ดอกเบี้ย ตอนที่12



[---]อรวีนั่งรอพบเพื่อนอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมือง หลังจากเดินช็อปปิ้งช่วงบ่ายอย่างเหม่อลอย ใจก็คิดไปถึงลิปสติกที่เปื้อนปากเธอกับหน้าของยัยเลขา



[---]ยังไม่ทันได้ด่าเรื่องที่หล่อนบังอาจแกล้งเธอตอนหลับ เวลานั้นความคิดอื่นมามันแทนที่เสียก่อน เกือบจะประกบปากยัยนั่นซะแล้ว ถ้าทำไปจริงๆ โอ๊ยไม่อยากคิด อะไรทำให้เธอเกิดเพี้ยนขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย ควบคุมตัวเองหน่อยสิอร



[---]“ไรยะยายอร มานั่งจิตตกอะไรอยู่ตรงนี้ ฉันเรียกแกตั้งนานไม่หันมา” เพื่อนสาวทักเธอ



[---]“เปล่าๆ ฉันรอแกนานมากเลย”



[---]“ก็คนต้องทำงานนี่ พึ่งออกเวร ไหนแผลแก” อรวีเปิดแขนเสื้อที่คลุมอยู่ออกให้เพื่อนตรวจดู



[---]“ก็ไม่มากนะ ป่ะไปห้องทำแผล”



[---]“อ่าวแล้วไม่ต้อง ยื่นเอกสารกับโรงพยาบาลหรอกเหรอ”



[---]“ฟรีจ๊ะๆ เอาเถอะน่า แผลไม่มาก ฉันตัดไหมออกไม่เกินห้านาที” แล้วก็เดินนำเข้าห้องทำแผลไป



[---]คุณหมอคนเก่งจัดการได้รวดเร็วเหมือนที่พูด จนอรวีแอบคิดว่าถ้าตัดไหมจะง่ายขนาดนี้เธอตัดออกเองก็หมดเรื่อง



[---]“ไง เก่งมั๊ย” ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องทำแผล



[---]“อืม เก่งก็เก่ง ว่าแต่แกขาวขึ้นเยอะเลยนะ”



[---]“นิดหน่อยอ่ะ ฉันทำแต่งาน ไม่ค่อยมีเวลาออกแดดหรอก”



[---]“พักบ้างไรบ้าง นี่ว่างๆ เราไปเที่ยวไกลๆ กันมั๊ย ชวนนกไปด้วย”



[---]“ก็ดีนะแก แต่เค้าไม่อยากเป็นก้างพวกแกหรอก เดี๋ยวก็ตัวเองอย่างนั้นตัวเองอย่างนี้ โอ๊ยหมั่นไส้ ระวังคู่หมั้นจะสงสัยเอานะ”



[---]“นี่ก็อิจฉาไปเรื่อย เค้าพูดกันอย่างนั้นมานานละ แกนั่นแหละไม่อ่อนหวานเอาซะเล้ย สงสารคนไข้หมด เจอหมอโหด”



[---]“โหดแต่เก่งอ่ะ ฮ่าๆ”



[---]แม้เพื่อนเธอจะเรียนจบได้ไม่นาน แต่เมื่อเทียบความสามารถแล้วถือว่าข้ามขั้น เพราะมาริสาสืบสายเลือดมาจากพ่อแม่ที่เป็นแพทย์ นี่ยังไม่รวมถึงลุงกับอาด้วย เรียกได้ว่าเก่งๆ กันทั้งนั้น หล่อนจึงเรียนรู้ได้เร็ว ทั้งยังมีแพทย์ผู้ชำนาญจากทางครอบครัวเป็นที่ปรึกษาอีกหลายคน เจ็บป่วยกันที ไม่ต้องหอบสังขารมาโรงพยาบาลก็ได้ รักษากันเองเลย



[---]“ไม่ถ่อมตัวเลยเพื่อนฉัน” อรวีส่ายหน้า



[---]“ก็มันจริงอะ เข้าเรื่องดีกว่าฉันเริ่มหิวแล้ว แกจะกินไร” เปลี่ยนเรื่องได้เร็วกว่าที่คาด



[---]“ตามใจ แกเลือกเลย...เอาร้านก๋วยเตี๋ยวที่แกว่าอร่อยนั่นก็ได้” อรวีรีบพูดก่อนที่คุณหมอคนเก่งจะเลือกร้านข้าวราดแกงร้านข้างๆ โรงพยาบาลที่เธอมักจะได้กินประจำ



[---]“อ่าวไหนว่าให้เลือก เล่นบอกจะกินก๋วยเตี๋ยวซะงั้น” จริงดังที่อรวีคาดเพราะสายตานั้นเริ่มสอดสายไปทางร้านข้าวราดแกง



[---]อรวีคุยตามภาษาเพื่อนสมัยเรียนอยู่พักใหญ่ แล้วก็รีบขอตัวกลับเพราะเห็นว่าเพื่อนต้องเข้าเวรอีกทีพรุ่งนี้เช้า แล้วเธอเองก็อยากหลับเต็มที เมื่อวานก็แทบไม่ได้นอน ช่วงบ่ายนี้ ยัยเลขายังมาแกล้งไม่เป็นเวลาอีก แล้วคืนนี้จะได้หลับมั๊ยเนี่ย เกิดยัยนั่นคิดแผนมาป่วนเธออีกจะทำยังไง หรือเธอจะเช่าห้องพักเพิ่มดีนะ ไม่ดีกว่าแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าละ จะมาเปลืองค่าใช้จ่ายทำไมกัน



........................



[---]ก๊อก ๆๆๆ เสียงเคาะประตูห้องอย่างรอคอย ผ่านไปนานจนผิดสังเกต ไอรดาก็ไม่ยอมมาเปิดสักที โรงแรมก็ดันให้กุญแจมาแค่ดอกเดียวเสียด้วย เธอจึงหยิบโทรศัพท์กดโทรหาเลขา มีเสียงเบาๆ ลอดออกมาจากในห้อง หรือยัยนี่จะแกล้งอะไรเธออีกล่ะ อรวีตัดสินใจเคาะอีกครั้งให้ดังกว่าเดิม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครมาเปิดประตู



[---]“ฉันขอกุญแจสำรองห้อง206 หน่อยค่ะ พอดีว่าเพื่อนร่วมห้องยังไม่กลับเลยเข้าห้องไม่ได้”



[---]เธอรับกุญแจเดินไปเปิดห้องด้วยความโมโห นี่ก็แกล้งกันไม่เป็นเวร่ำเวลา ดึกขนาดนี้จะว่าหลับสนิทก็ไม่ใช่ จะไม่ได้ยินรึก็ไม่ใช่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังออกขนาดนั้น



[---]“ไอรดา” เป็นคำแรกที่เธอพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องพักเข้าไปได้ สายตาสอดส่องหาตัวการไปทั่ว เปิดห้องน้ำ ก้มดูใต้โต๊ะ ส่องดูใต้เตียง สำรวจตู้เสื้อผ้าอย่างไรก็ไม่พบ ไปไหนของเค้านะดึกขนาดนี้ มือถือก็ไม่เอาไป จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า



[---]สุดท้ายก็หยุดหาเพราะไม่พอใจในความกระวนกระวายของตัวเอง เดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำหลับดีกว่า ใครจะมานั่งเป็นห่วงยัยนี่กัน โตป่านนี้แล้วจะไปไหนก็เรื่องของหล่อน แวบหนึ่งของความคิดก็นึกไปถึงเจ้าของร้านเช่ารถ ตามมาด้วยหงุดหงิดในอารมณ์



[---]“นี่ยังไม่กลับอีก”



[---]อย่าให้จับได้นะ ว่าไปดี๊ด๊ากับใคร ฉันจะฟ้องพ่อ คราวนี้ล่ะไม่ต้องลงทุนลงแรงยัยนี่คงถูกไล่ออกเป็นแน่ เธอนั่งเช็ดผมอยู่หน้าโต๊ะแป้ง เปิดทีวีดูการ์ตูนเป็นเพื่อน อย่างน้อยห้องก็จะได้ไม่เงียบจนรู้สึกวังเวงในสถานที่ไม่คุ้นเคย



[---]เสียงประตูห้องถูกไขแล้วเปิดออก อรวีแสร้งว่าจดจ่ออยู่กับทีวีสีจอใหญ่ในห้อง แล้วเอ่ยแบบไม่สนใจกับเลขาสาวสวยที่เดินเป๋ไปมาเข้าห้องพัก



[---]“เธอไปไหนมา ทำไมไม่อยู่ในห้อง ทำให้ฉันต้องไปขอกุญแจกับทางโรงแรมเพิ่มอีก”



[---]“ขอโทษๆ ฉันคุยกับคุณประสิทธิ์นานไปหน่อย” คุยกันถูกคอจนล่วงเลยเวลามานาน



[---]“เขาอยู่ไหนแล้ว” อรวีถาม



[---]“พึ่งมาส่งฉันเมื่อกี้” เลขาวางเอกสารลงบนเครื่องแป้ง หันเดินไปยังห้องน้ำ



[---]“นี่เธอดื่มกับเขามาเหรอ” อรวีดึงแขนไอรดาให้หันมา ทีวีที่เธอแกล้งจ้องมองอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่ บัดนี้กลายเป็นสิ่งที่อยู่นอกสายตาไปแล้ว



[---]“อ่า ใช่ ทามไมเหรอ”



[---]“เค้าจะมองบริษัทเราว่ายังไง ไปติดต่องานนะ ไม่ใช่ไปนั่งดื่ม แล้วทำไมไปดื่มจนเมามายขนาดนี้”



[---]“โทษที ช้านนนแค่คุยกับเค้าติดลมไปหน่อยเองง” แววตาล่องลอยมองไปยังเจ้านาย



[---]“แล้วคุยกันเรื่องอะไร ทำไมไม่กลับห้องสักที” อรวีเริ่มบีบแขนคนตรงหน้าแรงขึ้นอย่างคาดคั้นจะเอาคำตอบ



[---]“ช่างงงเหอะะ ม่ายยมีไรมากหรอก” เจ้านายจะมาสนใจเอาอะไรตอนนี้ ไม่เข้าเลยจริงๆ



[---]“เรื่องอะไรไหนบอกมาสิ” คราวนี้เธอเผลอจิกเล็บลงตรงแขนหล่อนจนคนเมาหน้านิ่ว



[---]“เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย อ่า ช้านขออาบน้ำนอนก่อนนะ ง่วงมากเลย” ไอรดาพยามจะปัดแขนเจ้านายออกด้วยมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่



[---]“บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอตวาด เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ตั้งแต่ได้ยินคำว่าเรื่องส่วนตัว อะไรมันจะส่วนตัวขนาดนั้น บอกหน่อยไม่ได้หรือยังไงกัน



[---]“ฉันก็ด้ายสัญญาไรนั่น มาให้คุณแล้วงาย จะเอาไรอีก” คราวนี้คนเมาสะบัดแขนให้แรงขึ้นอีก



[---]ไม่อยากจะเล่าความจริงที่คุณประสิทธิ์ขอร้องให้เป็นความลับระหว่างเขาและเธอ จนกว่าเขาจะปูทางให้พร้อมเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจส่งผลต่อธุรกิจ ด้วยความที่สังคมยังไม่เปิดกว้างเขาจึงยังต้องรอเวลาเหมาะสม



[---]“เธอนี่มันจริงๆ เลยนะไอรดา เห็นสบโอกาสเข้าหน่อยก็จะจับ มันหนุ่มกว่า รวยกว่าพ่อฉันใช่มั๊ยล่ะ แล้วได้กันไปกี่ครั้งแล้วล่ะ ถึงเดินเป๋กลับมาห้องเนี่ย” สาดคำพูดอย่างเหยียดหยามพร้อมกับสายตาดูแคลน



[---]อรวีไม่สนสัญญาอะไรนั่นอีกแล้ว ในความคิดเธอตอนนี้ ไอรดาเป็นผู้หญิงที่ใช้รูปร่างหน้าตาเพื่อหวังความสบาย ความสวยงามนี้มันช่างสกปรกนัก หล่อนน่ารังเกียจที่สุด



[---]เพี๊ยะ! จบประโยคคนเมาไม่สนอีกต่อไปแล้วว่านี่คือเจ้านายเธอ ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ว่าไม่เคยคิดถึงเธอในแง่ดีบ้างเลย เธอตบเจ้านายไปสุดแรง แล้วจะง้างมือที่ว่างอยู่ขึ้นจัดการกับหล่อนอีกครั้ง ให้หล่อนเจ็บปวดบ้างสิ ทรมานบ้างอย่างที่เธอรู้สึก



[---]“โอ๊ย” ด้วยความเร็วอรวีบิดแขนข้างที่ยัยเลขาตบเธอให้พลิกไขว้หลังโดยที่เจ้าตัวนั้นคงจะตกใจอย่างสุดขีดเพราะตอนนี้แขนข้างหนึ่งถูกกระชากให้ไพล่หลัง ลำตัวถูกดันไว้กับผนัง หล่อนหมดทางดิ้นอย่างสิ้นเชิง อย่าได้คิดจะทำร้ายเธอ เพราะหากได้จังหวะแล้วเธอจะเอาคืนอย่างสุดแสน



[---]“คิดจะตบฉันอีกเหรอไอรดา อย่างเธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ข้างนี้ใช่ไหมที่ตบ ฉันจะหักมัน” อรวีบิดข้อแขนเลขาให้แน่นขึ้นอีก ใช้ตัวดันเข้ากับร่างนั้นไว้อย่างง่ายดาย



[---]“หยุดนะ คุณจะทำอะไร ช่วย..อื้อออ” มือบางปิดปากเธอไว้ ซ้ำยังเพิ่มความถี่อย่างคงที่ไปยังแขนของเธอจนเริ่มปวดหนึบ เจ้านายบ้านี่คิดจะบิดแขนเธอให้หักจริงๆ เธอไม่สามารถดิ้นได้เลย เพราะหากดิ้นรนความเจ็บก็ยิ่งทวี ตาเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำหยดใสๆ เสียงสะอื้นบางเบาเหมือนจะขาดใจ จะไม่ทำให้อีกคนใจอ่อนบ้างหรือยังไง



[---]อรวีเริ่มได้สติกลับมาเมื่อรู้สึกถึงน้ำตาหยดใส่มือข้างที่อุดปากคนเมาไว้ เธอจึงปล่อยมือออกจากปาก แต่ยังไม่คลายข้อมือจากแขนข้างที่เธอเอ่ยไปว่าจะหักมัน



[---]“ฉะ ฉัน ขอ ท โทษ” พยามพูดให้เป็นประโยคที่ดูเหมือนจะพร่ำวกไปวนมาอยู่แต่คำว่าขอโทษ



[---]“บอกฉันมาให้หมด เธอคิดจะทำอะไรกันแน่”



[---]“ฉัน บะบอก คุณ ม่าย ได้” ยังสะอื้นไม่หยุด มันปวดร้าวไปหมด เจ้านายเธอไปเรียนรู้ไอ่วิธีเอาคืนแสนโหดนี่มาจากไหนกัน



[---]เกิดเสียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่ออรวีบิดข้อแขนของเธออย่างหนักมากขึ้น ความเจ็บปวดเรียกเอาสติคืนมาจากความเมามายได้เยอะ



[---]“อย่าาาา ทำ ร้าย ฉัน ฉะ ฉัน ยอมแล้ว”



[---]“แล้วทีเธอตบฉันล่ะ นี่ยังจะตบอีกครั้งด้วย”



[---]“ฉะ ฉัน ม่ายได้ ตั้งใจ” ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเมื่อความทรมานยังคงไม่หยุด



[---]“อย่าคิดจะทำให้ฉันเจ็บอีก ไม่งั้นเธอจะได้ผลตอบแทนอย่างสาสม แล้วเรื่องคุณประสิทธิ์ถ้าเธอเล่าไม่ได้ ฉันจะถือว่าเธอทรยศพ่อ เรื่องนี้ต้องถึงหูท่านพรุ่งนี้เช้า เตรียมเก็บของไปอยู่กับกิ๊กใหม่เธอได้เลย” อรวีปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระ ซึ่งตอนนี้ทรุดนั่งลงพื้นร้องไห้กอดแขนตัวเองเอาไว้ ช่างน่าเวทนาเสียจริงเชียว



[---]“หยุดร้องได้แล้ว มันหนวกหู ฉันจะหลับ” เธอเดินตรงไปที่เตียงแล้วก็ต้องหยุดไว้เมื่อมีมือมาดึงชายเสื้อ



[---]“คุณมันขี้ฟ้อง เอะอะอะไรก็จะฟ้อง....ฉัน ไม่ได้ ทำอะไรผิด คุณจะไม่บอกคุณท่าน ใช่ไหม” สายตานั้นช่างน่าสมเพชยิ่งนักในความคิดอรวี



[---]“อย่ามาแตะชุดนอนฉันนะ ราคามันแพงมากว่ามือเธออีก” เธอตวาดให้คนฟังใจหายวาบ



[---]“ฉันขอร้องนะ คุณอร” เธอรีบลุกขึ้นมาขวางเมื่อเจ้านายสะบัดตัวเดินออกห่าง



[---]“เธอน่ารังเกียจจริงๆ เลย ฉันไปเช่าห้องเพิ่มดีกว่า หายใจห้องเดียวกับเธอแล้วมันอึดอัด” อรวีไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้ เพราะไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือเพราะยัยนี่หักหลังพ่อเธอ หรืออาจเพราะตัวเองที่คาดหวังกับบางสิ่งมากเกินไป



[---]“อย่า ไป” ไอรดารั้งเจ้านายไว้ด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บปวด พยามจะยื้ออีกคนไว้ เธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้คนๆ นี้ออกไปอย่างเข้าใจเธอผิดไปตลอด



[---]“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะหักแขนเธอทั้งสองข้างจริงด้วย” ไม่ต้องมาเกาะเธอเลยนะ คำโกหกมันหลอกเธอไม่ได้หรอก



[---]“คุณ จะหักคอฉัน ตอนนี้ ฉันก็ยืนยันคำเดิมว่า ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” ถ้าปล่อยให้เดินออกไป หล่อนคงจะไม่มีวันเข้าใจไปตลอด



[---]“ฉันจะบอกพ่อแน่นอน” อรวีเริ่มขู่อีกครั้ง เรื่องบานปลายมาขนาดนี้จะต้องรีบเตือนพ่อให้รับรู้



[---]“คุณจะบอกยังไงก็แล้วแต่ ขอแค่เชื่อฉันก็พอ” ไอรดาคลายมือออก จ้องไปยังแววตาอีกคนที่ไม่อาจรู้ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่



[---]“แล้วรอยแดงนั่นล่ะ” อรวีมองไปยังสาเหตุที่เพิ่มเอาความโมโหเธอให้คุกรุ่น มันบ่งบอกชัดเจนตั้งแต่เลขาเดินเข้าห้องมา อาการอ้ำอึ้งไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังอีก พอโดนจับได้ก็คิดกุเรื่องราวขึ้นมาล่ะสิ ร้ายกาจนักนะไอรดา



[---]“เขาพยาม จูบ ฉัน”



[---]“นั่นไง เธอก็จูบต่อใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นคงกลับมาห้องนานแล้ว” เธอส่ายหน้าจะเดินออกห้อง



[---]“คุณฟังให้จบก่อนได้มั๊ย” เธอรั้งคนอารมณ์ร้อนไว้อีกครั้ง แล้วรีบตั้งสติพูดต่อ...



[---]“เขาหยุดอยู่แค่นั้น เวลาที่เหลือแค่คุยกัน หลายๆ เรื่อง...”



[---]ไอรดาเริ่มเล่าถึงปากกานำโชค แต่ไม่ได้พูดเกี่ยวกับคนที่ให้ปากกานั้นกับคุณประสิทธิ์ เรื่องที่เขาซนมากในวัยเด็ก เรื่องที่เขาติดดินจนหลายคนคิดว่าเป็นเศรษฐีเก๊



[---]“แค่นั้นเหรอ” อรวียังคงไม่เชื่อถึงเรื่องที่เธอเล่า เพราะใครๆ ก็สามารถกุขึ้นมาได้



[---]“แล้วทำยังไงคุณถึงจะเชื่อล่ะ” เธอถามอย่างหมดหวัง



[---]“พอเถอะ เธอยอมรับความจริงมันง่ายกว่านะ พ่อฉันคงไม่หึงร้ายขนาดนั้นหรอก อย่างมากเธอก็แค่ออกจากบริษัทไปหางานใหม่ซะ จบแค่นั่นแหละ” เจ้านายพูด



[---]ตอนนี้น้ำเสียงเธอเริ่มอ่อนลงแล้ว ไม่ได้โมโหอย่างเมื่อครู่ เพราะคิดได้ว่าเธอเองไม่ได้มีสิทธิ์ไปจัดการเรื่องนี้แทนพ่อ หน้าที่เธอคือบอกเขาไม่ให้ถูกสวมเขาไปมากว่านี้



[---]“ที่ฉันพูดคือความจริง ถ้าคุณไม่เชื่อฉันก็ลองพิสูจน์ดูสิว่าฉันไม่ได้โกหก” เธอดึงเจ้านายให้หันมาสบตา



[---]อรวีจะต้องเชื่อไม่ใช่แค่แววตาเธอที่บอก แต่ด้วยทุกสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อออกไปจริงๆ



[---]“ยังไงล่ะ” อีกคนเลิกคิ้วอย่างสงสัย เรื่องแบบนี้ใครพูดได้ แค่บอกว่าไม่มีอะไร



[---]“สัมผัสฉันสิ คุณจะรู้ว่าฉันไม่ได้หลอกคุณ” เลขาดึงมือข้างหนึ่งของเจ้านายมาทาบกับต้นขา เอาสิใช้วิธีนี้พิสูจน์กันไปเลย อย่างน้อยก็จะได้รู้ความจริงกันซักที



[---]“....” อรวีอึ้งอยู่กับคำพูดของยัยเลขา เล่นเอาลมหัวใจกระตุกวูบวาบ ถ้าเธอทำตามที่คนตรงหน้าบอก กลัวว่าบางสิ่งในใจตัวเองว่ามันจะไม่หยุดอยู่แค่การพิสูจน์ความจริง แล้วยิ่งสายตาสายตาจริงจังที่บอกว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจนั่นอีก ใครล่ะจะไม่เชื่อ



[---]“นี่เธอจะบ้าเหรอ ใครจะทำอย่างนั้นกัน” อรวีรีบชักมือออกจากขาเรียวนั่น ตัวเลขาช่างนุ่มนิ่มเสียจริง อุ๊บ! แย่แล้ว ฉันคิดอะไรไปนี่



[---]“คุณจะได้เลิกสงสัยฉันไง” เธอยังจ้องตาเจ้านายอยู่



[---]“ก็ได้ๆ ฉันเชื่อเธอละ”



[---]“แล้วนั่นคุณจะไปไหน” ไอรดารีบถามเมื่อเห็นว่าอีกคนจะเดินออกห้องไปอีก



[---]“ไปเปิดห้องเพิ่มสิ กว่าเธอจะอาบน้ำ ทาครีม ฉันคงได้หลับตาหรอกแสงไฟคงแยงตาฉันพอดี” ตอบไม่ตรงความจริง ที่จริงอยากจะพูดไปเหลือเกินว่าฉันจะหลับลงได้ยังไง ก็เธอดันพูดซะใจสั่น



[---]“เรื่องไฟ ฉันจะเปิดแต่ในห้องน้ำ คุณหลับได้เลย ฉันไม่ทำเสียงดังหรอก”



[---]“ไม่ดีกว่า ฉันว่าฉันไป…” แล้วเธอก็ต้องเดินไปตามแรงดึงของเลขาอย่างง่ายดายจนไม่คิดว่าตัวเองจะยอมเดินตามอย่างว่าง่ายขนาดนี้ แรงที่ว่ามีเมื่อครู่จางหายไปหมด



[---]“หลับสิ แล้วอย่าตื่นมาบีบคอฉันนะ” ไอรดาดันเจ้านายให้นอนลงห่มผ้าให้ แล้วสื่อสารด้วยสายตาว่าห้ามลุกไปไหน



........................



[---]อรวีนอนตะแคงพยามข่มตาให้หลับอย่างยากลำบาก นี่ก็เป็นอีกคืนที่ยัยนี่ทำให้เธอหลับไม่ลง เสียงน้ำในห้องน้ำดังขึ้นอยู่สักพัก จนหล่อนเดินออกมาทาครีมบนใบหน้าในความมืด ชโลมโลชั่นตามแขนขา กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาแตะจมูกเธอ เพิ่มความร้อนในตัวอย่างมหาศาล



[---]แม้ว่าแอร์ในห้องจะหนาวเย็น ได้ยินเสียงไอรดาบ่นว่าแอร์นี่ปรับยังไงกันทำไมหนาวอย่างนี้นะ แล้วจัดแจงเดินอ้อมเตียงเธอไปปรับรีโมทแอร์ตรงผาผนัง



[---]“ฉันทำเสียงดังรบกวนรึเปล่า” เธอถามเมื่อเห็นรางๆ ว่าคนนอนลืมตาขึ้น



[---]“ไม่หรอก” แต่เธอก่อกวนใจฉันเสียมากกว่า



[---]เลขาจะเดินอ้อมไปยังเตียงของตัวเอง แล้วก็ต้องร้องอย่างสะดุ้งปนปวดหนึบ เมื่อเจ้านายดึงแขนข้างที่เธอเจ็บให้ล้มลงกับเตียงของหล่อน



[---]“โอ๊ย ฉันไม่ได้ไปตบคุณแล้วนะ” ไอรดาว่าพลางลูบแขนข้างที่เจ็บปวด



[---]“นอนกับฉัน” เธอพูดทำเอาคนฟังเบิกตากว้างอย่างตกใจ



[---]“มันแปลกที่แล้วหลับไม่ลง” อรวีรีบต่อให้จบประโยค ก่อนที่ใจจะเตลิดไปกับคำพูดของตัวเอง



[---]“โธ่ คุณอร แค่นี้บอกดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องดึงฉันแรงขนาดนี้” ว่าพลางเท้าแขนอีกข้างเอื้อมมือไปหยิบหมอนที่อีกเตียง โดยไม่รู้ว่ากริยาที่เธอทำ จะทำให้ใครแทบหยุดหายใจเมื่อระหว่างนั้นอยู่ใกล้กันแค่คืบเดียว



[---]ไอรดานอนตะแคงทับแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้ เธอโล่งอกที่เจ้านายเข้าใจเธอถูก แต่ก็เริ่มกลัวอารมณ์โกรธของคนตรงหน้า ทำไมต้องรุนแรงขนาดนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ฟังอะไรจากเธอเลยสักคำ



........................



[
---]อรวีค่อยๆ เอื้อมมือไปกอดอีกคนที่อาจหลับไปแล้วเอาไว้ วันนี้เธอหงุดหงิดมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันร้อนรุ่มไปหมดเมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรมา ไม่ใช่หน้าที่เธอเลยด้วยซ้ำที่จะต้องมาคอยโมโห ดีเสียอีกที่ได้เห็นธาตุแท้ของยัยนี่ จะได้ไล่หล่อนออกไปได้ง่ายขึ้น แต่ในใจลึกๆ เธอเองกลับรู้สึกว่าอยากให้คำพูดที่หล่อนเอ่ยมาเป็นความจริงเหลือเกิน ซึ่งตอนนี้เธอก็เชื่ออย่างหมดใจ เอ้ย! เชื่ออย่างสนิทใจ จะว่าอะไรมั๊ยนะถ้าจะขอกอดยัยนี่เอาไว้จนกว่าจะเช้า อย่างน้อยก็ทำให้เธอมีความสุขอย่างประหลาด อรวีหลับตาลงอีกครั้ง....หากแต่สมองเจ้ากรรมนี้ไม่ยอมหลับอีกแล้ว



........................