ดอกเบี้ย ตอนที่14



[---]ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับเมฆหมอกจะนัดหมายรวมตัวกัน รถบนท้องถนนติดหนาแน่น ความมืดปกคลุมทั่วสำนักงานอีกครั้ง แม้แต่เครื่องปั่นไฟก็ยังเสีย แต่ทุกอย่างตรงข้ามกับอารมณ์ของอรวียิ่งนัก



[---]เธอเดินราวกับเหยียบปุยเมฆนุ่มแสนสบาย ฮัมเพลงบนรถเหมือนกับบรรยากาศรถติดนานไม่ช่วยเพิ่มความหงุดหงิดแม้แต่น้อย หรือไฟฟ้าดับลงทำให้งานที่เธอต้องทำไม่เดินหน้า ก็ไม่ทำให้ความสุขในหัวใจเธอลดลงไปได้



[---]แก้วกาแฟยี่ห้อดังวางแปะลงที่โต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้อง พร้อมขนมขบเคี้ยวเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้านายไม่ลืมหยิบติดไม้ติดมือเอามาวางแปะให้ ซึ่งอาการคลับคล้ายคลับคลา เหมือนกับว่าจะโยนให้เสียมากกว่าในสายตาของไอรดา หล่อนเดินยิ้มแย้มจนน่ากลัว มันจะมีอะไรมากกว่าขนมกับกาแฟนั่นรึเปล่า กินเข้าไปแล้วจะมีชีวิตรอดไหมนี่



[---]‘เอามาฝาก’ เจ้านายรีบพูดพร้อมกับทำสีหน้าเฉยเมยดังเดิม สงสัยจะเห็นสายตาระแวงของเธอ



[---]‘ขอบคุณค่ะ’ ให้มันได้อย่างนี้สิ ดีใจก็ดีใจนะ แต่มีอะไรในความหวังดีรึเปล่า เดาไม่ออกจริงๆ



[---]ไหนจะเสียงเพลงเบาๆ กับใบหน้าเปื้อนยิ้ม ช่างน่าแปลกใจเสียจริง จะเป็นไปได้ไหมว่าหล่อนไม่ได้เกลียดเธออีกต่อไปแล้ว แต่จะด้วยสาเหตุอะไรเล่า มันไม่มีทางเลยเป็นไปได้



[---]‘แอ่กๆ’ ไอรดาสำลักกับกาแฟที่ดื่มเข้าไป ไม่มีความผิดปกติในแก้วนั้นหรอก เพียงแต่เธอเองนั่นแหละที่แอบหวังอะไรเกินความจริงไปเยอะ แล้วก็ต้องมานั่งคิดไม่ตกเสียเอง



........................



[---]“ตัวเอง เค้าเห็นพักนี้รื่นเริงดีจังนะ พี่พิชพาไปเที่ยวบ่อยล่ะสิ” กมลชนกถามเพื่อน



[---]“ไม่รู้สิ แต่คงงั้นมั๊ง” เธอยังอารมณ์ดีแบบผิดหูผิดตา



[---]“รักขนาดนี้แล้วไม่ยอมแต่งสักทีล่ะ”



[---]“ง่ะ กำลังมีความสุข มาขัดทำไม” อรวีสะดุดกับคำว่าแต่งงาน เธอยังไม่อยากแบ่งเวลาชีวิตให้กับใครในตอนนี้



[---]“อ้าว ก็เห็นแฮปปี้กันดี”



[---]“ก็ใช่” เธอคิดถึงคู่หมั้น จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่



[---]“เอ๊ะ หรือว่ามีหนุ่มอื่น เห็นท่าทางไม่สนใจคู่หมั้นเท่าไหร่” เพื่อนเธอคาดการณ์จากสีหน้าเก่งเหลือเกิน ความสุขตอนนี้มันไม่ได้มาจากคู่หมั้นเลยสักนิด หากแต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล



[---]“เปล๊า ใครจะกล้าทำอย่างนั้น ช้าเร็วฉันก็เลือกพี่พิชอยู่แล้วแหละ” บอกไปตามจริง



[---]“เค้ารู้หรอกน่า ไม่ต้องเสียงสูงก็ได้” แค่นี้ก็เดาได้แล้วว่าเพื่อนหล่อนซ่อนใครไว้แน่ๆ จะเป็นใครนั้นก็ไม่สำคัญ เธอไม่อยากคาดคั้นนักหรอก เพราะเพื่อนคงไม่ปล่อยให้เลยเถิดแล้วหักอกคู่หมั้นแสนรัก อาจเป็นหนุ่มนิสัยดีที่ไหนสักคนที่มาติดต่อกับทางบริษัท รอไปก่อนถ้าเจ้าตัวอยากเล่าเดี๋ยวคงพูดเอง



[---]“แล้ววันนี้มาทำไมอ่า” อรวีเคาะนิ้วกับโต๊ะตามจังหวะเสียงเพลงในมือถือ



[---]“ก็มาสืบตามที่ใครบางคนขอไว้ไง ลืมไปแล้วเหรอ”



[---]“ใช่ เกือบลืม...แต่เค้าจะบอกตัวเองว่าไม่ต้องสืบแล้วก็ได้ ยัยนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ เดี๋ยวพ่อเค้าเบื่อก็ปล่อยๆ ไปเองแหละ” เธอว่าพลางกดปิดเพลงในมือถือ เปิดเกมยิงนกขึ้นมาเล่นแทน



[---]“ได้ยังไง สืบไปแล้วก็ต้องรู้ให้หมดสิ เดี๋ยวเสียชื่อหมด แล้วอะไรหรือจ๊ะถึงคิดเปลี่ยนใจ” กมลชนกจ้องตาเพื่อน ที่ก้มหลบตาทำเป็นสนใจเกมในมือถือ



[---]“ตามใจ ทำไปเหอะ เค้าไม่สนใจอยากรู้เรื่องไร้สาระ” เธอจดจ่ออยู่กับเกม เร่งเสียงเครื่องเล่นให้ดังขึ้นอีก



[---]“นี่ เกมนั้นเค้าไม่เล่นแนวตั้งไม่ใช่เหรอ”



[---]“เอ่อใช่ ก็ว่าทำไมมันไม่ถนัด” อรวีพลิกมือถือให้อยู่ในแนวนอน แล้วเริ่มรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลออกตามไรผม ขืนอยู่ต่อหน้าเพื่อนซี้คนนี้นานไป อาจโดนจับสังเกตได้แน่ว่าสมองเธอคิดวกวนอยู่กับคนหน้าห้องทำงานมาตั้งแต่เมื่อเช้า



[---]“ไหนๆ วันนี้ไฟก็ดับ คงไม่มีอะไรทำ งั้นเค้าขอยืมตัวเลขาไปสักวันคงไม่ว่าอะไรนะ”



[---]“ไม่ได้” เธอพึ่งรู้ตัวว่าตอบเร็วเกินไปจึงพูดประโยคต่อมา “เผื่อเค้าจะใช้ยัยนั่นทำงานอะไรอีก”



[---]“จริงเหรอ เจ้านายนั่งเล่นเกมเนี่ยนะ นี่อุตส่าห์มาสืบให้ ยังจะมาขัดขวางอีก”



[---]“เออๆ ตามใจตัวเองแล้วกัน เค้าเล่นเกมก่อน” ถ้าเพื่อนอยู่นานเกรงว่าเรื่องที่เธอเงียบอยู่จะเปิดโปง



[---]“โอเค ไปละนะ” กมลชนกหรี่ตามองคนที่เล่นเกมเอาเป็นเอาตายไม่สนใจอะไรรอบข้าง



[---]“อืมๆ แล้วเจอกัน” พูดเหมือนไม่รู้สึกสนใจว่าใครจะไปไหนยังไง จะพาเลขาเธอไปไหนก็เชิญ เอาไปไกลๆ ความคิดเธอได้ยิ่งดี ชิ!



........................



[---]ไอรดาสะดุ้งเมื่อประตูเปิดโพล่งออกมาขณะที่เธอกำลังจัดเก็บเอกสารให้เป็นหมวดหมู่อย่างใจเย็น ช่างเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยกับประตูบานนี้ เหมารวมบางคนที่อยู่ในนั้นด้วยละกัน



[---]“ไอ วันนี้ฉันมาทวงสัญญา ป่ะไปกินข้าวกัน” หล่อนยิ้มแย้มน่ารักอย่างเชิญชวน



[---]“นี่ยังไม่ทันเที่ยงเลยนะคะ” เธอตอบด้วยความเกรงใจ



[---]“นกบอกอรเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ขอยืมตัวเลขาไอหน่อย ไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันหนังรอบถัดไป”



[---]“แต่ว่า....” เธอพยามจะพูดยังไม่จบก็ถูกลากให้เดินไปพร้อมกับคนร่าเริงที่หยิบกระเป๋าเธอมาให้พร้อม



[---]“ทำไมเหรอ” เธอดึงเลขามาถึงรถจนได้ แต่แล้วก็ต้องสังเกตว่าอีกคนกอดแขนข้างที่เธอดึงเอาไว้แน่น



[---]“เปล่าๆ แค่เมื่อยนิดหน่อย” ความเจ็บปวดไม่ได้หายไปหมดเสียทีเดียว ยังต้องใช้เวลาอีกนิด



[---]“อรใช่มั๊ย”



[---]“เอ่อ ไม่ใช่หรอก” เธอหลบสายตามองออกนอกหน้าต่างรถ



[---]“ทุกทีเลยอรน่ะ ทะเลาะกับใครเป็นต้องใช้กำลัง” กมลชนกส่ายหน้า เหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ



[---]“คุณเคยทะเลาะกับคุณอรเหรอ” เธอเบิกตาอย่างสงสัย



[---]เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางที่เจ้านายจะทำให้เจ็บแม้เพียงเส้นผม แล้วเธอก็ต้องเอะใจว่าคำพูดที่หลุดออกมานั้นทำให้คนขับยิ้ม เพราะเป็นการยอมรับทางอ้อมว่าแขนที่ปวดหนึบนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร



[---]“เอ่อ ไอก็แค่ถามน่ะค่ะ” เธอรีบแก้ตัว



[---]“ไม่ใช่หรอก อรมาช่วยนกมากกว่าตอนนั้นนกทะเลาะกับคนพาล อรเค้ามาช่วยเถียง แต่เถียงไม่ทันเลยลงมือแทน...”



[---]“...” มีงี้ด้วย อรวีเนี่ยนะเถียงไม่ทัน สงสัยคงแอบไปฝึกสกิลเถียงมาแล้วแน่เลย ตอนนี้อัพเกรดจนแทงใจดำคนอื่นได้ตรงเป๊ะ



[---]“แล้วไออยากกินอะไรเหรอ” ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะร่าเริงแล้วยังมีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนเรื่องอีก



[---]“ตามใจคุณนกเลยค่ะ” เธอไม่กล้าเสนอ



[---]“งั้นอาหารญี่ปุ่นเป็นไง ชอบเปล่าๆ”



[---]“ก็ได้ค่ะ” ไม่จริงเธอชอบกินอาหารญี่ปุ่น หรือคนๆ นี้จะมีสัมผัสที่หกเดาใจได้นะ



[---]ไม่ยากสักนิด แค่ให้คนตามดูพฤติกรรมของไอรดา มีหรือที่คนเก่งอย่างกมลชนกจะเดาทางไม่ออก เลขาของอรวีอ่านง่ายจะตาย แต่ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมเพื่อนเธอถึงมองไม่ทะลุ



[---]“ไปดูหนังกันก่อนมั๊ย” เธอควงแขนอีกข้างของไอรดาแทน



[---]“ไอเลือกเรื่องเลย” เธอบอก



[---]หนังแนวตลกโปกฮาที่ไอรดาเลือก ก็พอจะบอกได้ว่าเจ้าตัวต้องการหัวเราะบ้างไรบ้าง เพราะเท่าที่กมลชนกสังเกตเห็นไม่เคยมีรอยยิ้มจากคนสวยตลอดเวลาที่อยู่บริษัท หรือบางทีหล่อนก็แกล้งหัวเราะเพื่อเอาใจคนรอบข้าง ผิดกับแววตาเหมือนคิดเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา



[---]เสียงหัวเราะดังก้องโรงหนัง กมลชนกไม่ได้หัวเราะตามเธอแอบพิจารณาท่าทางคนข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว หล่อนเหมือนจะพยามตักตวงเสียงหัวเราะเก็บเอาไว้ เตรียมพร้อมกับอะไรบางอย่างที่เธอก็ยังไม่สามารถเดาได้ มันต้องมีเรื่องที่หลุดออกมาบ้างล่ะไอรดา! เธอคิด แล้วเอื้อมมือไปลูบมือคนข้างๆ ให้สะดุ้งหันมามอง กมลชนกจึงยิ้มหวานตอบ เขี่ยคลึงนิ้วมือเล็กๆ นั่นเล่น



[---]ไอรดาตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ กมลชนกก็มาจับมือเธอเอาดื้อๆ มันจะมีความหมายอะไรซ่อนเร้นรึเปล่านี่ เธอไม่อยากคิดให้มากความ แต่สายตาหวานเยิ้มกับรอยยิ้มนั่น แทบจะเปลี่ยนหนังตลกให้กลายเป็นหนังโรแมนติกไปซะเดี๋ยวนี้เลย นิสัยผู้หญิงคนนี้ช่างคล้ายกับเพื่อนเธอในตอนเรียนนัก มันช่างร่าเริง สดใส เปลี่ยนโลกสีหม่นให้สว่างไสวได้อย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะหวั่นไหวไปบางครั้ง แต่ความคล้ายไม่ใช่ความเหมือน และความหวั่นไหวไม่ใช่ความรัก เธอจึงไม่ได้คิดมากเกินไปกว่ารู้สึกดี



........................



[---]“สนุกมั๊ย”



[---]“มากค่ะ อยากมาดูนานแล้วแต่ไม่มีเวลา” ไอรดาตอบ



[---]“งั้นวันหลังนกจะพามาอีก ไอก็หาวันว่างๆ ไว้บ้างสิ”



[---]“รบกวนเปล่าๆ มั๊งคะ ไอเกรงใจ”



[---]“จะเกรงใจทำไมเล่า เอ๊านี่” เธอป้อนซูชิพอดีคำให้ไอรดาที่อึ้งไปหน่อยแล้วงับมากินแบบไม่ให้เสียน้ำใจ



[---]ตึกๆ ตักๆ....นั่นเสียงหัวใจเธอเอง ไม่ใช่อะไรหรอก ไม่ต้องแปลกใจไปที่มันจะดังผิดปกติไปหน่อย คนอะไรนะช่างเอาใจ น่ารักที่ซู๊ด พามากินอาหารที่ชอบ ดูหนังที่เรื่องที่อยากดู ไม่ขัดใจเธอเลยสักนิด



[---]ซูชิชิ้นนี้ทำไมอร่อยจังเลย นี่เพื่อนเจ้านายเธอแน่เหรอ ทำไมช่างต่างกันลิบลับ เป็นเพื่อนกันได้ยังไง๊



[---]เพื่อนของเจ้านายเธอคนนี้ต้องการอะไรกันแน่นะ ถ้าเจอกันโดยที่เธอไม่รู้จักอรวีมาก่อน บางทีเธอคงจะหลงไปกับการกระทำของหล่อนอย่างไม่ต้องสงสัย



[---]หากแต่มันต้องมีบางสิ่งที่เธอยังไม่รู้แน่ชัด มันจะเหมือนแอปเปิ้ลอาบยาพิษ หรือลูกอมแสนหวาน คงต้องรอพิสูจน์กันล่ะ ส่วนตอนนี้ขอกัดอีกสักคำละกันสำหรับซูชิหวานจ๋อย



........................



[---]ติ๊ดๆ ๆ ใครกันนะโทรมากวนคนสวยให้อารมณ์เสีย กำลังฝันหวานอยู่กับคนตรงหน้าอยู่เลย คอยดูนะถ้าเรื่องไม่สำคัญแม่จะตัดสายทิ้งเลยคอยดู



[---]“คุณป้า ว่าไงคะ” ไอรดากดรับสายที่ระบุว่ามาจากเบอร์ของคอนโด เมื่อเช้าเธอก็รีบจนลืมจ่ายเงินค่าเช่า สงสัยเจ้าของที่พักคงโทรมาเตือนตามปกติ รอกลับไปก่อนไม่ได้หรือไง๊!



[---]“ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ” กมลชนกมองดูเลขาเพื่อนที่ออกอาการหน้าซีดเผือดในทันที หล่อนพูดคุยไม่นานกับโทรศัพท์เครื่องเก่าๆ มือน้อยๆ นั้นสั่นเทา ดวงตาพร่ามัวไปด้วยหยดน้ำ



[---]“ไอๆ เป็นอะไร” เธอรีบถามอย่างตกใจ



[---]“คุณนก รบกวนไปส่งไอที่โรงพยาบาลหน่อยนะคะ” เสียงแหบพร่า เธอตั้งสติขึ้นมาทันที เพราะรู้ว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกิดกับเธอในเร็ววัน หากแต่มันก็สลดใจที่รู้ว่ามันจะเกิดเร็วกว่าที่คาดไว้มาก



........................