั๊ย แล้วนี่เธอเป็นใครทำไมไม่เตรียมแฟ้มรายงานตัวมา”



[---]น้ำเสียงนั้นทำเอาไอรดาสะดุ้งจากการลอบวิเคราะห์เจ้าหล่อนอยู่นาน จนลืมไปว่าสิ่งที่เธอควรจะเตรียมมาวางเอาไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง ดันตื่นสถานที่จนลืมสิ่งที่หล่อนถามหาไปเสียได้



[---]“คุณท่านสั่งมาว่าให้มาพบคุณอรวี และได้จัดส่งเอกสารของดิฉันมาให้ล่วงหน้าแล้วค่ะ” เธอตอบไปตามที่ได้รับคำสั่งมา เพราะสิ่งที่อรวีถามหานั้นได้ส่งมาถึงเมื่อสองสามวันก่อนแล้ว แม้ว่าไอรดาจะเตรียมมาอีก แต่ถ้าหากให้บอกว่าลืมอยู่ข้างล่างเพราะอาการเหม่อลอยของเธอเองคงจะฟังไม่ขึ้น



[---]“เหรอคะ พ่อฉันสั่งมาเหรอ แปลกนะเรื่องง่ายที่ควรทำกลับไม่ทำ แล้วยังงี้จะทำงานได้จริงเหรอ” น้ำเสียงราบเรียบที่ฟังดูคล้ายประโยคสนทนาธรรมดาของอรวี ทำเอาไอรดาหน้าถอดสี ไหนยังจะหางตาที่ปลายจิกมายังเธอจนไม่กล้าสบตานั้นช่างน่ากลัวจริงๆ เธอต้องทำงานกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอเนี่ย



[---]“ต้องขอโทษด้วยที่ดิฉันไม้ได้เตรียมมา หากคุณอรวีต้องการเดี๋ยวดิฉันจะไปเอามาให้ตอนนี้เลยค่ะ”



[---]“ไม่ต้อง มันไม่ได้สำคัญที่ฉันจะต้องมานั่งอ่านประวัติเธอซ้ำอีก โต๊ะทำงานเธออยู่ถัดจากเลขาฉันข้างนอกห้อง ถ้ามีงานอะไรฉันจะบอก ถ้าไม่มีก็ช่วยคุณมีนไปละกัน ออกไปได้ละ” อรวีพูดพร้อมกับหันไปสนใจกับงานที่กองอยู่ตรงหน้าต่อ



[---]“ค่ะ คุณอรวี” ไอรดาโค้งเล็กน้อย สายตาจ้องไปยังประตูห้องอย่างโล่งใจที่ประโยคสนทนาได้จบลง



[---]“เดี๋ยวก่อน” เจ้านายคนใหม่ขัดจังหวะการก้าวเท้าออกไปจากห้องแสนอึดอัดนี้



[---]“...ถึงพ่อจะให้เธอมาเป็นเลขาของฉัน แต่ตำแหน่งนี้มีคนของฉันอยู่แล้ว เธอเป็นผู้ช่วยมีนเค้า หวังว่าคงเข้าใจนะ”



[---]“ค่ะ ดิฉันเข้าใจค่ะ” ไอรดารับปาก แล้วรีบเดินออกห้องก่อนที่จะมีการพูดคุยระหว่างเธอกับเจ้านายเพิ่มไปมากกว่านี้ เพราะความอึดอัดนี้จะทำเอาเธอจุกอกตายเอาซะก่อน



……..……..……..



[---]ไอรดาทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะประจำตำแหน่งอย่างไม่เต็มใจนัก เธอย้ายงานจากที่เก่ามาบริษัทแห่งนี้ตามคำสั่งคุณมนตรี พ่อของเจ้านายคนใหม่อย่างขัดไม่ได้ ไอรดาพยามขอร้องให้ตัวเองได้ทำงานในตำแหน่งใดก็ได้ที่ไม่สำคัญนัก เพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นจุดเด่น หรือโดนเพ่งเล็งด้วยคำติฉินนินทาจากคนในบริษัท



[---]‘ท่านคะ ดิฉันเป็นพนักงานธรรมดาก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรบกวนท่านหรอกค่ะ’ เธอทำเสียงอ้อนอย่างประจบ



[---]‘จะได้ยังไงล่ะไอ ผมไม่ไว้ใจให้เธอไปอยู่ในตำแหน่งอื่นๆ หรอก’ มนตรีพูดพลางยื่นมือลูบขาคนนั่งข้าง ทำเอาเธอสะดุ้งเบี่ยงตัวหลบอย่างไม่ให้เสียมารยาท



[---]‘ท่านอ่ะ ที่นี่ก็ร้านอาหารนะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี’ เธอมองค้อนให้คนมือไม่อยู่สุข



[---]‘ก็ไอของผมน่ารักที่สุด จะให้รอนานๆ หัวใจคนแก่จะเฉาเอานะครับ’ คุณมนตรีจ้องคนใกล้ตัวอย่างไม่กะพริบตา คิดไม่ผิดเลยที่ได้ตัวหล่อนมาไว้ใกล้ๆ



[---]ความน่ารักของผู้หญิงคนนี้ล่ะ ทำให้เขาที่เจ้าชู้มาตลอดหลงหัวปักหัวปำ แต่เขาก็ยังคงมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะหักห้ามใจไว้ ไม่บังคับจิตใจใคร เพราะรู้ดีว่าเหยื่อติดกับแล้วคงไม่หลุดพ้นไปได้ง่ายๆ นัก เจ้าบุญทุ่มอย่างเขาซะอย่าง แม้ภูเขายังถูกน้ำเซาะจนพังได้ หัวใจน้อยๆ ดวงนี้จะแข็งไปกว่าภูเขาได้อย่างไรกัน



[---]งานที่ไอรดาอยู่ก่อนทำให้เธอได้มีโอกาสมาพบเข้ากับมนตรี เจ้าของบริษัทใหญ่ ที่เลื่องชื่อด้านความเจ้าชู้อย่างสุดโต่ง เจ้านายที่บริษัทเก่าของเธอถึงกับจับไต๋คุณมนตรีได้ถูกทาง



[---]เขาจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าคนสำคัญอยู่บ่อยๆ มีสาวสวยมากมายที่ยอมเข้ามาทำหน้าที่ต้อนรับแขกคนสำคัญ เพราะฉายาเจ้าบุญทุ่มของเขาที่ชอบบริจาคทุนทรัพย์ให้แก่เด็กน้อยน่ารัก หากแต่ผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้ทำงานให้กับบริษัท คนที่รับหน้าที่สานต่อเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับลูกค้ากิตติมศักดิ์ก็คือเธอนั่นเอง



[---]ด้วยความสวยจัดทั้งรูปร่างหน้าตาที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็คงจะคิดว่าตัวเองนั้นตาฝาดได้เห็นนางฟ้าตัวเป็นๆ ดังนั้น หน้าที่ต้อนรับนี้จึงตกเป็นของเธออย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เธอทำอยู่เลยก็ตาม



……..……..……..



[---]“คุณไอรดาคะ....”



[---]“....” เงียบ



[---]“คุณไอรดา” ความดังที่เพิ่มขึ้นของมีนเลขาหน้าห้องทำเอาไอรดาสะดุ้งจากภวังค์ความคิด



[---]“คะคุณมีน มีอะไรให้ไอช่วยคะ” เธอยิ้มตอบอย่างเขินๆ ที่เหม่อจนต้องให้เรียกซ้ำ



[---]“นี่เป็นแฟ้มเอกสารของงานแผนกเราค่ะ มีนเอามาให้คุณศึกษาลักษณะงานคร่าวๆ ค่ะ หลังจากนี้จะมีงานกองล้นเลยทีเดียว คุณอรวี ทุ่มเทให้กับงาน มีนดีใจนะคะที่มีคุณไอเข้ามาช่วย” เลขาสาวยิ้มให้กับผู้ร่วมงานคนใหม่ของเธอ



[---]“ค่ะ ไอจะพยามอย่างเต็มที่เลยค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เธอยิ้มกลับ และรับแฟ้มงานหนาปึกมาเปิดอ่าน ตารางอะไรก็ไม่รู้มากมาย บางสิ่งก็พอคุ้นตาอยู่หรอกนะ แต่อีกหลายสิ่งนี่สิ มันคืออะไรหว่า



[---]งานใหม่ที่เธอได้รับมอบหมาย ทำเอาเส้นประสาทเธอกระตุกได้พอตัวกับความไม่คุ้นเคยมาก่อน จากพนักงานธรรมดาไม่ได้สำคัญมากนัก ต้องมารับบทเป็นผู้ช่วยเลขาให้กับเจ้านายบ้างาน



[---]ไม่รู้เธอจะพาตัวเองไปได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เธอจึงพักการอ่านแฟ้มตรงหน้า มุ่งไปยังห้องพักของพนักงานเพื่อเติมกาแฟร้อนๆ ให้กับสมองเผื่อจะได้เรียกสมาธิและสติกลับมาบ้าง



……..……..……..



[---]“จริงเหรอที่ท่านประธานฝากเด็กมาทำงานที่แผนกเรา”



[---]“เค้าว่าคนนี้ตัวจริงด้วยนะ หลงจนหน้ามืด ไม่ยอมให้ไกลหูไกลตาเลยล่ะ”



[---]“จะสวยขนาดไหนกัน ถึงขนาดฝากให้เป็นเลขาลูกสาวเนี่ย”



[---]“อ่าว แล้วยายมีนของเราไม่หลุดจากตำแหน่งเลขาเหรอ ก็ยายนั่นย้ายเข้ามาละนี่”



[---]“ไม่หรอก เห็นว่าคุณอรวีไม่ยอม เพราะกลัวว่ายัยเมียเก็บของคุณท่านจะทำงานไม่ได้เรื่อง”



[---]“ได้เรื่องไม่ได้เรื่องไม่รู้ล่ะ แต่ก็คงทำจนได้เรื่องเข้ามานี่ล่ะ ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิ ใกล้พักเที่ยงแล้วพวกเราแวบไปดูกันเถอะ”



……..……..……..



[---]ไอรดาหลบอยู่มุมห้อง มือถือแก้วกาแฟอย่างอ่อนแรง ไม่รู้สึกอยากดื่มมันแล้วในตอนนี้ เธอรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาแล้วว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดลับหลังเธอคงไม่ต่างไปจากนี้แน่นอน แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ มันถึงกับสลดทีเดียว



[---]คนพวกนั้นตัดสินจากการกระทำของเธอไปแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักสนิทหรือคุ้นเคยกับเธอเลย ถ้ามีโอกาสเลือกได้ใครบ้างจะอยากตกที่นั่งลำบากอย่างเธอกัน



[---]“สวัสดีครับคุณไอรดา...เลขาอีกคนของคุณอรวีใช่มั๊ยครับ” เสียงทุ้มลึก หยุดความสลดเธอลงให้หันหน้ามองไปตาม



[---]“ค่ะ เอ่อคุณ...” ไอรดามองพนักงานหนุ่มตรงหน้า



[---]“ผมวิทยาครับ อยู่แผนกนี้ พอดีเห็นคุณ เลยเข้ามาทัก” วิทยายิ้มให้อย่างเป็นกันเอง



[---]“ค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ ถ้าไอไม่ทราบงานตรงจุดไหนคงต้องรบกวน”



[---]“ได้เสมอครับ ผมเห็นคุณยืนอยู่นานแล้ว คงได้ยินอะไรไปบ้าง ไม่ต้องคิดมากนะครับ คนที่นี่เค้าอาจจะปากแรงไปหน่อย แต่รับรองใจดีกันทุกคนครับ”



[---]พนักงานหนุ่มอึ้งอยู่นานก่อนจะเรียกเธอ เขารู้ว่าเธอต้องได้ยินที่สาวออฟฟิศพวกนั้นกำลังนินทา เพราะหน้าสลดที่เธอแสดงออกมาบ่งบอกไว้อย่างชัดเจน และสิ่งที่เขาหยุดอยู่อึ้งไปนั้นไม่ใช่อะไรนอกจากความงามของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า



[---]มิน่าล่ะ ท่านประธานจึงอยากเก็บช้างเผือกไว้ใกล้ตัว เพราะถ้าไกลตัวอีกสักหน่อย ช้างเชือกนี้คงหลุดมือเป็นแน่ น่าเสียดายแท้ๆ ถ้าเขามีทรัพย์สมบัติที่มากพอ เขาคงอยากซื้อเธอเอาไว้บ้างเหมือนกัน



[---]“อะ อืม ค่ะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างผูกมิตร อย่างน้อยก็มีคนที่น่าวางใจได้บ้างล่ะนะ นอกนั้นน่ะเหรอ อย่าได้เผลอวางใจเชียว โดยเฉพาะที่พึ่งนินทาเธอไม่เมื่อครู่ ดูท่าจะตัวแม่กันทั้งนั้น คิดแล้วสยอง



[---]จะพยามอยู่ในส่วนของเธอก็แล้วกัน มีงานทำร่วมกันก็ทำ ถ้าไม่มีแล้วก็จะอยู่ห่างๆ เอาไว้จะดีกว่า แต่ก็นะ ยัยพวกนั้นจะมาไม้ไหนก็ไม่มีใครทำอะไรเธอได้อยู่แล้ว เชิญอิจฉาริษยานินทากันต่อไป ตามสบายเถอะค่ะ



[---]แล้วที่มาว่าให้เธออย่างนู้นอย่างนี้ ไม่ดูตัวเองกันบ้างเลย น้ำหน้าอย่างพวกหล่อนจะเสริมจะแต่งเท่าไหร่ก็ไม่มีทางได้ใช้หน้าตาไต่เต้ามาถึงขึ้นนี้ได้อย่างเธอหรอก....เฮ้อ



[---]โต้ตอบไม่ได้ ก็ขอคิดอะไรที่ทำให้สะใจได้บ้างละกัน มันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกไอรดาเอ๋ย



……..……..……..



[---]อรวีรู้สึกไม่พอใจเมื่อเธอเปิดประตูออกมาพบบิดาที่ยืนถามไถ่ถึงเลขาอีกคนของเธอ และไม่วายที่จะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับมีนที่มีเพียงรอยยิ้มแห้งๆ ส่งกลับไป



[---]“นานๆ จะเห็นคุณพ่อ มาถึงห้องอร มีอะไรรึเปล่า” อรวีถามไปทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว



[---]“พ่อมารับไอไปทานข้าวน่ะ” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี



[---]“ค่ะ ลูกพ่ออยู่ตรงนี้ทั้งคน ไม่พาอรไปทานข้าวบ้างล่ะ” อรวีประชดทั้งด้วยสายตาและคำพูด



[---]“ไม่เหมือนกันอร พ่อก็เจอแกออกบ่อยไป ไอเค้ามาใหม่ เลยอยากมาถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง ลูกคงไม่ได้ใช้งานเค้าหนักตั้งแต่วันแรกเลยใช่มั๊ยอร”



[---]“งานมีงานก็ต้องทำสิคะ พ่อจะไปไหนก็แล้วแต่เถิดค่ะ แต่กรุณามาส่งให้ตรงเวลางานด้วย”



[---]ไม่ทันไรวันแรกก็มาสร้างความปั่นป่วนในที่ทำงานเสียแล้ว ทำไมพ่อไม่เก็บเอาหล่อนไปไว้ไกลๆ หน่อยนะ เล่นเอามาฝากไว้กับเธอ ก็เหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะให้เอาไปแผนกอื่นก็ใช่ที่ จะได้ไปวุ่นวายที่อื่นเอาได้อีก จำใจรับเอาไว้เพราะไม่อยากให้เกิดความรำคาญแก่แผนกอื่น และถ้าเข้ามาแล้วทำตัวไม่สมกับที่ได้เข้ามาตำแหน่งนี้แล้วล่ะก็ เธอคงต้องหาทางกำจัดออกไปซะ เฮ้อ...แล้วภาระนี้ตกมาเป็นของเธอได้ยังไงกัน



[---]“คุณท่านสวัสดีค่ะ” ไอรดาไหว้คุณมนตรี อย่างเสียมิได้ ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังแปรปรวน



[---]“มาพอดีเลยไอ ไปทานข้าวกัน” ประธานเดินไปคว้าเอวสาวสวยเดินออกไปก่อนที่ลูกสาวจะได้ทันต่อปากต่อคำกันยาวยืด



[---]“มีน ไปพักเถอะ แวะซื้อสลัดผลไม้มาให้ด้วยนะ ฉันจะทำงานต่อ” พูดจบก็กุมขมับเข้าห้องไป



[---]“ค่ะ คุณอรวี” เธอเข้าใจความรู้สึกเจ้านายเป็นอย่างดี ประธานบริษัทแห่งนี้สร้างความหงุดหงิดใจไม่น้อยให้กับลูกสาว หลายครั้งที่เธอรู้ว่า เจ้านายต้องคอยไกล่เกลี่ยเรื่องราวชู้สาวในบริษัทให้ และที่เธอบ้างานขนาดนี้ก็เพื่อแสดงให้คณะกรรมการของบริษัทเห็นว่าเธอเหมาะสมกับตำแหน่งประธาน และสามารถทำงานแทนคุณมนตรีได้ในที่สุด



……..……..……..